บมจ.กุลธรเคอร์บี้ แจ้งหยุดกิจการชั่วคราว 1-31 ก.ค.2567 เหตุขาดสภาพคล่อง เผยอยู่ระหว่างเจรจากับธนาคารขอใช้วงเงิน working capital
................................
เมื่อวันที่ 17 ก.ค. บริษัท กุลธรเคอร์บี้ จำกัด (มหาชน) หรือ KKC แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ เรื่อง หยุดกิจการชั่วคราว โดยมีเนื้อหาว่า บริษัท กุลธรเคอร์บี้ จำกัด (มหาชน) แจ้งหยุดกิจการชั่วคราวเฉพาะบริษัท กุลธรเคอร์บี้ จำกัด (มหาชน) สำหรับบริษัทย่อยยังคงปฏิบัติงานเหมือนเดิม ในระหว่างวันที่ 1-31 กรกฎาคม 2567 บริษัทจะทำการหยุดกิจการเป็นช่วงๆ โดยพิจารณาจากจำนวนการผลิต และวัตถุดิบ เพื่อลดค่าใช้จ่ายของบริษัท เนื่องจากการขาดสภาพคล่องในการซื้อวัตถุดิบ เพื่อผลิตและส่งมอบ เนื่องจากวัตถุดิบหลัก เช่น เหล็ก ทองแดง มีความจำเป็นต้องใช้วงเงิน working capital (LC) จากธนาคารในการซื้อ ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจากับธนาคาร
โดยจ่ายเงินเดือนพนักงานที่หยุดปฏิบัติงาน 75% ตามพระระราชบัญญัติ คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 มาตรา 75 เรื่องการหยุดกิจการชั่วคราว
การหยุดกิจการชั่วคราวเฉพาะส่วนงานการผลิตที่ไม่มีวัตถุดิบ ส่วนงานอื่นๆ ที่ปฏิบัติงานประจำบางส่วน จะยังคงปฏิบัติงานอยู่ได้แก่ พนักงานดูแล(เครื่องจักร) ส่วนการผลิต ส่วนวิศวกรรมโรงงาน ส่วนเทคโนโลยีสารสนเทศ ฝ้ายขนส่ง ฝ้ายวางแผนการผลิตและคลังสินค้า ฝ่ายปฏิบัติงานการเงิน ฝ่ายบัญชี ฝ่ายความปลอดอดภัยแผนกสรรหาและค่าจ้างเงินเดือน
นอกจากนี้ KKC ยังรายงานความคืบหน้าแนวทางแก้ไขปัญหาว่า บริษัทฯจะเร่งดำเนินการเจรจากับเจ้าหนี้สถาบันการเงิน เพื่อจัดหาเงินทุนเพิ่มเติมให้เร็วที่สุด และอยู่รอการอนุมัติวงเงินจากสถาบันการเงิน
วันเดียวกัน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เผยแพร่เอกสารข่าวโดยมีเนื้อหาว่า ตามที่ บริษัทกุลธรเคอร์บี้ จ ากัด (มหาชน) (KKC) แจ้งหยุดกิจการชั่วคราวระหว่างวันที่ 1-31 ก.ค.2567 รายละเอียดปรากฏตามข่าวของบริษัทวันที่ 17 ก.ค. 2567 เวลา 8.12 น. นั้น
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้ผู้ลงทุนศึกษาข้อมูลดังกล่าวเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน และขอให้ใช้ความ ระมัดระวังในการซื้อขายหลักทรัพย์ของ KKC ทั้งนี้บริษัทอยู่ระหว่างแก้ไขเหตุเพิกถอนกรณีส่วนของผู้ถือหุ้นน้อยกว่าศูนย์ โดยหลักทรัพย์ของบริษัทอยู่ ระหว่างการเปิดให้มีการซื้อหรือขายชั่วคราวด้วยบัญชี Cash Balance เป็นระยะเวลา 1 เดือน (ตั้งแต่วันที่ 27 มิ.ย.2567-26 ก.ค.2567) และตลาดหลักทรัพย์ฯ จะขึ้นเครื่องหมาย SP หลักทรัพย์ของบริษัทตั้งแต่ วันที่ 30 ก.ค.2567 เป็นต้นไป จนกว่าบริษัทจะสามารถแก้ไขเหตุเพิกถอนได้