ผ่า 69 รายชื่อเข้าชิงกรรมการนโยบาย ThaiPBS หลังมีตำแหน่งว่างลง 6 ที่นั่ง พบมีทั้งสื่อมวลชน-นักวิชาการ-นักการเมือง-ตุลาการ เข้าร่วม
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 10 พฤษภาคม 2567 องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) ประกาศรับสมัครตำแหน่งกรรมการนโยบาย ครบกำหนดวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปี จำนวน 6 คน
แบ่งเป็นด้านการบริหารจัดการองค์กร จำนวน 2 คน ด้านการส่งเสริมประชาธิปไตย การพัฒนาชุมชนหรือท้องถิ่น การเรียนรู้และศึกษา การคุ้มครองและพัฒนาเด็ก เยาวชนหรือครอบครัว หรือการส่งเสริมสิทธิของผู้ด้อยโอกาสทางสังคม จำนวน 3 คน รวมถึงกรรมการนโยบาย ด้านการส่งเสริมประชาธิปไตย การพัฒนาชุมชนหรือท้องถิ่น การเรียนรู้และศึกษา การคุ้มครองและพัฒนาเด็ก เยาวชนหรือครอบครัว หรือการส่งเสริมสิทธิของผู้ด้อยโอกาสทางสังคม ทดแทนที่ลาออก มีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2567 เป็นต้นไป
โดยมีการรับสมัครไปเมื่อวันที่ 1-30 เม.ย. 2567 ที่ผ่านมา มีผู้ส่งใบสมัครและเสนอชื่อบุคคลที่สมควรเข้ารับการสรรหาเป็นกรรมการนโยบาย ส.ส.ท. ดังนี้ (ดูรายชื่อผู้สมัครทั้ง 69 รายด้านล่าง)
ด้านการบริหารจัดการองค์กร จำนวน 27 ราย รายชื่อที่น่าสนใจ ประกอบด้วย
1.นายก้อง รุ่งสว่าง อดีตผอ.โรงพยาบาลวิชัยยุทธ
2.นายเจษฎา อนุจารี อดีตอุปนายกสภาทนายความ และอดีตกรรมการ ส.ส.ท.
3.นายณัฐวุฒิ พงศ์สิริ อดีตรองเลขาธิการสายงานเพิ่มประสิทธิภาพองค์กร สำนักงานคณะกรรมการ นโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.)
4.นางทัศนีย์ ผลชานิโก ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
5.นายธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ อดีตกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)
6.นายนคร เสรีรักษ์ อาจารย์ประจำวิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น
7.นายพิศาล มาณวพัฒน์ สว.
8.นายระวี ตะวันธรงค์ อดีตผู้บริหารช่องและสื่อออนไลน์ SpringNews, อดีต Executive Vice President ของเนชั่นกรุ๊ป, อดีตนายกสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์
9.นางสุดารัตน์ ดิษยวรรธนะ จันทราวัฒนากุล อดีตรองผู้อำนวยการองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) (Thai PBS) และอดีตคณบดีคณะนิเทศศาสตร์ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์
10.นายอนุสรณ์ ธรรมใจ กรรมการนโยบาย ส.ส.ท.และประธานกรรมการบริหารสถาบันปรีดี พนมยงค์
11.นางสาวอ่อนอุษา ลำเลียงพล อดีตผู้บริหารเดอะลีโอเบอร์เนทท์ กรุ๊ป ประเทศไทย
ธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ อดีตกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)
ระวี ตะวันธรงค์ อดีตผู้บริหารช่องและสื่อออนไลน์ SpringNews, อดีต Executive Vice President ของเนชั่นกรุ๊ป, อดีตนายกสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์
ด้านการส่งเสริมประชาธิปไตย การพัฒนาชุมชนหรือท้องถิ่น การเรียนรู้และศึกษา การคุ้มครองและพัฒนาเด็ก เยาวชนหรือครอบครัว หรือการส่งเสริมสิทธิของผู้ด้อยโอกาสทางสังคม จำนวน 42 ราย รายชื่อที่น่าสนใจ อาทิ
1.นายโกมาตร จึงเสถียรทรัพย์ ผู้อำนวยการศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
2.นายคำนูณ สิทธิสมาน สมาชิกวุฒิสภาและอดีตบรรณาธิการอาวุโสของเครือผู้จัดการ
3.นายชั่งทอง โอภาสศิริวิทย์ อดีตตุลาการศาลปกครองสูงสุด
4.นายชานันท์ ยอดหงษ์ อดีตผู้ดูแลนโยบายผู้มีความหลากหลายทางเพศ พรรคเพื่อไทย
5.นายชูวัส ฤกษ์ศิริสุข พิธีกรรายการ Wake Up Thailand ทาง VOICE TV
6.นายนันท์วิสิทธิ์ ตั้งแสงประทีป อาจารย์ประจำคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ และอดีตบรรณาธิการบริหารข่าวสังคม ช่องไทยรัฐทีวี
7.นายบัณฑิต จันทร์โรจนกิจ อาจารย์ประจำภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
8.นายบุญเลิศ คชายุทธเดช อดีตบรรณาธิการอาวุโส หนังสือพิมพ์มติชน อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.)
9.นายพลังพล คงเสรี คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
10.นายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.)
