'ศรีสุวรรณ' จ่อยื่น ป.ป.ช.เอาผิดจริยธรรมร้ายแรง 'ศักดิ์สยาม' หลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลง ปมถือหุ้น หจก.บุรีเจริญ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2567 นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน เปิดเผยว่า ตามที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 54 คน ยื่นคำร้องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร (ผู้ร้อง) ว่านายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม (ผู้ถูกร้อง) ยังคงไว้ซึ่งหุ้นส่วนและยังคงเป็นผู้ถือหุ้นและเจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น อย่างแท้จริง
จะทำให้ผู้ถูกร้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการหุ้นหรือกิจการของห้างหุ้นส่วน เป็นการกระทำอันเป็นการต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 187 ประกอบพระราชบัญญัติการจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ. 2543 มาตรา 4 (1) เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) หรือไม่นั้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นการปกปิดและแจ้งทรัพย์สินในการเข้าดำรงตำแหน่งฯ ต่อ ป.ป.ช อันเป็นเท็จ กรณีบริษัท ศิลาชัยบุรีรัมย์ (1991) จำกัด และห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) บุรีเจริญ คอนสตรัคชั่น ที่การแจ้งบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินของนายศักดิ์สยาม อาจไม่ถูกต้องตรงตามความเป็นจริงส่อเจตนาปกปิดทรัพย์สิน เพราะเป็นเจ้าของที่แท้จริงในทรัพย์สินของเอกชนทั้ง 2 แห่ง และมีพฤติกรรมน่าเชื่อว่าใช้อำนาจหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเอื้อประโยชน์ให้กับ ห้างหุ้นส่วนจำกัดบุรีเจริญ ตอนสตรัคชั่น เข้าทำสัญญากับกระทรวงคมนาคมหลายโครงการฯ
ต่อมาศาลรัฐธรรมนูญได้มีมติโดยเสียงข้างมาก (7 ต่อ 1) เมื่อวันที่ 17 ม.ค.2567 ที่ผ่านมาโดยวินิจฉัยว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายศักดิ์สยามสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) นับแต่วันที่ศาลมีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 วรรคสอง คือ วันที่ 3 มีนาคม 2566 แล้ว
เนื่องจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนั้นเป็นเด็ดขาด มีผลผูกพันรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล องค์กรอิสระ และหน่วยงานของรัฐ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 211 วรรคสี่ ประกอบ มาตรา 5 ดังนั้นการกระทำของนายศักดิ์สยามดังกล่าว ซึ่งกระทำในขณะที่ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จึงอาจเข้าข่ายการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงฯตามที่รัฐธรรมนูญ มาตรา 219 บัญญัติไว้ด้วย จึงเป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช.ที่จะต้องดำเนินการนำคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมาไต่สวนและยื่นศาลฎีกาให้ลงโทษตามครรลองของกฎหมายต่อไป
อ่านประกอบ