นิติเวช จุฬา เผยคืบหน้าผ่าชันสูตร 6 ศพชาวเวียดนามครบทั้งหมด พร้อมเก็บตัวอย่างไซยาไนด์แล้ว ขณะ พฐ.เตรียมพิสูจน์หาแหล่งที่มา เตรียมประสานขอสอบปากคำน้องสาวเหยื่อ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวเกี่ยวกับคดีวางยาพิษชาวเวียดนาม 6 ศพที่โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมาว่า
เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม รศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เปิดถึงความคืบหน้าในการชันสูตรศพ ชาวเวียดนามทั้ง 6 รายที่ถูกวางยาพิษในโรงเเรมหรูแห่งหนึ่งย่านราชประสงค์ ว่า ขณะนี้ศพชาวเวียดนามทั้งหมดได้ทำการผ่าชันสูตรครบทั้งหมดเเล้วทั้งยังได้ประสานพนักงานสอบสวนเเละทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ว่ายังมีประเด็นอื่นๆที่สงสัยหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ทางทีมเเพทย์ได้ตรวจครบทุกอย่างเเล้ว เเต่ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวนว่ามีข้อสงสัยอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ หากยังติดใจที่จะต้องหาข้อมูลเพิ่มถึงจะให้รับศพได้ เเต่เท่าที่ติดตามดูทั้งหมดเเล้วเชื่อว่า ไม่น่าจะมีข้อสงสัยอะไร
รศ.นพ.ฉันชาย กล่าวต่อว่า การชี้เเจงรายละเอียดการชันสูตรอย่างละเอียด จะมีการหารือกับทุกฝ่าย เพื่อความรอบคอบในการชี้เเจงประเด็นที่สงสัยไม่ใช่เฉพาะทีมเเพทย์นิติเวช จุฬาฯ เท่านั้น สำหรับการตรวจไซยาไนด์ภายในร่างกาย ทีมเเพทย์ได้เก็บตัวอย่างไปเเล้ว ไม่เกี่ยวกับร่างที่ทางญาติจะต้องมาติดต่อรับ โดยญาติสามารถที่จะรับร่างของผู้เสียชีวิตไปได้
ส่วนการรับร่างที่ชันสูตรเเล้ว เป็นขั้นตอนตามปกติที่ทางญาติ ผู้เสียชีวิต ต้องประสานสถานทูตเวียดนาม เเละ สถานทูตสหรัฐฯ เพื่อนำเอกสารมาติดต่อขอรับศพทีนิติเวชศาสตร์ เเต่ยืนยันว่าวันนี้จะยังไม่มีการรับศพกลับไปอย่างเเน่นอน
ขณะที่พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง (ผบก.พฐก.) เปิดเผยถึงกรณีที่ตรวจพบรอยนิ้วมือแฝงบนวัตถุพยานซึ่งรอประสานกับโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจรอยนิ้วมือแฝงยังไม่เสร็จสิ้น เนื่องจากมีวัตถุพยานเยอะ ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ เมื่อผลออกแล้วจะส่งผลการตรวจสอบทั้งหมดให้พนักงานสอบสวน แต่ขณะนี้ผลเริ่มทยอยออกมาบ้างแล้ว โดยได้เริ่มตรวจตั้งแต่เมื่อวานนี้(17 ก.ค.) และเพิ่งจะได้รับลายนิ้วมือของศพมาเมื่อคืนนี้จึงได้เริ่มทยอยตรวจตั้งแต่วันนี้
ส่วนจะเป็นไซยาไนด์แบบใดนััน ซึ่งจากการฟังแพทย์ระบุว่าเป็นเกล็ดที่ใช้กันทั่วไป ระบุประเภทไม่ได้เพราะไซยาไนด์มีหลายรูปแบบ โดยที่ใช้กันอยู่จะเป็นโพแทสเซียมไซยาไนด์ ซึ่งจะไปแตกตัวและออกฤทธิ์ทำให้เสียชีวิตโดยไซยาไนด์
ด้านพล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 (ผบก.น.5) เปิดเผยว่า วันนี้ยังไม่มีการประชุมและเรียกบุคคลใดเข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติม ทั้งนี้ยังต้องรอพยานหลักฐานทางนิติเวชผลการตรวจทั้งหมดก่อน เพื่อพิจารณาว่าจะเรียกใครมาสอบปากคำเพิ่มหรือไม่ ส่วนประเด็น“ยาตรางู”ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องแต่จะต้องตรวจสอบให้แน่ชัดถึงแหล่งที่มาว่ามีการไปซื้อมาจากแหล่งใด
ส่วนแหล่งที่มาของไซยาไยด์ พล.ต.ต.วิทวัฒน์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบแหล่งที่มาของไซยาไยด์ ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าอาจมีการนำมาจากต่างประเทศหรือหาจากในประเทศ ทั้งนี้ยังต้องรอการพิสูจน์ก่อน ส่วนน้องสาวของหนึ่งในผู้เสียชีวิตที่ได้กลับไปประเทศเวียดนามตั้งเเต่วันที่ 10 ก.ค. นั้น หากมีความเป็นไปได้ก็อยากได้ตัวมาสอบปากคำ ซึ่งอยู่ระหว่างการติดต่อเพื่อขอสอบปากคำ