รมว.ศธ. เสนอ ครม.เพิ่มภารโรงทั่วประเทศ 1.9 หมื่นตำแหน่ง หลังครูเวรถูกทำร้าย มอบ 'มท.-ตร.-แรงงาน' ดูแลความเรียบร้อยหางานให้เด็กทำหวังเพิ่มศักยภาพ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 23 ม.ค.2567 นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้นำเรียนนายกรัฐมนตรี กรณีสืบเนื่องที่มีคนร้ายทำร้ายครูเวร ว่ามีความประสงค์ที่จะให้เพิ่มนักการภารโรง ประมาณ 19,000 ตำแหน่ง ใน 2,000 กว่าโรงเรียนทั่วประเทศ โดย รมว.ศึกษาเห็นว่าอยากจะขอเป็นงบกลาง ซึ่งนายกรัฐมนตรีรับทราบแล้ว แต่หากไม่ได้เป็นงบกลางจริงๆ จะมีเสนอเข้างบประมาณตามปกติ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาเพิ่มเติมอีกส่วนหนึ่ง
นายคารม กล่าวว่า นายกฯ ยังมีข้อสั่งการเกี่ยวกับโรงเรียนอีกว่า เด็กที่อายุต่ำกว่า 15 ปี และเยาวชนที่มีอายุ 15-18 ปี มีการกระทำความผิดเยอะ ซึ่งเห็นว่าเด็กยังมีพละกำลังในการทำงานในขณะที่ยังเป็นเด็ก และเยาวชนได้ ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในจังหวัดสระแก้ว ที่เกิดขึ้นกับป้าบัวผัน เป็นปรากฏการณ์หนึ่งที่นายกรัฐมนตรีเห็นว่ากระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ให้มีแนวทาง ดูแลเรื่องความสงบเรียบร้อย
โดยเฉพาะในส่วนของกระทรวงมหาดไทยและ ตร. ที่จะต้องดูแลเกี่ยวกับการกระทำผิดของเด็กและเยาวชน และได้สั่งการไปที่กระทรวงแรงงานให้หางานที่เด็กและเยาวชนจะสามารถทำได้ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มศักยภาพให้มีการมีงานทำ ซึ่งกระทรวงแรงงานก็สามารถจ้างงานเด็กที่มีอายุ 15-18 ปีได้ แต่หากต่ำกว่า 15 ปีจะมีกฎหมายคุ้มครองแรงงานที่ไม่สามารถให้เกิดการจ้างงานได้
ด้าน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ในฐานะรองนายกฯที่กำกับดูแล ศธ. กล่าวถึงกรณีครูถูกทำร้ายร่างกาย จากการอยู่เวรเฝ้าโรงเรียนวันหยุดที่ จ.เชียงราย จนเกิดการเรียกร้องให้ยกเลิกการอยู่เวรของครูทั่วประเทศ ว่า ตนจะสนับสนุนให้มีการยกเลิกมติ ครม. ปี 2542 หรือออกมติ ครม.ใหม่ มายกเว้นในส่วนที่เกี่ยวกับการอยู่เวรรักษาการณ์ของหน่วยงานราชการ ตามหลักเกณฑ์ที่ออกมาในเดือน ก.ค. ปี 2542 โดยเฉพาะในส่วนของโรงเรียนทั่วประเทศ เพราะข้าราชการไม่ควรต้องมารับผิดชอบต่อความเสียหายของทรัพย์สินของทางราชการที่เกิดจากอาชญากรรม หากมีอาชญากรรมเกิดขึ้น เป็นหน้าที่ของหน่วยงานความมั่นคงที่จะต้องดูแล ไม่ว่าจะป้องกันหรือปราบปราม ไม่ใช่หน้าที่ครู
“นี่คือสิ่งที่ง่ายที่สุดในการคืนครูสู่ห้องเรียนและทำได้ทันที สวัสดิภาพและความปลอดภัยของครูมีความสำคัญเหนือสิ่งของ ต้องไม่มีเงื่อนไขใดมาเป็นอุปสรรค ไม่ว่าจะเป็นการอ้างงบประมาณหรือกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างใดๆ เมื่อไม่มีครูเวรแล้ว ต่อให้ยังไม่มียามหรือกล้องวงจรปิด ถ้ามีการโจรกรรมก็ไม่ใช่ความผิดของครู ต้องเป็นความรับผิดชอบของอาชญากร และหน่วยงานรัฐที่มีหน้าที่ดูแลเรื่องความมั่นคง หากจะฝากโรงเรียนไว้กับใคร ต้องฝากกับตำรวจ หรือ อส.ของฝ่ายปกครอง ไม่ใช่ครู” นายอนุทิน กล่าว