‘เศรษฐา’ ไม่โอเคหลังบอร์ดไตรภาคีเคาะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ ชี้ขึ้นน้อยไป ชี้อย่ากดแรงงานต่อไป วอนนายจ้างให้ความร่วมมือขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำให้มากขึ้นกว่านี้ เผยถ้าเสนอเข้าครม.เมื่อไหร่ ไม่เห็นด้วยแน่ ส่วนอัตรา 400 บ./วัน จังหวัดใหญ่ๆมีลุ้น ส่วนจังหวัดเล็กๆดูความเหมาะสม ปัดขึ้นค่าแรง นายจ้างแห่ย้ายฐาน ชี้แค่วาทกรรม
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 9 ธันวาคม 2566 เมื่อช่วงเช้าทีผ่านมา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดกาญจนบุรี โดยจุดแรกที่ศูนย์ประสานงานอำเภอท่ามะกา ตำบลตะคร้ำเอน อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี เวลา 10.30 น. นายกรัฐมนตรี พบปะพี่น้องประชาชนชาวกาญจนบุรี
@ฟังเสียงประชาชน ปราบแน่ หนี้นอกระบบ-ยาเสพติด
นายกรัฐมนตรีขึ้นกล่าวกับประชาชนที่มารอรับว่า ยินดีมากที่ได้กลับมาจังหวัดกาญจนบุรีอีกครั้ง หลังจากการเลือกตั้งผ่านไปแล้ว ทั้งนี้ตลอดระยะเวลาประมาณ 3 เดือนซึ่งจะครบในวันมะรืนนี้ (11 ธ.ค. 66) ที่รัฐบาลเข้ามาบริหาร พบว่าบ้านเมืองเรามีปัญหาเยอะ แต่รัฐบาลเรามีรัฐมนตรีและทีมงานที่พร้อมจะรับใช้ประชาชนอย่างเต็มที่เสียงสะท้อน เสียงเรียกร้อง เสียงวิงวอนตอนที่มาเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นพรรคไหนที่มาที่นี่เสียงก็เป็นเหมือนกันหมดคือเรื่องของปากท้อง เรื่องปัญหาหนี้สิน ปัญหายาเสพติด พื้นที่ทำกิน ราคาเกษตร การค้าขายระหว่างพรมแดนทั้งหลาย รัฐบาลนี้ไม่ได้นิ่งนอนใจ
เรื่องของหนี้สิน เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2566 ตนและ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประกาศเป็นวาระแห่งชาติหนี้นอกระบบต้องหมดไป จะเป็นการทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการ มีการเซ็ตเป้าหมายที่ชัดเจนระหว่างนายอำเภอกับผู้กำกับทุกจังหวัด เมื่อมีเสียงเรียกร้องหรือมีปัญหากับการถูกเรียกทวงหนี้อย่างไม่เป็นธรรม ไม่ว่าจะเป็นแก๊งมอเตอร์ไซค์ หมวกกันน็อค ออนไลน์ หรือการข่มขู่เจ้าหน้าที่ ทุกคนพร้อมที่จะให้บริการกับพี่น้องประชาชน ฉะนั้นอย่ากลัว ให้เดินออกมาพูดคุยกัน รัฐบาลให้ความเป็นธรรมและคุ้มครองเจ้าหนี้และลูกหนี้ที่ทุกอย่างจะต้องถูกต้องเป็นไปตามกฎหมาย บ้านเมืองมีขื่อมีแป จะไม่ยอมรับการรีดไถที่ไม่ถูกต้องและไม่เป็นธรรม เรื่องนี้รัฐบาลให้ความสำคัญสูงสุด
นายเศรษฐากล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องปัญหายาเสพติด มาพูดกันที่นี่ไปแล้วเมื่อตอนเลือกตั้งว่าเป็นปัญหาที่กัดกร่อนสังคมไทยมานานมาก เรื่องของวงจรการค้ายาเสพติด ไม่ว่าจะจากชายแดน ได้มีการบริหารจัดการโดยแต่งตั้งข้าราชการระดับสูงเข้ามาจัดการประสานงานกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ฝ่ายความมั่นคง ตำรวจ และพื้นที่ ซึ่งให้ความสำคัญสูงสุด เรื่องยาบ้าเป็นเรื่องใหญ่ที่สุด เรื่องการทำลาย สมัยก่อนใช้เวลานาน แต่คราวนี้เร่งรัดวงจรในการทำลาย จับได้พิสูจน์ทราบทำลายทันทีเพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัยของสังคม
