‘สภาผู้บริโภค’ ชี้ช่องโหว่ทำ ‘ผู้บริโภค’ เสี่ยงได้รับ ‘ถังแก๊สหุงต้ม’ เสื่อมสภาพ แนะกระจายอำนาจให้ ‘ท้องถิ่น’ ทำหน้าที่สอดส่อง-ร่วมแก้ปัญหาการขายถังแก๊สฯ 'ไม่ได้มาตรฐาน'
...................................
เมื่อวันที่ 25 ก.ย. น.ส.จุฑา สังขชาติ หัวหน้าหน่วยงานประจำจังหวัดสงขลา สภาองค์กรของผู้บริโภค เปิดเผยว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีรายงานข่าวเหตุการณ์ถังแก๊สหุงต้มระเบิดหลายครั้ง ทำให้มีผู้บาดเจ็บและสร้างความเสียหายต่อบ้านเรือนจำนวนมาก และแม้ว่าในเดือน มี.ค.2567 ที่ผ่านมา กรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงพลังงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะออกมาตรการมากำกับดูแลและแก้ไขปัญหาถังแก๊สไม่ได้มาตรฐานแล้ว
แต่ยังพบช่องโหว่ต่างๆ ที่ทำให้ผู้บริโภคต้องเสี่ยงกับความไม่ปลอดภัย เช่น การร้องเรียนเพื่อให้ปัญหาได้รับการแก้ไขเป็นไปได้ยากลำบาก เพราะไม่มีใบเสร็จจากการซื้อหรือเปลี่ยนถังแก๊ส อีกทั้งพฤติกรรมในการเปลี่ยนถังแก๊สของผู้บริโภคมักไม่ได้เก็บใบเสร็จไว้ ขณะที่ผู้ประกอบการที่ควรมีหน้าที่ในการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนถังแก๊สที่เสื่อมสภาพ กลับปล่อยให้ถังเก่าเข้าสู่ตลาดอีกครั้ง ส่งผลให้ผู้บริโภคต้องรับภาระในการเปลี่ยนถังใหม่หรือต้องเสี่ยงกับถังแก๊สไม่ปลอดภัย
“ปัญหานี้ยังลุกลามไปถึงโรงบรรจุแก๊สหุงต้มในหลายพื้นที่ที่ไม่มีการกำกับดูแลอย่างเข้มงวด บางโรงบรรจุไม่คัดกรองถังแก๊สที่หมดอายุหรือเสื่อมสภาพอย่างจริงจัง หรือบางปั๊มน้ำมันอนุญาตให้เติมแก๊สได้ทุกยี่ห้อโดยไม่คำนึงถึงมาตรฐาน ขณะที่ร้านค้าชุมชนหรือร้านค้าขนาดเล็กในหมู่บ้านไม่มีระบบการจัดการถังแก๊สที่ดีเพียงพอ บางร้านนำถังที่เสื่อมสภาพมาซ่อมแล้วหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่ แม้กฎหมายจะระบุว่าต้องควบคุมมาตรฐานถังแก๊ส” น.ส.จุฑา ระบุ
น.ส.จุฑา ระบุว่า ปัญหาดังกล่าวสะท้อนถึงการขาดการจัดการที่มีประสิทธิภาพทั้งในระดับท้องถิ่นและประเทศ ซึ่งจากผลการสำรวจของเครือข่ายองค์กรของผู้บริโภคภาคใต้พบว่า ถังแก๊สกว่า 20% ในหลายจังหวัดไม่มีการระบุวันหมดอายุที่ชัดเจน ทำให้ผู้บริโภคไม่สามารถตรวจสอบคุณภาพของถังแก๊สได้ ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องลงมือแก้ไขอย่างจริงจัง โดยอาจให้อำนาจกับท้องถิ่นในการจัดการปัญหาและช่วยสอดส่องดูแลควบคุมการขายถังแก๊สที่มีมาตรฐาน
นอกจากนี้ ยังพบอีกว่ามาตรการลงโทษถือว่ายังเบาบาง ไม่สอดคล้องกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อความปลอดภัยของผู้บริโภคจนอาจทำให้ผู้ประกอบการที่กระทำผิดไม่เกรงกลัว และอาจจัดให้มีการขึ้นทะเบียนผู้ขายถังแก๊สเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคในการเลือกซื้อ ขณะเดียวกันควรให้ความรู้แก่ผู้บริโภคในการตรวจสอบวันหมดอายุของถังแก๊สและมาตรการความปลอดภัยต่างๆ เพื่อลดความเสี่ยงจากการใช้ถังที่ไม่ได้มาตรฐานในอนาคต
น.ส.จุฑา ระบุด้วยว่า ในช่วงเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา สภาผู้บริโภคได้เรียกร้องให้กรมธุรกิจพลังงาน แก้ไขปัญหาและให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด และได้รับการตอบกลับมาว่า ขณะนี้สำนักงานพลังงานจังหวัดสงขลา มีการตรวจสอบร้านค้าที่จำหน่ายแก๊สหุงต้มในพื้นที่ และกำชับให้ผู้ประกอบการสถานที่เก็บรักษาแก๊สหุงต้มประเภทร้านจำหน่ายทำตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด พร้อมจัดตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหาแก๊สปิโตรเลียมเหลวภาคครัวเรือนทั้งระบบ
อย่างไรก็ตาม สภาผู้บริโภคยังพบว่าในหลายส่วนยังไม่มีความชัดเจนของแผนการดำเนินงาน รวมถึงระยะเวลาการดำเนินงาน ดังนั้น จึงจะมีการส่งหนังสือสอบถามถึงประเด็นข้อสงสัยเพิ่มเติมไปยังกรมธุรกิจพลังงานอีกครั้ง
ทั้งนี้ สภาผู้บริโภคได้มีข้อเสนอเกี่ยวกับมาตรการและแผนการแก้ไขปัญหาถังแก๊สหุงต้มไม่ได้มาตรฐาน รวม 7 มาตรการ แบ่งเป็นมาตรการระยะสั้น 6 ข้อ และระยะยาว 1 ข้อ ประกอบด้วย
1.มาตรฐานและแก๊สหุงต้ม กำหนดเกณฑ์การจำแนกสภาพถังแก๊สหุงต้มให้เข้าใจได้อย่างง่ายดาย เพื่อลดปัญหาถังไม่ได้คุณภาพ และที่สำคัญได้กำชับให้เจ้าของถังหรือผู้ประกอบการต้องทดสอบและตรวจสอบ ทุกๆ 5 ปี ตามกฎหมาย
2.กฎหมายควบคุมโรงบรรจุและร้านจำหน่าย ตรวจสอบถังแก๊สที่จำหน่ายทั่วไปให้ประชาชนต้องเป็นไปตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมบังคับ หรือ มอก.บังคับ เลขที่ 27-2543 รวมถึงการมอบอำนาจให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศกำกับดูแลโรงบรรจุและร้านจำหน่ายให้เป็นไปตามกฎหมาย
3.หารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กำกับให้เป็นไปตามมาตรฐาน กรมทรัพย์สินทางปัญญา (ทป.) สนับสนุนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าบนถังแก๊สปิโตรเลียม และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สนับสนุนเรื่องหลักฐานการรับเงิน การคืนถังแก๊สหุงต้ม และปริมาณแก๊สที่ไม่ตรงกับที่ฉลากระบุ
4.การกำหนดแนวทางจัดตั้งศูนย์รับ-ส่งเรื่องร้องเรียน โดยร่วมมือกับ สคบ. ทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือคุ้มครองผู้บริโภค เพิ่มประสิทธิภาพรับส่งเรื่องร้องเรียน อำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภคในการร้องเรียน พร้อมแก้ไขปัญหาผู้ประกอบการจำหน่ายถังแก๊สเสื่อมสภาพ ไม่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย
5.เพิ่มประสิทธิภาพการเรียกเก็บและซ่อมถังแก๊สหุงต้ม โดยการกำหนดมาตรการเครือข่ายโรงซ่อม เปิดโอกาสให้ผู้ค้าน้ำมันสามารถรับซ่อมถังแก๊สหุงต้มจากยี่ห้ออื่นที่สนใจ พร้อมมาตรการทางกฎหมายกำกับดูแลการซ่อมบำรุงถังแก๊ส
6.การแก้ไขปัญหาการลักลอบเติมถังแก๊สในสถานีบริการ มีการกำหนดเปรียบเทียบปรับเต็มอัตรา และแจ้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศและศูนย์ปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปนม.ตร.) เพื่อตรวจสอบ กวดขัน และกำกับดูแลการลักลอบเติมถังแก๊สในสถานีบริการ
7.มาตรการระยะยาว จะมีการศึกษาระบบการค้าเสรีแก๊สหุงต้มภาคครัวเรือน เพื่อปรับปรุงระบบการค้าและมาตรฐานความปลอดภัยด้านแก๊สหุงต้มภาคครัวเรือน ออกแบบธุรกิจการค้าแก๊สหุงต้มที่ทันสมัยให้เหมาะสมประเทศภายใต้ระบบการค้าเสรีที่มีการแข่งขันอย่างเป็นธรรม เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยและปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการกำกับดูแลระบบการค้าและความปลอดภัย