‘สมศักดิ์’ ยันระเบียบราชทัณฑ์ให้ใช้สถานที่อื่นคุมขังได้ ไม่ได้เอื้อ ‘ทักษิณ’ ชี้ออกตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ปี 60 ด้าน ‘ทวี’ บอกขอดูรายละเอียด ก่อนปัดตอบระเบียบออกมาเอื้ออดีตนายกฯหรือไม่
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 12 ธันวาคม 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรีในฐานะกำกับดูแลกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ว่า กรณีระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วย ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง 2566 ที่มีสาระสำคัญ เกี่ยวกับสถานที่คุมขังอื่นที่ไม่ใช่เรือนจำ ว่า เรื่องดังกล่าวเกิดจาก พ.ร.บ. ราชทัณฑ์ 2560 แต่กฎหมายรอง หรืออนุบัญญัติต่างๆต้องมีออกมาให้ครบ เหมือนบางกระทรวงที่มีกฎหมายแต่ไม่สามารถออกอนุบัญญัติได้ ทำให้ใช้กฎหมายได้ไม่ครบถ้วน ส่วนรายละเอียดให้สื่อไปตรวจสอบอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวถามว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะได้รับประโยชน์จากระเบียบดังกล่าวหรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า ไม่ทราบ ต้องไปดูรายละเอียด เพราะไม่ได้ติดตาม
เมื่อถามว่า ผู้ที่จะพิจารณาได้ว่าระเบียบดังกล่าวจะครอบคลุมไปถึงได้นายทักษิณหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของกระทรวงและเจ้าหน้าที่พิจารณา เพราะรายละเอียดไม่ได้ดู
เมื่อถามย้ำว่ามีการวิจารณ์ว่าเรื่องดังกล่าวมีการปูทางไว้ตั้งแต่สมัยที่นายสมศักดิ์ เป็นรมว.ยุติธรรม นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ใช่ กฎหมายมีมาตั้งแต่ปี 2560 และต้องมีอนุบัญญัติในทุกมาตรา เพื่อประโยชน์การบริหาร
ด้าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง 2566 ที่มีสาระสำคัญเกี่ยวกับสถานที่คุมขังอื่นที่ไม่ใช่เรือนจำ ซึ่งถูกมองว่าเอื้อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า เป็นการออกตามกฎหมายราชทัณฑ์อยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตอนนี้สังคมครหาในเรื่องนี้ค่อนข้างมาก พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เรื่องนี้ขอไปดูรายละเอียดก่อน เพราะมันเป็นเรื่องของคณะกรรมการราชทัณฑ์ที่มีการประชุมไว้หลายเดือนแล้ว เรื่องนี้เท่าที่ตรวจสอบมีปลัดกระทรวงลงไปดูแลอยู่ เป็นการออกตามกฎหมายราชทัณฑ์ ซึ่งต้องยอมรับว่า วันนี้กรณีของเรือนจำ เมื่อรับเป็นหลักนิติธรรม ปรากฎว่า กรมราชทัณฑ์ได้คะแนนเรื่องหลักนิติธรรม 0.25 จากคะแนนเต็ม 1 ถือว่าต่ำกว่ามาตรฐานเยอะ เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามหลักนิติธรรม หรือกฎหมายราชทัณฑ์ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ก็ได้ทำหนังสือมาถึงรัฐบาลในชุดที่แล้ว ซึ่งการปฏิบัติทั้งหมดจะไม่เอาตัวบุคคลมาตั้ง
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ในส่วนที่เกี่ยวข้องในอำนาจการออกกฎกระทรวง จะมีกฎกระทรวงตามมาตรา 89/1 ของวิอาญา เพราะตอนนี้นักโทษที่อยู่ในเรือนจำคือ นักโทษระหว่างไปขังอยู่กับนักโทษเด็ดขาด เป็นการส่อที่จะขัดรัฐธรรมนูญ ในกรณีเรือนจำจะมีกฎหมายที่ระบุของราชทัณฑ์ไว้ ซึ่งในกฎหมายมีส่วนหนึ่งของผู้ต้องขังจะมีสถานที่ควบคุม ทุกคนก็คือติดคุกเหมือนเดิม แต่รายละเอียดจะมีคณะกรรมการที่จะมีการประชุม โดยจะมีตัวแทนทั้งศาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รายละเอียดตนได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงเข้าไปดูแลหลังจากมีข่าว
โดยปลัดกระทรวงบอกว่าเรื่องการดำเนินการจะไม่มีเรื่องตัวบุคคลเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่จะดูเรื่องของหลักเกณฑ์ เพราะเราต้องการให้มีการปฏิบัติตามกฎหมายราชทัณฑ์ ปรากฎว่ากฎหมายราชทัณฑ์มีกฎหมายลูกที่จะต้องออกจำนวน 10 ฉบับ ซึ่งยังไม่ได้ออก และมีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ที่มีกฎหมายลูกที่จะออกอีก 12 ฉบับ ก็ยังไม่ออก รวมถึง ป.ป.ส. ก็มีกฎหมายลูกที่จะต้องออกอีกหลายฉบับ แต่ยังไม่ได้ออก ซึ่งการไม่ออกกฎหมายลูกหรือกฎหมายรองรับ เป็นการส่อไปในทางที่ไปละเมิดสิทธิคนอื่น แต่อย่างไรก็ตาม ระเบียบต่างๆ ต้องเป็นไปตามกฎหมายที่ออกโดยสภา
เมื่อถามย้ำว่า แม้ไม่ระบุตัวบุคคล แต่นายทักษิณเข้าเงื่อนไขนี้หรือไม่ พ.ต.อ.ทวี ไม่ตอบคำถาม และเดินขึ้นรถยนต์ทันที