‘ชัชชาติ’ ทราบแล้วกรณีพนักงานเทศกิจเขตดุสิต เรียกรับค่าดูแล 6,000 บ. ชี้ ป.ป.ท.เป็นผู้จับกุม ส่วนกทม.คอยสนับสนุน ก่อนขอบคุณประชาชนช่วยแจ้งเบาะแสจับผู้กระทำผิด เป็นเยี่ยงอย่างกับบุคลากรกทม.อีกนับหมื่น
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 11 ตุลาคม 2566 กรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) สนธิกำลังเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เข้าจับกุมตัว นายสมพงษ์ สิงหวัฒน์ พนักงานเทศกิจ สำนักงานเขตดุสิต กรณีเรียกรับเงินค่าดูแลเป็นรายเดือน ๆ ละ 3,000 บาท จากผู้ประกอบการเพื่อไม่เข้าไปตรวจสอบการดำเนินตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาด พร้อมของกลางเป็นเงินสดจำนวน 6,000 บาท วานนี้ (10 ต.ค.66)
- (มีคลิป)เรียกค่าดูแล 3 พัน/ด. จับสด พนง.เทศกิจเขตดุสิต
- เรียกเงินค่าดูแล 3 พัน/ด.! จับสด พนง.เทศกิจเขตดุสิต แลกไม่เข้าตรวจความสะอาดงานก่อสร้าง
- 3 ป.แถลงผลจับ พนง.เทศกิจดุสิตเรียก3 พัน/ด.-ผตห.อ้างเงินของกลางใช้จ่ายค่าปรับ ไม่ใช่สินบน
ล่าสุด นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าว่า เหตุการณ์ดังกล่าวกรุงเทพมหานครไม่ได้เป็นคนจับกุม ทางสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เป็นผู้ดำเนินการ แต่กรุงเทพมหานครให้ความร่วมมือตลอด ที่ผ่านมามีแนวนโยบายในการเอาจริงเอาจังกับเรื่องการทุจริตคอร์รัปชัน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นตัวอย่างให้เห็นว่ามีการเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้ ซึ่งจะมีการขยายผลให้ได้มากที่สุด ว่ามีผู้บริหารเกี่ยวข้องหรือไม่ กรุงเทพมหานครมีบุคลากรหลายหมื่นคน เมื่อทำให้เห็นว่ามีการจับกุมผู้กระทำผิดจริงจะทำให้เกิดความยำเกรงขึ้นได้
“ขอขอบคุณประชาชนที่ให้เบาะแส และเมื่อได้รับเบาะแสก็ไม่ปล่อยผ่าน มีการส่งต่อให้ผู้รับผิดชอบ จะเห็นว่ามีการดำเนินการอย่างจริงจัง ซึ่งกทม.รับไม่ได้กับการรีดไถหรือเก็บเงินใต้โต๊ะ ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นไม่ได้หมายความว่าแย่ลง แต่หมายความว่ามีการดำเนินการอย่างจริงจัง น่าจะสะท้อนถึงการเอาจริงเอาจังมากกว่าความล้มเหลว ตัวเลขผู้กระทำผิดอาจเพิ่มขึ้นแต่ถ้าเดินหน้าต่อมันก็จะค่อย ๆ ลดลง” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวในตอนท้าย