รองหัวหน้าเพื่อไทย เชื่อ ‘ทักษิณ’ ได้รับพักโทษไม่เป็นประเด็นใหญ่ทางการเมือง ชี้แค่นักวิเคราะห์มอง แต่ยอมรับถ้าได้รับพักโทษ ก็ทำให้ ‘เพื่อไทย’ เข้มแข็งแน่นอน ก่อนเผยวิปรัฐบาลเห็นพ้องชงญัตติ ‘ขบวนเสด็จฯ’ เข้าสภา
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การยื่นญัตติด่วนเรื่องการแก้ไขกฎหมายอารักขาขบวนเสด็จฯ ซึ่งเป็นญัตติด่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติ ในที่ประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร หรือ วิปรัฐบาล มีมติว่าให้เสนอได้ตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา (12 ก.พ. 67) เพราะเห็นว่าเป็นญัตติที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม ซึ่งท้ายที่สุดที่ประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรก็จะมีมติว่าจะทำอย่างไรกันต่อไป จะตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ หรือส่งให้กรรมาธิการใดพิจารณาเพิ่มเติม หรือส่งให้รัฐบาลพิจารณาหามาตรการเพิ่มเติมก็ได้ รวมถึงได้เสนอให้ที่ประชุม สส. ช่วยกันอภิปรายเพื่อหาทางออกว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป
นายชูศักดิ์ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า การส่งให้รัฐบาลพิจารณาหาทางออกน่าจะเป็นทางที่ดีที่สุด ว่า สส. มีความห่วงใยในเรื่องความปลอดภัยของขบวนเสด็จฯ ให้ทางรัฐบาลพิจารณาหามาตรการเพื่อ ดูแลการถวายความอารักขาขบวนเสด็จฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าในวันนี้การอภิปรายเรื่องการแก้ไข กฎหมายการถวายความอารักขาขบวนเสด็จฯ นั้นมีผู้ร่วมอภิปรายจากหลายพรรค ทั้ง พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคพลังประชารัฐ พรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย รวมถึงพรรคก้าวไกลที่เป็นพรรคฝ่ายค้านด้วย
@ไม่ห่วง ‘ทักษิณ’ พักโทษ
นายชูศักดิ์กล่าวต่อว่า ประเด็นที่มีการตั้งข้อสังเกตการพักโทษของนายทักษิณ ชินวัตร นักโทษชายเด็ดขาดและอดีตนายกรัฐมนตรีที่พักรักษาตัวที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ จะกลับมาเป็นศูนย์รวมอำนาจของการเมืองไทยอีกครั้งหนึ่ง ส่วนตัวมองว่าน่าจะเป็นเรื่องการวิเคราะห์ของผู้ที่สนใจทางการเมือง โดยพิจารณาจากในอดีตที่ผ่านมา แต่ในขณะนี้พรรคเพื่อไทยเราเป็นปึกแผ่น มีผู้บริหาร หัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรค เราก็ทำหน้าที่ของเราไป และยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยก็ทำหน้าที่ของเราด้วยความเต็มที่เป็นอิสระ
เมื่อถามว่า ได้มีการประเมินว่าการออกมาของนางทักษิณในครั้งนี้ จะมีปัจจัยกระทบทางการเมืองที่สะเทือนต่อรัฐบาลหรือพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ตนคิดว่ายังไม่ถึงขนาดนั้น ซึ่งรัฐบาลทำหน้าที่กันเป็นปึกแผ่นดี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก็ทำงานเต็มที่ ขยันขันแข็ง คงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปในทางที่เขาวิเคราะห์กัน ให้รัฐบาลทำงานกันไป และนายทักษิณก็ทำหน้าที่ในฐานะประชาชน ซึ่งตนเข้าใจว่าท่านมีสิทธิ์ที่จะวิพากษ์วิจารณ์การเมือง แต่ทั้งนี้พรรคการเมืองก็ทำหน้าที่กันไป
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคเพื่อไทยมีการรับมือกับกลุ่มที่เห็นต่างกับการออกมาของนายทักษิณอย่างไรบ้าง นายชูศักดิ์ กล่าวว่า พรรคเรามีจุดยืนว่าทุกอย่างจะสามารถวิพากษ์วิจารณ์กันได้ แต่ควรอยู่ในครรลองของกฎหมาย อยู่ในความสงบเรียบร้อยและไม่ทำอะไรให้เกิดความแตกแยกร้าวฉานไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคเพื่อไทยที่ไม่นิยมความรุนแรง ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม ไม่นำพาประเทศไปสู่ความเจริญก้าวหน้าและสันติสุข
“ผมไม่เชื่อว่าจะเป็นถึงยุคเสื้อเหลือง-แดง ขนาดนั้น และปัจจุบันนี้เราเห็นว่ารัฐบาลประกอบด้วยหลายพรรค ซึ่งพรรคที่เคยเห็นไม่ตรงกันแต่ก็มาร่วมมือกันจัดตั้งรัฐบาล เพราะเงื่อนไขทางการเมืองเปลี่ยนแปลงไป โดยเงื่อนไขหรือปัจจัยไม่เหมือนเมื่อก่อน” รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าว
@เชื่อ ‘ทักษิณ’ กลับมา ‘เพื่อไทย’ เข้มแข็ง
ต่อข้อถามว่าการกลับมาของนายทักษิณจะทำให้พรรคเพื่อไทยกลับมาเข้มแข็งขึ้นหรือไม่ นายชูศักดิ์กล่าวว่า โดยประสบการณ์ ความรู้ความสามารถของนายทักษิณในอดีตที่ผ่านมาเราก็ทราบกันอยู่ และตนเชื่อว่านายทักษิณ เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถเป็นบุคลากรของประเทศ ฉะนั้น ถ้านายทักษิณจะเสนอข้อแนะนำอะไรตนคิดว่าจะเป็นประโยชน์ จะเข้มแข็งขึ้น และต้องยอมรับว่านายทักษิณเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเพื่อไทย ในประวัติของทั้งพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน นายทักษิณก็คือศูนย์รวมทางจิตใจ เหมือนเป็นกำลังใจให้พรรคเพื่อไทยด้วย แต่พรรคเพื่อไทยต้องเข้มแข็งยืนด้วยความรู้ความสามารถของบุคลากรที่มีอยู่ด้วย
เมื่อถามว่า ทางพรรคได้ประเมินสถานการณ์อื่นไว้ด้วยหรือไม่ เพราะนายทักษิณยังมีมาตรา 112 ที่มีการอายัดตัวอยู่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ให้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม จะเป็นอย่างไรก็เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ก็ว่ากันไป เราไม่ควรไปวิพากษ์วิจารณ์หรือเอาใจว่าอย่างนั้น อย่างนี้ ซึ่งที่ผ่านมาส่วนใหญ่เราก็วิจารณ์ แล้วเกิดความแตกแยกร้าวฉาน อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนบุคคลที่นายทักษิณมีทีมกฎหมาย และย้ำว่าเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม