ส.ก.ยานนาวา ก้าวไกล เสนอข้อบัญญัติ กทม.ให้เฉพาะรถเมล์ EV วิ่งใน กทม. เท่านั้น โดยสภากทม.รับวาระแรกแล้ว ขณะที่ส.ก.อภิปรายหนุน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 12 เมษายน 2566 ในนที่ประชุมสภากรุงเทพมหานคร (สภากทม.) สมัยประชุมสามัญ สมัยที่สอง (ครั้งที่ 2) ประจำปี 2566 นายพุทธิพัชร์ ธันยาธรรมนนท์ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) เขตยานนาวา เสนอญัตติร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง รถโดยสารประจำทางพลังงานไฟฟ้าเพื่อลดมลภาวะ พ.ศ... เพื่อใช้บังคับในพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร
เหตุผลที่เสนอข้อบัญญัตินี้ เนื่องจากในปัจจุบัน กทม.มีปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ทวีความรุนแรงขึ้นเป็นลำดับ จากสภาวะโลกร้อนที่เกิดขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะมลพิษทางอากาศที่มาจากสารมลพิษที่ปล่อยออกจากรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์แบบจุดระเบิดด้วยการอัดหรือแบบสันดาปภายในที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงซึ่งมีการเผาไหม้ภายใน ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ส่วนบุคคลของประชาชนทั่วไปหรือรถโดยสารประจำทางที่ใช้ขนส่งประชาชนทั่วกรุงเทพมหานคร ส่งผลสืบเนื่องให้เกิดฝุ่นละอองและควันกระจายทั่วไปใน กทม.และจังหวัดใกล้เคียง โดยเฉพาะปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ที่เป็นอันตรายแก่ประชาชนเป็นอย่างมาก
เพื่อควบคุมปริมาณมลพิษที่ออกจากรถยนต์ ไม่ให้เกินเกณฑ์ที่เป็นอันตรายต่อประชาชน จึงเห็นควรมีมาตรการกำหนดให้รถโดยสารประจำทางปรับปรุงเป็นรถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าซึ่งเป็นพลังงานสะอาด ไม่ส่งผลกระทบต่อมลภาวะทางอากาศ และสอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาทางเทคโนโลยีของรถยนต์ทั่วโลก บังคับใช้ในกรุงเทพมหานคร
“ปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ส่งผลกระทบต่อชีวิตประชาชนเป็นจำนวนมาก และมีผู้เสียชีวิตจากสาเหตุนี้ ซึ่งไม่ได้รับการดูแลอย่างเอาจริงเอาจังจากหน่วยงานภาครัฐ ประกอบกับพ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 ซึ่งเป็นพ.ร.บ.ควบคุมมลพิษบังคับใช้มาแล้วหลายสิบปี สำหรับฝุ่นในกทม.เกิดจากยานพาหนะ 60% และ 90% ของไอเสียจากรถคือ ฝุ่นละออง PM 2.5 การปรับปรุงให้รถเมล์ดีขึ้น จะทำให้คนหันมาใช้เยอะขึ้น ใช้รถส่วนตัวน้อยลง ฝุ่นน้อยลง ปัญหาก็จะหายเป็นโดมิโน ทั้งนี้ปัญหาฝุ่นทุกคนรับเท่ากันหมด ไม่ว่าจะรวยหรือจน การออกข้อบัญญัติเป็นการปักหมุดจุดเริ่มต้นทำให้ทุกคนรู้ว่าอำนาจบริหารมาจาก ส.ก. 50 เขต เพื่อพัฒนากทม.แก้ปัญหาที่จุดเริ่มต้น ให้เปลี่ยนแปลงอย่างถาวร” ส.ก.ยานนาวากล่าว
พุทธิพัชร์ ธันยาธรรมนนท์ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) เขตยานนาวา ผู้เสนอข้อบัญญัติ
@ส.ก.แห่อภิปรายหนุน
ขณะเดียวกันมี ส.ก.หลายคนให้ความเห็นในที่ประชุม อาทิ นายฉัตรชัย หมอดี ส.ก.เขตบางนา กล่าวว่า รถเมล์ไฟฟ้าจะทำให้เกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมรถไฟฟ้าและแบตเตอรี่ ก่อให้เกิดการจ้างงานและการลงทุนที่มากขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนการเดินรถถูกลง
ด้านนายสราวุธ อนันต์ชล ส.ก.เขตพระโขนง กล่าวว่า ปัญหานี้เป็นปัญหาเรื้อรังของกทม.ส่งผลต่อสุขภาพของประชาชน ในกรุงเทพฯมีรถยนต์รวมจักรยานยนต์มากกว่า 10 ล้านคน ซึ่งอาจเกิดจากภาครัฐที่ปล่อยปละละเลยไม่ควบคุมคุณภาพรถหรือไม่ การออกข้อบัญญัตินี้อาจกำหนดระยะเวลาการใช้บังคับเพื่อให้ผู้ประกอบการมีเวลาปรับตัวเพื่อลดความเดือดร้อน ซึ่งกทม.เป็นเมืองใหญ่ควรที่จะต้องมีกฎหมายควบคุมของตัวเองเพื่อคืนอากาศสดชื่นให้ประชาชนและภาคเอกชนมีหลักในการประกอบธุรกิจ
ขณะที่นางสาวภัทราภรณ์ เก่งรุ่งเรืองชัย ส.ก.เขตบางซื่อ กล่าวว่า ข้อบัญญัติฉบับนี้จะ เป็นข้อบัญญัติที่จะส่งผลต่อลูกหลาน 20-30 ปี การรับหลักการจะทำให้เรามีอากาศสะอาดในอีก 7 ปี และคืนอากาศสะอาดให้ประชาชนกว่า 10 ล้านคน
นอกจากนี้ยังมีส.ก.ที่ร่วมอภิปรายเห็นด้วยกับญัตตินี้อีกหลายท่าน ประกอบด้วย นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร ส.ก.เขตจอมทอง นางกนกนุช กลิ่นสังข์ ส.ก.เขตดอนเมือง นายพีรพล กนกวลัย ส.ก.เขตพญาไท
ทั้งนี้ที่ประชุมสภากรุงเทพมหานคร ลงมติเห็นชอบรับหลักการแห่งข้อบัญญัติและให้ตั้งคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง รถโดยสารประจำทางพลังงานไฟฟ้าเพื่อลดมลภาวะ พ.ศ. ... จำนวน 17 ท่าน กำหนดเวลาแปรญัตติภายใน 7 วัน และพิจารณาแล้วเสร็จภายใน 60 วัน