รองอธิบดีกรมป่าไม้ สนธิกำลังร่วม 100 นาย นำหมายค้นของศาลจังหวัดภูเก็ต ตรวจสอบพื้นที่หาดนุ้ยที่มีเอกชนเข้าไปอ้างสิทธิ์ พร้อมทำการรังวัด เเละสิ่งปลูกสร้างที่สร้างขึ้นใหม่ ชี้รุกป่าสงวน สั่งรื้อใน 30 วัน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2567 นายบรรณรักษ์ เสริมทอง รองอธิบดีกรมป่าไม้ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ สนธิกำลังกับตำรวจภูธรภาค 8 สถานีตำรวจภูธรกะรน ร่วม 100 นาย นำหมายค้นของศาลจังหวัดภูเก็ต เข้าตรวจสอบพื้นที่หาดนุ้ย ที่มีเอกชนเข้าไปอ้างการถือครองกรรมสิทธิ์เนื้อที่ 18 ไร่ 2 งาน 78 ตารางวา พร้อมแจ้งข้อหาบุกรุกกับผู้อ้างการถือครองกรรมสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติปี 2507 หลังพบเข้าไปบุกรุกครอบครองพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเทือกเขานาคเกิด ปลูกสร้างอาคารหลายหลัง และปิดกั้น เก็บเงินค่าบริการ 100 บาทกับประชาชนที่จะลงไปยังชายหาด ซึ่งวันนี้ได้มีการประกาศปิดให้บริการ 1 วัน เเละเมื่อเดินทางถึงพื้นที่พบนายธนากร เสียมหาญ ทนายความเจ้าของที่ดิน พร้อมด้วยพนักงานร้านค้าได้พูดคุยรับฟังซึ่งทางทนายความคนดังกล่าวให้ความร่วมมือในการตรวจสอบพื้นที่ จึงได้มีการเเบ่งทีมนำกำลังเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพื้นที่ก่อสร้างตามจุดต่างๆ ที่ได้มีการก่อสร้างเพิ่มขึ้น จากจุดเดิมที่เคยมีการรื้อถอนไปแล้วก่อนหน้านั้น
พื้นที่ 'หาดนุ้ย' (ใต้ผาหินดำภูเก็ต) ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต เป็นที่ดิน ส.ป.ก. และป่าไม้ภูเก็ต เเละเจ้าหน้าที่ยืนยันพื้นที่ดังกล่าวเป็นป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งก่อนนี้ได้มีคำสั่งรื้อถอนอาคารจำนวน 16 หลัง ที่ก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาตไปเเล้ว เเต่ในวันนี้กลับกลายเป็นว่า มีสิ่งก่อสร้างที่สร้างเพิ่มขึ้นจากเดิมหลายจุด ที่เปิดเป็นร้านอาหาร และจุดชมวิว
โดยในเรื่องนี้ได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า คดีเอกสารสิทธิ์ที่ดินหาดนุ้ยนั้น ศาลได้ตัดสินแล้ว แต่ข้าราชการในพื้นที่รับผลประโยชน์ ด้วยการใช้เกมยื้อเวลา ร้องเรียนให้กรมป่าไม้ สั่งป่าไม้เขต 12 ทบทวนสำรวจตรวจสอบ ทำแนวเขตป่าสงวนแห่งชาติแห่งชาติใหม่ ซ้ำยังมีการไปข่มขู่ ให้คนพื้นที่หวาดกลัว เพื่อเรียกขอที่ดินจากคนในพื้นที่ ซึ่งจากการลงพื้นที่ในครั้งนี้จะตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ขยายผลปัญหาเรื่องราว ที่ทางอธิบดีกรมป่าไม้ได้สั่งการให้ลงมาตรวจสอบพื้นที่เพื่อจริงจัง เข้มงวด กวดขัน ให้ดำเนินการถูกต้องตามข้อกฎหมาย เเละขยายผลปัญหาครอบครองกรรมสิทธิ์ที่ดินหน้าหาด ในจ.ภูเก็ตที่ขยายวงกว้างในพื้นที่ที่มีข้อพิพาท และเป็นปัญหาที่เกิดขึ้น หลังจากการร้องเรียนในหลายพื้นที่ของจังหวัดภูเก็ต