ครม.รับทราบคำสั่งนายกฯ เกลี่ยงานรองนายกฯใหม่ ดึงกระทรวงยุติธรรมเส้น ‘DSI’ ให้ ‘พีระพันธุ์’ กำกับ โยก ‘สาธารณสุข’ ให้ ‘สมศักดิ์ เทพสุทิน’ ดูแลแทน ‘เศรษฐา’ ชี้สื่ออย่าคิดมาก ไม่เกี่ยวเรื่องระเบียบราชทัณฑ์
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 27 ธันวาคม 2566 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (26 ธ.ค. 66) มีมติรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 381/2566 เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี มีรายละเอียด ดังนี้
ตามที่ได้มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 229/2566 เรื่อง มอบหมายและมอบอำนาจให้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 13 กันยายน 2566 นั้น
เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินดำเนินการไปด้วยความเรียบร้อย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 10 และมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2545 มาตรา 11 (2) และมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 มาตรา 38 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2550 และมาตรา 90 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ประกอบกับพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการมอบอำนาจ พ.ศ. 2550 จึงให้แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 229/2566 ลงวันที่ 13 กันยายน 2566 ดังนี้
1. การมอบหมายและมอบอำนาจให้ รองนายกรัฐมนตรี (นายภูมิธรรม เวชยชัย) ปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ให้ยกเลิกข้อ 1.1.4 กระทรวงสาธารณสุข
2. การมอบหมายและมอบอำนาจให้ รองนายกรัฐมนตรี (นายสมศักดิ์ เทพสุทิน) ปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ให้ยกเลิกความในข้อ 2.1.2 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “2.1.2 กระทรวงสาธารณสุข”
3. การมอบหมายและมอบอำนาจให้ รองนายกรัฐมนตรี (นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค) ปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นข้อ 6.1.3 “6.1.3 กระทรวงยุติธรรม (ยกเว้น กรมสอบสวนคดีพิเศษ)”
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2566 เป็นต้นไป
@เศรษฐา ขอสื่ออย่าคิดมาก
ต่อมา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นดังกล่าวว่า อย่าไปคิดมาก เพราะพิจารณาตามทักษะความรู้ ความสามารถ เป็นการปรับให้ตรงจุดมากกว่า และนายพีระพันธุ์ ก็ไม่ใช่พรรคเพื่อไทย รัฐบาลไม่ได้ยึดติดว่าใครอยู่พรรคไหน แล้วต้องอยู่ตรงนั้นเสมอไปเช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ เป็นผู้รับผิดชอบดูแล จึงสะท้อนให้เห็นการทำงานหลายภาคส่วน หลายพรรคสามารถทำงานร่วมกันได้
เมื่อถามว่าสาเหตุที่สลับกระทรวงยุติธรรม ถูกเชื่อมโยงว่าเป็นเพราะนายสมศักดิ์ออกมาพูดเรื่องระเบียบกรมราชทัณฑ์ หรือไม่ นายเศรษฐา ส่ายหน้า ก่อนกล่าวว่า ไม่มีเรื่องนี้แน่นอน ไม่เกี่ยวกัน ขอยืนยัน
@สมศักดิ์ ดีใจ ไม่ต้องดู ‘ยุติธรรม’
ขณะที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีเดียวกันว่า ไม่รู้ ไม่มี และเมื่อก่อนเหมือนมีการกล่าวหาว่า ไปทำระเบียบกฎเกณฑ์ไว้เกี่ยวกับการเอื้ออะไรต่างๆ ตอนนี้เมื่อไม่ได้คุมแล้วก็ชัดเจนว่าไม่ได้เอื้อ จึงไม่มีอะไรน่าสงสัยอีกแล้ว
เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีได้ให้เหตุผลในการเปลี่ยนแปลงงานใหม่หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ต้องให้เหตุผล เพราะเป็นอำนาจนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว เปลี่ยนแปลงได้ตลอด
ผู้สื่อข่าวถามว่า เกิดความสงสัยหรือไม่ เพราะเคยเป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และเมื่อเป็นรองนายกรัฐมนตรีก็กำกับกระทรวงยุติธรรมอีก แต่ล่าสุดกลับมีการเปลี่ยนแปลง นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่อยากถาม ตนเป็นนักการเมืองต้องพร้อมที่จะทำงาน และที่ผ่านมาก็เคยทำงานในกระทรวงสาธารณสุข ทั้งตำแหน่งรมว.สาธารณสุข และรมช.สาธารณสุข จึงถือว่ามีงานที่หนาแน่นกว่ากระทรวงยุติธรรมหลายเท่าตัว ถ้าไปถามจะถูกหาว่าเราอยากทำงานเบา
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า สาเหตุที่ถูกย้าย เพราะแสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องคดีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีมากเกินไป ทำให้สังคมจับจ้องรัฐบาลใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ได้สงสัยอะไร ที่ผ่านมาก็ว่าไปตามระเบียบกฎเกณฑ์ เพื่อให้สังคมเกิดความเข้าใจ และก็มีแต่คนพูดว่าดีแล้วที่ทำให้สังคมเข้าใจ ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า น้อยใจหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า “ดีใจ”
เมื่อถามย้ำว่า รู้สึกโล่งใจหรือไม่ที่ไม่ต้องรับเผือกร้อน นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ ไม่ได้มีเผือกร้อนอะไรเลย ทำงานมาตั้งหลายสมัยงานทุกอย่างมีทางออก และมีคำตอบของเขาอยู่แล้วอย่าไปซีเรียส อย่าซีเรียสแทนตนเลย สบายๆ
ส่วนกรณีที่ให้นายพีระพันธุ์ไปกำกับกระทรวงยุติธรรม จะมีงานสำคัญในอนาคตอะไรหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ ไม่น่าจะมีอะไร คงอยู่ที่ความเหมาะสม
ช่วงท้าย ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า อาจจะมีเรื่องในอนาคตที่ไม่อยากให้พรรคเพื่อไทยไปเกี่ยวข้องหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า อย่าไปคิดมาก เมื่อมีการปรับให้ใหม่ตนก็ดีใจแล้วที่ได้กระทรวงสาธารณสุขมา