จับปฏิกิริยา ครม.เศรษฐา หลังสื่อทำเนียบฯตั้งฉายา พบส่วนใหญ่รับได้ ‘นายกฯ’ เข้าใจสื่อทำหน้าที่ ก่อนปัดมีเงา ‘ชินวัตร’ เบื้องหลัง ประกาศอยู่ครบเทอม 4 ปี ด้าน ‘สุทิน-ชาดา’ รับได้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 26 ธันวาคม 2566 หลังจากที่ผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล ตั้งฉายาให้กับรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน พร้อมอีก 4 รัฐมนตรี ได้แก่ นายภูมิธรรม เวชชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์, นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ตามที่รายงานไปแล้วนั้น
@เศรษฐา ไม่โกรธฉายา เซลล์แมนสแตนต์ ‘ชิน’
ล่าสุด นายเศรษฐา กล่าวถึงการตั้งฉายารัฐบาลว่า ก็เข้าใจในทุกๆปีก็มีการตั้งฉายา ซึ่งเป็นเรื่องของสีสัน ฉายาของนายกรัฐมนตรีที่ตั้งเป็นเซลล์แมนสแตนด์ชิน คำว่าเซลล์แมนก็ทราบอยู่แล้ว เพราะประกาศตัวอยู่แล้ว ส่วนสแตนด์ “ชิน” เป็นคำควบกล้ำระหว่างภาษาไทยกับภาษาอังกฤษหรือเปล่า ซึ่งสื่อต้องอธิบายให้ฟังจึงจะตอบได้ ตนเองก็เข้าใจหลวมๆ ขอให้ถามได้เลย ไม่เป็นไรจะได้ตอบได้ถูกต้อง
ผู้สื่อข่าวจึงอธิบายเสริมว่า คำว่าสแตนด์ “ชิน” ในคำบรรยายหมายความว่าอาจจะเป็นเงาของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่รอการขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป นายเศรษฐา กล่าวว่า อ๋อ โอเค แต่วันนี้ตัวเองก็เป็นนายกฯ อยู่และทำหน้าที่อย่างเต็มที่ และพยายามตั้งใจเอาให้ครบ 4 ปีให้ได้ แต่สำคัญมากกว่านั้นไม่ใช่อยู่ไปให้ครบ 4 ปีแล้ว ชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนไม่ได้ดีขึ้น ส่วนสแตนด์ “ชิน” คือคอยสำหรับให้ครอบครัวไหนเข้ามา อันนี้พี่น้องประชาชนเป็นคนตัดสินมากกว่า ตรงนี้ก็ต้องคอยการเลือกตั้งครั้งต่อไป ก็เข้าใจไม่ได้คิดอะไร
เมื่อถามว่า มองอย่างไรกับฉายารัฐบาลแกงส้ม “ผลัก” รวม นายกรัฐมนตีรีกล่าวว่า ไม่ค่อยเข้าใจคำว่าผลักสักเท่าไหร่ แต่หลักแกงส้มเป็นแกงที่มีรสชาติดี และรู้ว่าเรารวมกันหลายพรรคอยู่แล้ว และรสชาติแกงส้มก็มีทั้งเปรียว หวาน เค็ม เผ็ด ใช่ไหม ตนคิดว่ารัฐมนตรีทุกคนก็ครบเครื่องพร้อมที่จะทำงานให้กับพี่น้องประชาชน ตนมองเป็นลักษณะนั้นมากกว่า
เมื่อถามย้ำว่าคำว่า “แกง” หมายถึงการแกล้ง ที่เป็นการพรรคก้าวไกลในช่วงต้นๆ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่พรรคเพื่อไทยเราก็โหวตให้ในตอนนั้น แต่ไม่สามารถรวบรวมเสียงได้ และเราก็ไม่สามารถคอยได้ 9-10 เดือนตามที่เขาบอก ก็ต้องทำหน้าที่กันไป ประเทศคอยไม่ได้ ไม่ได้แกล้งแน่นอน และยืนยันตามที่ตนพูดมาตลอดตั้งแต่ก่อนเข้ารับตำแหน่งก็บอกอยู่แล้วว่าพร้อมสนับสนุนตรงนั้นหากสามารถทำได้
@สุทิน: ตั้งอย่างไรก็รับ
ขณะที่นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ว่า จะตั้งอะไรให้ก็ดีทั้งนั้นเพราะเคารพในวิจารณญาณของสื่ออยู่แล้ว ขอบคุณสื่อตั้งอย่างไรก็รับ
เมื่อถามว่าการตั้งว่า “พลิกทิน สู่ดาว” แล้วจะทำงานอย่างไรให้เป็นไปตามฉายา นายสุทิน ตอบว่า ก็ต้องทำให้ไปสู่ดาวจริงๆ หวังว่าปีหน้าปีต่อไปจะไม่ใช่ดาวดับ จะต้องทำงานให้เป็นดาวเด่น เมื่อถามอีกว่าชินกับการเป็นดาวแล้วหรือยัง นายสุทิน กล่าวว่า เป็นดาวไม่แน่ใจนะ แต่เป็นรัฐมนตรีชินแล้ว ส่วนคำถามว่า จะทำอย่างไรให้เป็นดาวค้างฟ้า นายสุทิน ตอบว่า มั่นใจทำได้ แต่ตอนนี้ยังไม่หลงว่าเป็นดาว เอาเป็นว่าไม่เป็นรัฐมนตรีที่แย่กว่าคนก่อนๆ เอาแค่นั้นเอามาตรฐานไม่ตกจากคนก่อนๆ
สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
@ชาดา: ร้องเพลงแทนคำตอบ
ด้านนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ได้รับฉายาว่า มาเฟีย ละเหี่ยใจ เมื่อเจอผู้สื่อข่าวดักถาม นายชาดาได้ครวญเพลงหัวใจละเหี่ย ของไข่ มาลีฮวนน่า ในท่อนที่ว่า บางครั้งหัวใจละเหี่ย เหนื่อยท้อแท้นั่งเศร้าคนเดียว หนทางยาวไกลๆ
ก่อนให้สัมภาษณ์ถึงฉายาดังกล่าวว่า “เป็นเรื่องธรรมดา และเป็นเรื่องที่ทำกันทุกปี ทุกรัฐบาลก็ทำเป็นเรื่องการหยอกล้อกันธรรมดา ไม่ถือสาอะไร ถือว่าสนุกสนานดี แต่บังเอิญตนไม่ใช่น้าไข่แต่ชอบเพลงนี้หัวใจละเหี่ย” ก่อนจะร้องเพลงในท่อนดังกล่าวอีกครั้ง เมื่อถามย้ำว่าแล้วละเหี่ยท้อแท้จริงหรือไม่ นายชาดา ไม่ตอบคำถามดังกล่าว
ชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
@ชลน่าน: แกงส้ม ‘ผลัก’ รวม…เพื่อประเทศ
ขณะที่นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวหลังรัฐบาลได้รับฉายาประจำปี 2566 “แกงส้ม ผลัก รวม” ว่า มันมีความหมายแต่ละคำ ก็แล้วแต่จะแปล แต่โดยรวมมันเป็นกระบวนกัน พร้อมอธิบายว่าแกง คือเอามาปรุง ซึ่งเป็นความหมายของคนทั่วไป แต่คนรุ่นใหม่อาจจะอีกมุมหนึ่ง ส่วนผลัก ใช้แรง กระทำให้มันออกไป แต่สุดท้ายคือรวม การรวมเพื่อประเทศซึ่งผลสัมฤทธิ์คือการรวมเพื่อประเทศชาติบ้าน
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข