'พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์' ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มอบ 15 นโยบายบริหารราชการ ย้ำเปลี่ยนแนวคิด ปรับองค์กร เร่งปราบปรามอาชญากรรม เพิ่มขีดความสามารถสถานีตำรวจ ดูแลสวัสดิการตำรวจ-ครอบครัว สร้างความเชื่อมั่น-ศรัทธาให้กับประชาชน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 4 พ.ย. 2567 พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายการบริหารราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ 2568 ณ ห้องแจ้งยอดสุข อาคารศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรและสวัสดิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, ข้าราชการตำรวจระดับ พล.ต.ต. ขึ้นไป พร้อมทั้งสมาคมแม่บ้านตำรวจ จำนวนกว่า 465 นาย เข้าร่วมประชุม ณ ห้องแจ้งยอดสุข สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และถ่ายทอดสัญญาณผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ไปยังหน่วยงานตำรวจทั่วไปประเทศ เพื่อร่วมรับฟังวิสัยทัศน์และนโยบายการบริหารราชการของผู้บัญชาการตำรวจคนที่ 15 ภายใต้วิสัยทัศน์ “เป็นตำรวจมืออาชีพ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต โปร่งใส เพื่อให้เกิดความผาสุกแก่ประชาชน”
โอกาสนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้อัญเชิญพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานหนังสือชุด ธรรมนาวา “วัง” เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ดังนี้
“หลัก “ธรรม” ในพระศาสนา เป็นเรื่องสำคัญต่อมวลมนุษยชาติ และพวกเราทั้งหลายในฐานะทหาร และตำรวจ หลักปฏิบัติธรรมมะนาวาวังนี้ จะช่วยให้พวกเราได้เข้าใจในหลักธรรมคำสอนได้อย่างมีระบบระเบียบ โดยสามารถยึดถือเป็นหลักการและแนวทางในการศึกษา ฝึกปฏิบัติ ตลอดจนถึงการนำไปใช้ในการดำเนินชีวิต
อนึ่งการทหาร การตำรวจ กับ หลักธรรมคำสอนในพระศาสนานั้น หากพวกเราได้ทำความเข้าใจในธรรมะและศาสนา คือคำสอนที่ว่าด้วยเรื่องของชีวิต ตามความเป็นจริง สู่การดับทุกข์อย่างลึกซึ้งแล้วนั้น จะส่งผลให้สามารถครองตนและครองคนโดยธรรมได้เป็นอย่างดีและมั่นคงต่อไป”
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้มอบ 15 นโยบายหลัก เน้นหนัก และเร่งด่วน ดังนี้
1. ปกป้อง เทิดทูน และพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2. เปลี่ยนแนวคิด ค่านิยม และกรอบความคิด (MINDSET) ให้ตำรวจเป็นที่พึ่งของประชาชน
3. สร้างขวัญกำลังใจ ให้รางวัลแก่ “ตำรวจน้ำดี” และพิจารณาลงโทษตำรวจที่ทำไม่ดีอย่างเด็ดขาด
4. ปรับปรุงการให้บริการ การอำนวยความสะดวกในหน้าที่ของตำรวจทุกด้าน พัฒนางานสถานีตำรวจ
5. ส่งเสริม สนับสนุน และแก้ไขปัญหางานสอบสวน รวมทั้งอำนวยความยุติธรรมทางอาญา
6. ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมที่ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน และเป็นภัยคุกคามต่อความสงบเรียบร้อยของประเทศ เช่น ยาเสพติด อาชญากรรมทางเทคโนโลยี ค้ามนุษย์ ผู้มีอิทธิพล อบายมุข บ่อนการพนัน การพนันออนไลน์ สินค้าผิดกฎหมายหรือเลี่ยงภาษีศุลกากร และหนี้นอกระบบ
7. ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ และกลุ่มชาวชาวต่างชาติที่ประกอบธุรกิจโดยใช้นอมินี แรงงานต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองหรือทำงานโดยผิดกฎหมาย
8. สร้างเสริมวินัยจราจร บังคับใช้กฎหมายและแก้ปัญหาด้านการจราจรเพื่อลดอุบัติเหตุ
9. นโยบายเชิงรุกด้านการข่าว ร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง
10. สร้างความโปร่งใส และการมีส่วนร่วมของประชาชน ประชาสัมพันธ์เชิงรุก และเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร
11. ปรับปรุง พัฒนาระบบและวิธีการทำงาน เพื่อสร้างแผนแม่บท (MASTER PLAN)
12. ปรับการบริหารงานบุคคลและงบประมาณใหม่
13. ทบทวน แก้ไข ปรับปรุง ระเบียบคำสั่ง กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับงานของตำรวจ และการปรับปรุงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
14. ฝึกอบรม ทบทวน พัฒนา ทักษะ เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพในการทำงานของตำรวจ
15. จัดสวัสดิการ สิทธิประโยชน์ที่ตำรวจพึงมีอย่างเต็มที่ รวมถึงการแก้ปัญหาหนี้สินของตำรวจ การสร้างอาชีพเสริมรายได้โดยสุจริต และไม่กระทบกับงานประจำ
ข้อเน้นย้ำในการปฏิบัติราชการและความร่วมมือด้านต่าง ๆ
1. การสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปช่วยราชการ ต้องเป็นไปตามกฎหมายและระเบียบ โดยเฉพาะในสถานีตำรวจที่ต้องให้บริการประชาชน
2. สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ต้องไม่ปล่อยปละละเลยให้มีการลักลอบกระทำความผิดเกี่ยวกับแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง และประกอบอาชีพโดยผิดกฎหมาย
3. การดูแลนักท่องเที่ยว การรักษาความปลอดภัย ดูแลอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
4. การบริหารจัดการจราจร อำนวยความสะดวกการจราจร ป้องกันและลดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาล
5. สนับสนุนความร่วมมือในการทำงานของสมาคมแม่บ้านตำรวจร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
6. ผู้บัญชาการ/ผู้บังคับการ จะต้องเป็น Influencer ด้วยตนเอง ให้เป็นที่พึ่งของประชาชนอย่างแท้จริง
ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเน้นย้ำ จะต้องเห็นการเปลี่ยนแปลงทุกด้านภายในองค์กรตำรวจ ขอให้ตำรวจทุกนายปฏิบัติหน้าที่ให้มีประสิทธิภาพ เข้าถึงประชาชน สร้างความเชื่อมั่นและศรัทธาให้กับตำรวจ และขอให้สามัคคี ร่วมมือกันปฏิบัติหน้าที่ให้สมกับเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ เพื่อให้เกิดความผาสุกแก่ประชาชนและสังคมโดยรวม