‘วิษณุ’ เปิด 3 เงื่อนไขต่อรอง ‘เศรษฐา’ แลกนั่งที่ปรึกษาของนายกฯ ‘ป่วยหลายโรค-ไม่อยากยื่นบัญชีทรัพย์สิน-รับหลายงานไม่อยากเบี้ยว’ ไม่ตอบกรณี ‘ทักษิณ’ ถูกสั่ง 112 โยนถามเจ้าตัวเอง
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 30 พฤษภาคม 2567 ภายหลังนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แต่งตั้งนายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ด้านกฎหมายและระเบียบปฏิบัติราชการ
นายวิษณุ ให้สัมภาษณ์ที่เนติบัณฑิตยสภาว่า ยังไม่ทราบจะเดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาลเมื่อไหร่ และความจริงก็ไม่มีเรื่องอะไรต้องเข้าและไม่มีอะไรพูดไปกว่าสิ่งที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีได้พูดไปแล้ว
@เปิด 3 เงื่อนไข แลกนั่งที่ปรึกษาฯ ไม่อยากยื่นบัญชีทรัพย์สิน
“นายกฯพูดตรงและครบทุกประเด็น ที่ผ่านมานายกฯมาพบผมมาขอให้ผมไปช่วย ผมก็ได้บอกไปว่าสุขภาพไม่ดีเปิดพุงให้นายกฯดูด้วยและที่สำคัญ 3 ข้อที่ปฏิเสธไป หนึ่งคือปัญหาสุขภาพ เมื่อก่อนเป็นแค่ไตอย่างเดียว วันนี้มีปัญหาเรื่องตาด้วยเพิ่งไปลอกตามา และสอง ช่วง 10 เดือนที่ห่างหายไปก็ไปรับงานอื่นหลายอย่าง หากต้องลาออกไปงานเขาก็จะเสีย นอกจากนี้สาม มีเรื่องที่เกี่ยวกับปัญหาในบ้านที่ต้องจัดการ เลี้ยงหลานเลี้ยงลูกเดิมวางแผนไว้อย่างนั้น แต่นายกฯบอกว่าถ้าเป็นอย่างนั้นให้ผมมาเป็นที่ปรึกษาก็ได้ โดยไม่ต้องทำอะไรมากมาย ก็ได้แจ้งไปว่าไม่อยากไปยุ่งเกี่ยวกับการยื่นบัญชีทรัพย์สิน นายกฯเลยบอกว่าไม่ต้องเป็นที่ปรึกษานายกฯตามตำแหน่ง โดยที่ปรึกษามีสองแบบ คือที่ปรึกษาโดยเจาะจงที่มี 5 คนและตั้งไปครบแล้ว ผมไม่ยอมเป็นอันนั้นแน่ เพราะการเป็นข้าราชการการเมืองต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน แต่มีที่ปรึกษาอีกเยอะที่สามารถตั้งได้ อย่างที่นายกฯเคยตั้งนายกิติรัตน์ ณ ระนอง และอีกหลายคน” นายวิษณุกล่าว
อดีตรองนายกฯกล่าวต่อว่า นายเศรษฐาเลยบอกให้มาเป็นที่ปรึกษาแบบนี้ ที่ไม่มีห้องทำงาน ไม่มีรถประจำตำแหน่ง ไม่มีเงินประจำตำแหน่งมีแต่เบี้ยประชุม และได้ขอให้ช่วยทำในบางเรื่องที่รัฐบาลมีปัญหา ซึ่งก็ได้ถามไปเหมือนกันว่าทุกวันนี้มีปัญหาอะไร ก็เห็นทำได้ดีอยู่ แต่นายกฯบอกว่ามีปัญหาอยู่เหมือนกันเพราะบางทีเกิดความไม่แน่นอนขึ้นมา และในคณะรัฐมนตรีไม่มีนักกฎหมาย บางทีก็มีการทักท้วงกันระหว่างผู้ไม่รู้กับผู้ไม่รู้ หรือบางครั้งก็มีการทักท้วงจากคนข้างนอก
@รัฐมนตรีเรียกร้องให้นั่งใน ครม. ปรึกษาข้อกฎหมาย