ขณะที่เรื่องการค้าการลงทุนยกระดับความเป็นอยู่ของพี่น้องเป็นที่ประจักษ์ดีรัฐบาลนี้ทำงานอย่างเข้มแข็ง มีการเดินทางไปต่างประเทศ ไปเปิดการค้าระหว่างประเทศ ดึงนักลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาเพื่อยกระดับชีวิตความเป็นอยู่พี่น้องประชาชน ทำให้ภาคอุตสาหกรรมไทยเข้มแข็งขึ้น
@รับไม่ได้ขึ้นค่าแรงต่ำ
“และเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม มีเรื่องที่ทำให้ผมไม่สบายใจคือเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ เชื่อว่าพี่น้องหลายคนเป็นห่วงอยู่ตรงนี้ โดยความเห็นส่วนตัวและถือเป็นนโยบายหลักของรัฐบาลนี้ในเรื่องค่าแรงขั้นต่ำจะต้องถูกยกระดับขึ้นมา เรายอมรับไม่ได้ที่มีการประกาศกันเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม เดี๋ยวคงจะต้องมีการพูดคุยกันในเวทีที่เหมาะสม โดยใช้เหตุผลคุยกันตรงนี้ เป็นเรื่องที่เรายอมรับไม่ได้และต้องแก้ไขกันต่อไป”นายเศรษฐากล่าว
นายเศรษฐา กล่าวด้วยว่า วันนี้ถือเป็นโอกาสดีที่หลังจากการเลือกตั้งยังไม่มีรัฐมนตรีหรือนายกรัฐมนตรีมาเยี่ยมเยียนที่จังหวัดกาญจนบุรีเลย จึงถือเป็นมิติใหม่หลังจากได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องให้เข้ามาบริหาร และเดินทางมารับฟังพูดคุยปัญหาที่พี่น้องทุกคนมีอยู่วันนี้พร้อมมีรัฐมนตรีมาหลายคน ฝากการสื่อสารเข้ามาด้วยว่าอยากให้เราทำอะไรบ้าง ขอให้ความมั่นใจว่ารัฐบาลนี้พร้อมและทำงานอย่างเต็มที่
ต่อมา นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า กรณีคณะกรรมการไตรภาคี มีมติปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ 2-16 บาทนั้น ต้องยอมรับว่าค่าแรงขั้นต่ำของเราไม่ได้ขึ้นมานานมาก ตื่นขึ้นมาน้อยมาก ขณะที่ค่าครองชีพสูงขึ้นทุกวัน โดยรัฐบาลพยายามทำหลายวิธี ที่จะให้ลดค่าใช้จ่าย ค้างค่าไฟฟ้าค่าน้ำมัน พักหนี้เกษตรกร และอีกหลายอย่างเพื่อช่วยเหลือบรรเทา ความทุกข์ของประชาชน รวมไปถึงการแก้ไขหนี้นอกระบบ และหนี้ในระบบ รัฐบาลพยายามทำอยู่ เพื่อลดค่าใช้จ่าย
ขณะที่เรื่องของการเพิ่มรายได้ก็สำคัญ โดยประชาชนหลายสิบล้านคน ต้องพึ่งค่าแรงขั้นต่ำจำนวนมาก บางจังหวัดขึ้นแค่ 7-12 บาทเท่านั้นซึ่งน้อยเกินไป ทั้งที่รัฐบาลพยายามที่จะยกระดับ ให้ประเทศไทยมีอุตสาหกรรมไฮเทค ประชาชนมีรายได้สูงขึ้น เมื่อได้เดินทางไปต่างประเทศเพื่อที่จะดึงบริษัทใหญ่มาลงทุนในไทย ไปเปิดตลาดค้าขายใหม่ในต่างประเทศ ที่ไทยยังไม่มีสนธิสัญญาทางการค้า สิ่งเหล่านี้รัฐบาลพยายามทำอย่างเต็มที่
@สะกิดนายจ้าง ขึ้นค่าแรง
