'บิ๊กโจ๊ก' แถลงผลกู้กล้องวงจรปิดคดีกำนันนก เบื้องต้นมีตำรวจทั้งหมดให้การไม่ตรงข้อเท็จจริง ไม่มีการระงับเหตุ จับลูกน้องกำนันนก ต่างคนต่างหนี ลั่นเอาผิดกำนันนกได้แน่
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวความคืบหน้ากรณีนายธนัญชัย หมั่นมาก หรือ หน่อง ท่าผาลูกน้องนายประวีณ จันทร์คล้ายก่อ หรือกำนันนกก่อ เหตุยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง (สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล.) เสียชีวิต และพ.ต.ท.วศิน พันปี รองผู้กำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง (รอง ผกก.2 บก.ทล.) ได้รับบาดเจ็บ ส่งผลให้ในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมกำนันนก และจับตายธนัญชัย
โดยหลักฐานสำคัญเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด แต่พบว่าเซิร์ฟเวอร์วงจรปิด 2 ตัว ในจุดเกิดเหตุถูกนำทิ้งน้ำ ก่อนเจ้าหน้าที่จะงมเจอและเร่งกู้ภาพในเซิร์ฟเวอร์ ตามที่สื่อหลายสำนักเคยเสนอข่าวไปแล้ว
ล่าสุด เมื่อเวลา 21.15 น. วันที่ 14 ก.ย. ที่ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ได้แถลงเกี่ยวกับเซิร์ฟเวอร์ที่กู้ภาพเหตุการณ์ที่บ้านกำนันนก ว่า กล้องมีทั้งหมด 15 ตัว เรากู้ได้ 13 ตัว ได้แบบ 100 เปอร์เซ็นต์เต็ม เหลือ 2 กล่อง พรุ่งนี้ช่วงบ่ายๆ น่าจะกู้เสร็จสมบูรณ์เรียบร้อย ตอนนี้ไม่สามารถลงรายละเอียดของแต่ละคนได้ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับรูปคดี คำให้การของทุกคนไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เราจะมีการดำเนินการตามมาในคดีต่างๆ โดยจะมีการออกหมายจับเพิ่ม และแจ้งข้อหาเพิ่ม
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ในส่วนภาพจากกล้องวงจรปิดที่ออกมาเห็นได้ชัดเจน ใครอยู่ส่วนไหน เหตุการณ์ก่อนหลังเป็นอย่างไร คนเจ็บและผู้เสียชีวิตอยู่อย่างไร โดยพ.ต.ต.ศิวกร มีผู้ลั่นไกสังหารคือนายสิทธิธา ส่วนตำรวจ 6 นาย ที่ถูกนำตัวส่งศาลดำเนินคดีไปก่อนหน้านี้ แทบทั้งหมดคอยคุมกันกำนันนก และพาหลบหนีจริง ซึงจากการสืบสวนพบว่าทั้ง 6 นาย เป็นตำรวจอยู่ในพื้นที่มานานและสนิทสนมกับกำนันนก และภาพวงจรปิด ก็เป็นหลักฐานที่สามารถเอาผิดกำนันนกได้อย่างแน่นอน
"วันเกิดเหตุ จากหลักฐานพบว่า ทั้งตำรวจและพลเรือนเกือบทุกคนพกปืนจำนวนมาก และได้ยิงเสียงปืนขณะเกิดเหตุชัด ซึ่งต่างคนต่างหนีกระเจิดกระเจิงหลังปืนนัดแรกดังขึ้น นัดแรกก็ไปแล้ว จากภาพบอกชัดว่า ไม่มีใครทำหน้าที่ ไม่มีใครจับนายหน่อง ทั้งนี้ภาพจะแบ่งกลุ่มคนได้ 3 กลุ่มคือ 1.ช่วยเหลือ 2.หนีไปเลย 3.ควบคุมพื้นที่ ซึ่งส่วนของตำรวจมีทั้งหนีไปเลย และไม่ทำหน้าที่ และละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ส่วนจะมีการแจ้งดำเนินคดีกับตำรวจเพิ่มเติมหรือไม่ต้องดูรายละเอียดในรูปคดีก่อน" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าว
รอง ผบ.ตร.กล่าวต่อว่า ส่วนพยานหนึ่งคนสำคัญที่ถูกเรียกมาสอบปากคำในวันนี้ เป็น ร.ป.ภ.บ้านของกำนันนก ในวันเกิดเหตุวงจรปิดจับภาพได้ว่าหลังสินเสียงปืนของนายหน่อง ร.ป.ภ.นายนี้ ได้หยิบปืนขึ้นมาทันที่ค่อยควบคุมกันพื้นที่ทางเข้าออก พยายามทำหน้าที่ปกป้องเจ้านายตัวเอง ส่วนปืนที่พกตรวจสอบซื้อมาจากญาติที่เป็นตำรวจ พนักงานสอบสวนจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา และจะค้านประกันตัว ร.ป.ภ.คนดังกล่าวด้วย
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องการนำ พ.ต.ท.วศินส่งโรงพยาบาลในวันเกิดเหตุ หลังจากมีหลายคนออกมาอ้างว่า เป็นผู้ช่วยนำส่ง หลังจากที่เห็นภาพในกล้องวงจรปิด รู้แล้วว่าใครโกหกว่าช่วยคนเจ็บแต่ไม่ได้ช่วย สรุปได้ว่า ทั้งหมดให้การไม่ตรงข้อเท็จจริง และมั่นใจว่า มือยิงยังเป็นคนนี้ (นายธนัญชัย)เเน่นอน ส่วนสาเหตุที่สั่งยิง อยู่ในอีก 2 กล้อง ที่กำลังกู้คืน ซึ่งการถอดเซิร์ฟเวอร์ต้องมีความระวังมาก เเละต้องควบคุมอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้ใครเข้าไปทำอะไรที่ต้องสงสัย
เมื่อถามถึงเรื่องคดีกำนันนก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่าไม่รู้สึกกังวล เนื่องจากมีพยานหลักฐานที่ชัดเจน และมัดตัวกำนันนกอยู่เเล้ว ทั้งจากคำให้การ การสอบปากคำ และจากนิติเวชหลังจากนี้ การบ้านชุดใหญ่ คือ การตรวจเส้นทางการเงินทั้งหมด ว่าเงินส่วนนั้นเข้ามาอย่างถูกต้องหรือไม่ และการประมูลงาน 1,500 กว่าโครงการ เป็นการประมูล และเสียภาษีถูกต้องหรือไม่ และจะมีการตรวจสอบต่อไปถึงเรื่อง ส่วยสติ๊กเกอร์ ต่างๆ ว่าการประกอบกิจการน้ำหนักเกินหรือไม่ เพราะเรื่องพวกนี้เกี่ยวพันกันทั้งหมด
"เมื่อตำรวจไปยืนอยู่ข้างคนทำผิด ไปเป็นกิ่งก้าน ไปเป็นไม้ค้ำยัน ให้ผู้ที่เป็นนักเลง ทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพล ก็ต้องถูกลงโทษ บางคนอาจจะต้องสูญเสียอนาคต" รอง ผบ.ตร.กล่าวทิ้งท้าย