‘เศรษฐา’ ย้ำเป้าหมายร่วมประชุม WEF ไทยพร้อมทุกด้านสำหรับการลงทุน ด้าน ‘สุริยะ’ พร้อมเสนอโปรเจ็กต์แลนด์บริดจ์สู่สายตาชาวโลก ส่วนกรณี สว.รวมเสียงเปิดอภิปรายรัฐบาล มองเป็นสิทธิ์ แต่เหมาะสมหรือไม่ให้ประชาชนตัดสิน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 17 มกราคม 2567 เวลา 08.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นเมืองดาวอส ซึ่งช้ากว่าไทย 6 ชั่วโมง) ณ ศูนย์ประชุม Congress Centre เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ก่อนเริ่มภารกิจแรกในกรอบ WEF (Country Strategy Dialogue on Thailand) ข้อความหลักที่ต้องการส่งต่อบอกนักลงทุนทั่วโลกคือ ประเทศไทยเปิดแล้วสำหรับการลงทุน และไทยมีความพร้อมในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นมาตรการสนับสนุนด้านภาษี หรือพลังงานสีเขียว พร้อมทั้งจะนำเสนอนโยบายด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และโอกาสทางธุรกิจกับประเทศไทย รวมถึงจะร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้เข้าร่วม และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่บริษัทชั้นนำทั่วโลก
ในส่วนของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวเพิ่มเติมว่า จะมีการนำเสนอโครงการ Landbridge ให้กับนักลงทุน ซึ่งเป็นโครงการที่ นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลให้ความสำคัญมาก และเชื่อว่าโครงการนี้ จะเป็นที่สนใจของนักลงทุนทั่วโลก โดยที่ผ่านมาได้มีโอกาสพูดคุย และได้รับความสนใจจากนักลงทุนหลายประเทศ
@สว.อภิปรายเป็นสิทธิ์
กรณีที่สมาชิกวุฒิสภา (สว.) รวบรวมเสียงพอที่จะเปิดอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 153 แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2560 แล้วว่า ก็ว่ากันไปตามรัฐธรรมนูญหากมีเสียงพอที่จะขอเปิดอภิปรายได้ก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาล ในฐานะฝ่ายบริหารที่จะต้องตอบ เมื่อฝ่ายนิติบัญญัติมีข้อข้องใจ ซึ่งเป็นไปตามกฎหมาย แต่ก็ขอให้เป็นไปอย่างสร้างสรรค์และมีวิธีการสื่อสารที่ถูกต้อง
ส่วนที่สว. บางส่วนยอมรับว่าเพิ่งทำงานได้เพียง 4 เดือนเร็วเกินไปที่จะอภิปราย ในขณะที่รัฐบาลชุดที่แล้วไม่มีการอภิปรายนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าไม่ขอวิจารณ์ในเรื่องนี้ ถือว่าเป็นการใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ ส่วนเหมาะสมหรือไม่เหมาะสมนั้น ก็ให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน ซึ่งหน้าที่ของตน หากมีการรวบรวมเสียงถูกต้อง เป็นไปตามรัฐธรรมนูญแล้วก็เป็นหน้าที่ของตนที่จะต้องไปตอบ
เมื่อถามว่าต้องกำชับรัฐมนตรี ให้เตรียมพร้อมเป็นพิเศษหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่ได้กำชับอะไร เพราะยังไม่มีการยื่นมาและเชื่อว่ารัฐมนตรีทุกคนทำงานเต็มที่อยู่แล้ว และทุกคน ต้องพร้อมที่จะชี้แจงหากถูกพาดพิง
ส่วนจะขอร้องสว. ว่าอย่าพาดพิงถึงคนนอกหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามความเหมาะสม และตามความถูกต้อง หากมีการตอบอย่างชัดเจนแล้ว เป็นไปตามหลักนิติธรรมแล้ว ถึงจุดหนึ่งก็ต้องพอ ยืนยันไม่เสียสมาธิในการทำงาน เพราะถือเป็นหน้าที่ ซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ หากรวบรวมเสียงได้ เราก็ต้องไปตอบ แม้อาจจะเพิ่งเริ่มต้นทำงานก็ตามที หากสว.มีข้อคลางแคลงใจก็ต้องพร้อมที่จะตอบ แต่ถ้าถามว่าอยากจะเอาเวลา มาทำงานเพื่อประเทศก็อยาก แต่หากสว.มีข้อคลางแคลงใจและอยากที่จะอภิปราย ตนก็โอเค