‘ธปท.’ เผยผลสำรวจฯ พบอัตราเข้าพักโรงแรม มี.ค.66 อยู่ที่เฉลี่ย 66% ใกล้เคียงเดือนก่อน ขณะที่ผู้ประกอบการคาดไตรมาส 2/66 นักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้น
..................................
เมื่อวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เผยแพร่ผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้ประกอบการที่พักแรม (HSI) เดือน มี.ค.2566 ซึ่งจัดทำร่วมกับสมาคมโรงแรมไทย โดยพบว่าในเดือน มี.ค.2566 อัตราการเข้าพักโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 66% ใกล้เคียงกับเดือนก่อน โดยโรงแรมที่รับนักท่องเที่ยวไทยเป็นหลักมีอัตราการเข้าพักปรับดีขึ้นเล็กน้อยตามการใช้สิทธิโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 และคาดว่าในเดือน เม.ย.2566 อัตราเข้าพักเฉลี่ยจะอยู่ที่ 60%
สำหรับราคาห้องพักในเดือน มี.ค.2566 นั้น มีโรงแรมบางส่วนสามารถปรับขึ้นราคาห้องพักได้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโรงแรมตั้งแต่ 5 ดาวขึ้นไป ขณะที่โรงแรม 4 ดาว ยังปรับราคาได้จำกัด
ผลสำรวจฯยังพบว่า ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมส่วนใหญ่หรือกว่า 80% เห็นว่าในช่วงไตรมาส 1 ปี 2566 จะมีจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับไตรมาส 4 ปี 2565 โดยโรงแรมที่รับนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นหลัก คาดว่าจะมีจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน เป็นสัดส่วนมากกวว่าโรงแรมที่รับนักท่องเที่ยวชาวไทยเป็นหลัก สำหรับไตรมาส 2 ปี 2566 ผู้ประกอบการฯคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวมีแนวโน้มชะลอลง หลังหมดฤดูกาลท่องเที่ยว
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการฯระบุด้วยว่า ณ ไตรมาส 1 ปี 2566 นักท่องเที่ยวจีนกลับเข้ามาไม่มากนัก ขณะที่ Q2/66 มีแนวโน้มปรับดีขึ้น แต่คาดว่าจะยังมีสัดส่วนน้อยกว่า 40% เทียบกับช่วงก่อนเกิด COVID-19
ส่วนการจ้างในงานในธุรกิจโรงแรมนั้น ผู้ประกอบการโรงแรม 62% ยังคงเผชิญกับปัญหาขาดแคลนแรงงาน ขณะที่ 25% ระบุว่า มีปัญหาขาดแคลนแรงงานที่กระทบทั้งจำนวนลูกค้าและคุณภาพบริการ โดยเฉพาะโรงแรมในภาคใต้ และภาคกลางที่มีอัตราการเข้าพักในระดับสูง ขณะที่โรงแรมในภาคตะวันออกส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบในแง่คุณภาพการให้บริการเป็นหลัก
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการฯขอให้ภาครัฐมีมาตรการช่วยเหลือ ได้แก่ การลดค่าสาธารณูปโภค โดยเฉพาะค่าไฟฟ้า การควบคุมราคาสินค้าหรือวัตถุดิบ และมาตรากรลดหย่อนภาษี รวมทั้งขอให้เร่งกระบวนการและลดค่าใช้จ่ายในการนำเข้าแรงงานต่างด้าว และเสนอให้มีการจัด Event ในรูปแบบ B2B เพื่อให้ผู้ประกอบการทองเที่ยวและผู้ซื้อร่วมเจรจาแลกเปลี่ยนข้อมูลลูกค้าและบริการท่องเที่ยว