เพราะฉะนั้นนายกฯเลยบอกว่า อาจจะส่งประเด็นที่มีการทักท้วงการให้ตนดูก่อน ซึ่งตนก็บอกว่าหากเป็นเช่นนั้นก็ได้ ให้เป็นที่ปรึกษาสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแล้วกันจะได้ไม่โลว์โปรไฟว์และตนจะช่วยดูวาระคณะรัฐมนตรีที่สำคัญบางเรื่อง ซึ่งนายกฯบอกว่าว่าก็ได้ แต่ตอนหลังมีคนมาบอกตนว่าได้ไปคุยกับบรรดาหัวหน้าพรรคการเมืองทั้งหลาย และเห็นพ้องว่า อยากให้ตนเข้ามานั่งในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีด้วย คอยยกมืออาจจะท้วงหรือแถมในระหว่างประชุมจะได้ไม่เสียเวลา ไม่เช่นนั้นหากมีมติไปก่อนแล้วไปเช็กทีหลัง ตนก็ทักท้วงไปว่าในที่ประชุมมีกฤษฎีกา มีกระทรวงยุติธรรมอยู่ก็น่าจะช่วยได้ รัฐมนตรีหลายคนก็เป็นนักกฎหมาย เช่นนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯและรมว.พลังงาน นายกฯบอกว่าบางเรื่องเป็นอย่างนั้นได้ แต่บางเรื่องรัฐบาลต้องการความเห็นที่กลางๆ กรณีนายพีระพันธุ์ ถ้าพูดอะไรในขณะที่เป็นรมว.พลังงานด้วยมันจะลำบาก ตนจึงบอกว่าแล้วแต่นายกฯไปจัดการ แต่ได้แจ้งไปว่าหากนายกฯ สามารถหารองนายกฯที่ช่วยดูเรื่องนี้ได้เมื่อไหร่ตนก็จะขอกลับไปทำงานอย่างเดิม
เมื่อถามว่าสรุปแล้วตำแหน่งที่รับเป็นที่ปรึกษาสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) หรือที่ปรึกษาของนายกฯ นายวิษณุ กล่าวว่า ตอนแรกเป็นที่ปรึกษาสลค. แต่มีอุปสรรค์หลายอย่าง เช่นจ่ายเบี้ยประชุมไม่ได้ และไม่มีสิทธิเข้าไปดูเอกสารและเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี ตนก็เลยได้ยินว่าจะให้ตนเป็นที่ปรึกษาของนายกฯ ความจริงการเข้าประชุมคณะรัฐมนตรีไม่มีปัญหาใครเข้าก็ได้ แต่ถ้าเป็นที่ปรึกษาสลค.จะพูดอะไรไม่ได้ แต่การเป็นที่ปรึกษาของนายกฯสามารถพูดได้
@ไม่รู้ ‘แม้ว’ โดน 112 เพราะดีลมีปัญหา
ผู้สื่อข่ามถามต่อถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกอัยการสูงสุดสั่งฟ้องคดีม.112 และมีการวิเคราะห์กัน ว่า เป็นเพราะดีลมีปัญหาหรือไม่ นายวิษณุระบุว่า ไม่รู้เรื่อง เพราะไม่ได้ดีลด้วย และระหว่างตนกับนายเศรษฐา ก็ไม่ได้มีดีล ไม่ได้แลกเปลี่ยนอะไร
เมื่อถามว่า คดี ม.112 น่ากังวลกับนายทักษิณหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ขอให้ไปถามนายทักษิณ น่าจะตอบได้ หากถามตน ตนตอบไม่ถูก แต่ในวันที่ 18 มิ.ย.นี้ อัยการต้องคุมตัวนายทักษิณ ไปที่ศาล หากศาลประทับรับฟ้อง ก็จะต้องมาดูว่า ศาลให้ประกันตัวหรือไม่
เมื่อถามต่อว่า หากศาลไม่ให้ประกันตัว นายทักษิณ ก็ต้องติดคุกใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ใช่ แต่ในระยะหลัง คดี 112 ศาลให้ประกันตัวแทบทุกคดี
อ่านประกอบ