“แต่ผู้ประกอบการหรือนายจ้าง ต้องขอวิงวอนและขออ้อนวอนว่าพี่น้องแรงงาน คือผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด เมื่อมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มมากขึ้น อีกทางหนึ่งรัฐบาลพยายามทำทุกทาง แต่การขึ้นรายได้ ผู้ประกอบการต้องพยายามทำ ไม่ใช่มากดค่าจ้าง แล้วนายจ้างไม่ได้พัฒนากิจการของตัวเองเลย ผู้ประกอบการต้องพัฒนาตัวเอง เพราะปัจจุบันนายจ้างก็ได้ประโยชน์ จากการลดค่าไฟ ค่าน้ำมันและอีกหลายอย่าง ตามมาตรการของรัฐบาล วันนี้จะยอมให้แรงงานประชาชนคนไทยต่ำติดดินแบบนี้ ประเทศที่ใกล้เคียงกับไทยเช่นสิงคโปร์หรือเกาหลี สิงคโปร์ค่าแรงขั้นต่ำต่อวัน 1,000 บาท เราจะยอมให้พี่น้องประชาชนของเราเป็นพลเมืองชั้น 2 ชั้น 3 ของโลกหรือในเมื่อค่าแรงขั้นต่ำติดดินขนาดนี้ เมื่อรัฐบาลพยายามยกระดับภาคอุตสาหกรรม และผู้ประกอบการ ก็ควรที่จะทำไปพร้อมๆกัน ถ้าทำเพียง ฝ่าย เดียวเป็นไปไม่ได้” นายเศรษฐากล่าวตอนหนึ่ง
@จ่อทบทวนค่าแรงใหม่
ผู้สื่อข่าวถามว่าในเรื่องค่าแรงจะมีโอกาสทบทวนใหม่หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ต้องขอทบทวนใหม่ จะต้องไปพิจารณาดูถึงแนวทางความเหมาะสมเพราะเพิ่งทราบข่าวเรื่องนี้ แต่คงไม่ใช่การสั่งการ แต่เป็นการพูดคุยร่วมกัน ต้องพูดถึงองค์รวมของเศรษฐกิจ และการทำธุรกิจ ไม่ใช่แค่ขึ้นค่าใช้จ่ายให้ผู้ประกอบการหรือนายจ้างอย่างเดียว แต่ยังมีการเพิ่มรายได้เปิดตลาดที่มากขึ้น ที่ผ่านมาผู้ประกอบการหรือนายจ้างก็ได้ประโยชน์ไปแล้ว ถึงเวลาต้องคืนให้กับคนที่เป็นกำลังสำคัญ ในภาคผลิตด้วยหรือเปล่า พอพ้นจากวันหยุดก็จะมีการเรียกคุยกับผู้ที่เกี่ยวข้อง เชื่อว่าเรื่องนี้ทุกคนมีความกังวลหมด ขอให้คิดถึงใจเขาใจเรา
เมื่อถามย้ำว่าในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่ได้รับการปรับขึ้นมานานแต่ขณะนี้ปรับเพียงแค่ 2 บาทจะมีการพิจารณาใหม่หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้คุยกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซียได้พูดคุยกันเรื่องนิคมอุตสาหกรรม การพัฒนาท่องเที่ยว การเปิดด่านสะเดา มีการลงทุนสร้างสะพานไปยังมาเลเซีย สิ่งเหล่านี้เป็นการสร้างความมั่นใจให้ผู้ประกอบการ แต่ไม่เข้าใจว่าทำไม ถึงขึ้นแค่ 2-3 บาท ยอมรับว่าไม่สบายใจ ถึงอยากใช้เวทีนี้สื่อสาร ไปถึง และขอความเป็นธรรมให้กับพี่น้องแรงงาน ไม่อย่างนั้นจะติดกับรายได้ต่ำ ต้องคุยทั้งกับไตรภาคี และในครม.เพราะเรื่องค่าแรงขั้นต่ำเป็นนโยบายหลักของรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวถามว่า การปรับขึ้นค่าแรงที่เป็นธรรมควรจะอยู่ที่ตัวเลขเท่าไหร่ นายเศรษฐากล่าวว่า ต้องขึ้นไปสูงกว่านี้ โดยจะต้องฟังเหตุผลของนายจ้างเหมือนกัน อย่างที่บอก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ขึ้น 2-3 บาท ซื้อไข่ลูกหนึ่งยังไม่ได้ เมื่อถามย้ำว่าผู้ประกอบการจะอ้างเรื่องผลประกอบการไม่ดีเพราะสภาพเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลก็พยายามช่วยอยู่ โดยเฉพาะการลดค่าไฟที่ภาคอุตสาหกรรม ได้ประโยชน์ จากที่ 4.50 บาทต่อหน่วย ลดมาเหลือ 3.99 ดังนั้นขอให้คืนกับประชาชนบ้าง ขอย้ำว่ารัฐบาลนี้ให้ความสำคัญกับเรื่องเศรษฐกิจเป็นหลักอยู่แล้ว
@ขึ้นค่าแรงเยอะแล้วย้ายฐาน แค่วาทกรรม - แย้มจังหวัดใหญ่ลุ้นค่าแรง 400