11.นางสาววิไลภรณ์ จงกลวัฒนา อดีตโปรดิวเซอร์รายการมาตามนัด และอดีตผู้อำนวยการ ศูนย์สื่อสาธารณะเพื่อเด็กและครอบครัว ของสถานีโทรทัศน์ Thai PBS
12.นายสมโภชน์ โตรักษา อดีตผู้จัดการฝ่ายข่าว สถานีโทรทัศน์ช่อง 7 เอชดี
13.นายสุนทร รักษ์รงค์ กรรมการการยางแห่งประเทศไทย
14.นายสุปัน รักเชื้อ ประธานสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย
สมโภชน์ โตรักษา อดีตผู้จัดการฝ่ายข่าว สถานีโทรทัศน์ช่อง 7 เอชดี
คำนูณ สิทธิสมาน สว.
บุญเลิศ คชายุทธเดช อดีตบรรณาธิการอาวุโส หนังสือพิมพ์มติชน อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.)
ชูวัส ฤกษ์ศิริสุข พิธีกรรายการ Wake Up Thailand ทาง VOICE TV
ทั้งนี้ องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทยเชิญชวนประชาชนร่วมตรวจสอบคุณสมบัติ ผู้สมัครกรรมการนโยบาย ส.ส.ท. เปิดให้ส่งส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผู้สมัครแต่ละคนมาที่ "ประธานกรรมการสรรหากรรมการนโยบาย ส.ส.ท." ทางไปรษณีย์ ที่อยู่: องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย เลขที่ 145 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210 หรือที่อีเมล: [email protected] โดยสามารถส่งได้ตั้งแต่วันที่ 7 พฤษภาคม - 6 มิถุนายน 2567
โดยคณะกรรมการสรรหาฯ จะประกาศรายชื่อผู้สมัครหรือผู้ได้รับการเสนอชื่อที่ผ่านการพิจารณาตามหลักเกณฑ์การสรรหาฯ ฉบับที่ 1/2567 ลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2567 ทาง www.thaipbs.or.th/BOGSelection ในวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 ซึ่งผู้ผ่านการพิจารณาจะต้องแสดงตนและวิสัยทัศน์ด้วยวาจาต่อที่ประชุมคณะกรรมการสรรหาฯ ในวันที่ 1 และ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2567 หรือ ตามกำหนดวัน เวลา และสถานที่ตามที่คณะกรรมการสรรหาฯ จะแจ้งให้ทราบ
@ที่มากรรมการนโยบายฯ พร้อมเงินเดือน-สิทธิประโยชน์
สำหรับคณะกรรมการนโยบาย ส.ส.ท. ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย 2551 มาตรา 17 กำหนดให้มีคณะกรรมการนโยบายจำนวน 9 คน ประกอบด้วยประธานกรรมการนโยบายคนหนึ่ง และกรรมการนโยบายอื่นอีก 8 คน ซึ่งสรรหาและแต่งตั้งจากผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งเป็นบุคคลผู้มีความรู้ ประสบการณ์ และเป็นผู้ที่มีผลงานหรือเคยปฏิบัติงานที่แสดงให้เห็นถึงการเป็นผู้มีความรู้หรือความเชี่ยวชาญใน 3 สาขาสำคัญ ได้แก่
ด้านกิจการสื่อสารมวลชน 2 คน, ด้านการบริหารจัดการองค์กร 3 คน และด้านการส่งเสริมประชาธิปไตย การพัฒนาชุมชนหรือท้องถิ่น การเรียนรู้และศึกษา การคุ้มครองและพัฒนาเด็ก เยาวชน หรือครอบครัว หรือส่งเสริมสิทธิของผู้ด้อยโอกาสทางสังคม 4 คน และมอบหมายผู้อํานวยการเป็นเลขานุการของคณะกรรมการนโยบาย และกรรมการนโยบายมีวาระดำรงตำแหน่ง 4 ปี
@กรรมการเงินเดือน 5 หมื่น/ประธาน 6 หมื่น
ส่วนผลตอบแทนต่างๆ ตามพระราชกฤษฎีกา (พรฎ.) ค่าตอบแทนและประโยชน์ตอบแทนอื่นของประธานกรรมการนโยบาย กรรมการนโยบาย และกรรมการบริหารอื่นขององค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย 2551 กรรมการนโยบายจะได้ค่าตอบแทนเดือนละ 50,000 บาท พร้อมเบี้ยประชุมอีกเดือนละ 30,000 บาท ส่วนประธานกรรมการนโยบาย จะได้รับค่าตอบแทนเดือนละ 60,000 บาท ส่วนเบี้ยประชุมจะได้เพิ่มเป็น 1 ใน 4ของเบี้ยประชุมที่กรรมการนโยบายได้รับ
ส่วนสิทธิประโยชน์อื่น จะมีค่ารักษาพยาบาลหรือการประกันสุขภาพตามที่จ่ายจริงในอัตราเบี้ยประกันคนละไม่เกิน 30,000 บาท/ปี และตามมาตรา 8 ของพระราชกฤษฎีกายังระบุให้ประธานและกรรมการนโยบายมีสิทธิ์ได้รับค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปปฏิบัติงานทั้งในและนอกประเทศ รวมถึงมีบำเหน็จมอบให้ในกรณีดำรงตำแหน่งครบ 1 ปีขึ้นไปด้วย