‘สุภาภรณ์ นิปวณิชย์’ อัยการผู้เชี่ยวชาญ ฉะ 2 พิธีกรดังโยงอสส.ป่วยลาราชการ 3 เดือน เลี่ยงออกคำสั่งตรวจสอบอดีตผู้บริหารอัยการระดับสูง ลั่นต้องให้ความเคารพในความเป็นมนุษย์กับทุกคน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 8 ม.ค. 2567 น.ส.สุภาภรณ์ นิปวณิชย์ อัยการผู้เชี่ยวชาญ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดียาเสพติด 9 อดีตอัยการเจ้าของสำนวนคดีเเตงโม ได้กล่าวถึงกรณีที่มีสื่อมวลชนรายการชื่อดังจัดรายการวิเคราะห์ข่าว ที่ตั้งประเด็นถึงสำนักข่าวออนไลน์เเห่งหนึ่งที่ออกมาโพสต์ว่าให้จับตาดูสำนักงานอัยการสูงสุดว่าจะมีการเปลี่ยนถ่ายอำนาจกระทันหันในสำนักงานอัยการสูงสุด ซึ่งผู้ดำเนินรายการได้ตั้งประเด็นว่า ในสัปดาห์นี้ให้รอตามข่าว อาการป่วยของนายอำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ อัยการสูงสุด ที่กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาเรื่องร้องเรียนต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับอดีตผู้บริหารอัยการระดับสูง ว่านายอำนาจ มาลาป่วยหรือลาออกก่อนพ้นตำเเหน่งบริหารเพื่อหลีกเลี่ยงการออกคำสั่งสอบสวนวินัย เนื่องจากทั้งสองคนมีความสนิทสนมกัน
น.ส.สุภาภรณ์ กล่าวว่า ส่วนตัวเองได้ฟังข่าวที่กำลังเป็นประเด็น จึงขอพูดในฐานะประชาชนที่รับฟังข่าวสารคนหนึ่งว่า จากการฟังเสียงผู้ดำเนินรายการแล้ว รู้สึกว่าเขาตื่นเต้นที่ให้ข่าวก่อนใคร จากที่ได้ฟังแล้วรู้สึกแบบนั้น พิธีกรมีการตั้งข้อสันนิษฐานถามกันเองตอบกันเอง ในลักษณะเป็นการป่าวประกาศให้โลกรู้ว่ามีการเจ็บป่วยเฉลยให้พร้อมว่าคนป่วย ป่วยเป็นโรคอะไร ปัญหาคือได้ถามคนที่ป่วยเขาก่อนหรือไม่ ว่าคนที่ป่วยไม่สบายเขาอยากให้ข่าวซึ่งเป็นเรื่องส่วนตัวหรือไม่เพราะเรื่องเจ็บป่วยมันกำหนดไม่ได้ จะจริงเท็จยังไง ต้องให้ผู้ที่ป่วยตัดสินใจเอง แต่ที่ฟังคือ พิธีกรชายใช้คำว่า "ดังนั้นใช้มะเร็งเป็นเหตุในการลาพักสามเดือน" ต้องถามว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับพิธีกรทั้งสองท่าน
ส่วนตัวไม่รู้จัก แต่เราให้ความเคารพในความเป็นมนุษย์ทุกคน และเข้าใจว่าพื้นฐานมนุษย์ ควรต้องมีความเห็นอกเห็นใจกันคนที่เจ็บป่วย ได้นึกถึงใจเจ้าของใจคนรอบข้างบ้างหรือไม่ว่าเขารู้สึกอย่างไร คนป่วยพร้อมที่จะให้ข้อมูลในเรื่องส่วนตัวหรือไม่ คนป่วยเจ็บทั่วไปก็น่าเห็นใจอยู่แล้ว แต่ที่ฟังดูพิธีกรเขากลับโอเคมาก ๆ ที่เอาเรื่องอาการป่วยแบบนี้มาเป็นประเด็นพูด
จากประสบการณ์ตัวเอง คนเราป่วยกายได้ แต่ใจเราต้องไม่ป่วย การทำงานใดๆที่เกี่ยวกับคนหมู่มากต้องใช้สติ เช่นกันกับสื่อมวลชน ซึ่งก็มีหลากหลาย บ้างก็ตรวจสอบ บ้างก็ชี้นำ แต่สำคัญต้องมีคุณธรรมจริยธรรม ซึ่งผู้ดำเนินรายการทั้งสองคนก็อายุก็ไม่ใช่น้อย ๆ บางเรื่องที่เป็นเรื่องส่วนตัวจริง ๆ
“เช่นอาการเจ็บป่วยของผู้ป่วยมะเร็ง ย้ำมะเร็งไม่ใช่ไข้หวัด ผู้ป่วยมะเร็งซึ่งก็น่าเห็นใจอยู่แล้ว แต่กลับเจตนานำอาการป่วยมาให้ข่าวประกาศให้โลกรู้ได้เนี่ย เอาอะไรมาคิด และฝากถึงคนที่ให้ข้อมูลกับท่านพิธีกรด้วยว่า คุณกำลังดึงให้พิธีกรทั้งสองท่านอยู่ในความทรงจำของใครหลายๆคนในแง่ไม่ดีนักคุณกำลังทำร้ายพิธีกร
เพราะในเวลาที่คุณไม่ได้อยู่แล้ว คุณลอยตัวแต่คุณกำลังสร้างบาดแผลให้สื่อมวลชน” น.ส.สุภาภรณ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณีดังกล่าวมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมถึงกรณีที่มีคนในอัยการนำเรื่องความเจ็บป่วยนี้ไปโยงกับประเด็นอื่นในกลุ่มไลน์ของอัยการ