เมื่อถามว่าหากมีการปรับเพิ่มขึ้นจำนวนมากอาจจะมีปัญหาเรื่องของการย้ายฐานผลิตออกจากประเทศไทย นายเศรษฐากล่าวว่า ไม่มีหรอก อันนี้เป็นวาทกรรม ไม่มีใครย้ายเพราะค่าแรงขึ้น จาก 300 เป็น 400 บาทไม่มีหรอก รัฐบาลยังมีมาตรการส่งเสริมด้านภาษี มีระบบสาธารณสุขที่ดี สถานศึกษาก็ดี โครงสร้างพื้นฐานและสนามบินก็ดี ท่าเรือน้ำลึกก็มี ที่ตนเดินทางไปต่างประเทศก็ได้เซ็น MOU กับหลายบริษัทใหญ่ๆ ทั้งโรงงานรถยนต์ไฟฟ้าหรือ EV ถ้าผู้ประกอบการไม่ช่วยกันก็ไปลำบาก
เมื่อถามว่า รัฐบาลจะพยายามทำให้ได้ถึง 400 บาทตามนโยบายที่รัฐบาลได้ประกาศไว้หรือไม นายเศรษฐากล่าวว่า ต้องดูตามความเหมาะสม ในจังหวัดใหญ่อาจจะได้ถึง 400 แต่จังหวัดเล็กอาจจะไม่ถึง ต้องดูความเหมาะสม ขอย้ำว่าสิ่งต่างๆที่รัฐบาลพยายามทำเพื่อให้ นายจ้างสามารถส่งสินค้าออกไปได้และยังอำนวยความสะดวก เพื่อลดค่าใช้จ่าย ให้ผู้ประกอบการ
เมื่อถามว่า จะสื่อสารไปยังผู้ใช้แรงงานอย่างไรเพื่อไม่ให้ออกมาเคลื่อนไหว นายเศรษฐากล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องนี้และประกาศชัดเจนว่าไม่เห็นด้วย ขอให้ผู้ใช้แรงงาน ดูการกระทำ ว่าตนมีความจริงใจขนาดไหนอย่างไร เราให้ความสำคัญสูงสุด การที่ตนไปพูดที่หอการค้าไทย ขอให้ฟังดูว่าเขาดีใจหรือไม่ที่รัฐบาลขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เช่นเดียวกับสภาอุตสาหกรรม รัฐบาลพยายามสร้างความมั่นใจให้ต่างชาติเข้ามาลงทุน และเข้ามาอยู่ในประเทศไทยง่ายและปลอดภัยขึ้น ทั้งหมดเพื่อสร้างความมั่นใจ
" วันนี้ผมไม่ได้มาหาเสียง เพราะการหาเสียงจบไปแล้วแต่เราพูดถึงความเป็นจริงว่าชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ต้องได้รับการดูแลควบคู่กันไปด้วย ขออ้อนวอนไปถึงนายจ้างให้ความเป็นธรรมกับผู้ใช้แรงงานด้วย" นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากมีการนำเสนอเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมครม. จะพิจารณาอย่างไร นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ต้องดูว่ามีความจำเป็นว่าจะเสนอเข้ามาหรือไม่ ถ้าเสนอเข้ามา ตนไม่ยินยอมไม่เห็นด้วยแน่นอน เชื่อว่า นโยบายค่าแรงขั้นต่ำดูที่ความเหมาะสม เพราะเป็นนโยบายหลักของรัฐบาลนี้ หลายประเทศ ค่าแรงขั้นต่ำมากกว่านี้ วันนี้ไทยชนะสิงคโปร์ในแง่ดึงดูดนักลงทุน บริษัทใหญ่เข้ามาสร้าง Data Center เป็น เป็นนิมิตหมายอันดีว่าประเทศเรามีศักยภาพสูง แต่ทำไมจึงไปกดผู้ใช้แรงงานที่จะมาช่วยพัฒนาประเทศ
เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีรู้สึกเหมือนมีความฉุนเฉียวที่พูดถึงเรื่องนี้ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกับฉุน เพราะการที่เป็นนายกรัฐมนตรีต้องดูแลประชาชน 60 ล้านคน ไม่ใช่ดูแลแค่ มาเอาคะแนนเสียง กับผู้ใช้แรงงานอย่างเดียว แต่นายจ้างและผู้ประกอบการ ก็ไปรับฟังความเห็นตลอด และพร้อมจะช่วยเหลือ สิ่งเหล่านี้ค่อนข้างเป็นรูปธรรมอยู่แล้ว
อ่านประกอบ
เคาะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ ภูเก็ตสูงสุด 370 บาท/วัน มีผล 1 ม.ค.67