พรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดตัวทีมเศรษฐกิจพรรค ‘สุพัฒนพงษ์-ม.ล.ชโยทิต’ นำทีม ก่อน ‘ประยุทธ์’ ชี้งานเศรษฐกิจทำมาหมดแล้ว แต่ต้องทำต่อ ล่นประเทศไม่ใช่สถานประกอบธุรกิจ ก่อนตอบปมการเมืองไม่หวั่นไหวภาพกินข้าว ‘อนุทิน-บิ๊กป้อม’ หลุดถี่ ปัดตอบปมดีลตั้งรัฐบาล ขอให้รอหลังเลือกตั้ง
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 23 มีนาคม 2566 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์ พรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมด้วยนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ และนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค ร่วมเปิดตัวทีมงานเศรษฐกิจของพรรค
โดยทีมงานเศรษฐกิจของพรรค มี ม.ล.ชโยทิต กฤดากร ผู้แทนการค้าไทย ในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นหัวหน้าทีมร่วม
สมาชิกประกอบด้วย นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, นายอนุชา นาคาสัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, นายวินท์ สุธีรชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไพร์ม สตีล มิลล์ จำกัดและอดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล, นายชวิน อรรถกระวีสุนทร นักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์, นายวิท วรรณไกรโรจน์ อาจารย์ประจำภาควิชาพาณิชยศาสตร์ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ
ทีมเศรษฐกิจพรรครวมไทยสร้างชาติ
@ประเทศไทยไม่ใช่ ‘สถานประกอบธุรกิจ’
หลังจากแนะนำทีมเศรษฐกิจแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า จริงๆยังมีอีกเยอะที่จะมาร่วมงานกัน จะเห็นว่าทีมงานของพรรคมีคนหลายช่วงวัยอยู่ด้วยกัน เพราะประเทศนี้เป็นของประชาชนทุกคน ประเทศไทยไม่ใช่สถานประกอบธุรกิจ ประเทศไทยคือประชาชนทึุกคนคือหุ้นส่วนร่วมกันของประเทศ เป้าหมายต่อไปคือ จะทำอย่างไรให้ทุกคนมีความสุข มีความพึงพอใจ พร้อมกันไปกับการพัฒนาประเทศและจัดหารายได้ต่างๆให้ภาครัฐ ซึ่งต้องใช้คนในหลากหลายส่วนมาร่วมกัน
“หลายท่านในที่นี้ ทำงานกับผมมาตลอด โดยเฉพาะรัฐบาลที่ผ่านมา ก็เกิดความไว้วางใจ ยืนยันว่า พรรคของเราจะเป็นพรรคที่ต้องการทำให้ประเทศชาติดีที่สุด หลายคนต้องคิดถึงด้วยว่าที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นมาบ้างในช่วงก่อนหน้าที่จะเข้ามาบริหาราชการแผ่นดินตลอด 8 ปี ทีผ่่านมา ก่อนหน้านั้น เกิดอะไรขึ้น ขอให้ทบทวนดู อย่าลืมมันเกิดอะไรขึ้น ก็ขอให้อย่าให้มันเกิดขึ้นอีกนะครับ 8 ปีที่ผ่านมา พยายามแก้ไขปัญหาต่อเนื่อง ดูแลประชาชนทุกคน เพราะถือว่าทุกคนคือหุ้นส่วนของประเทศ” พล.อ.ประยุทธ์กล่าวตอนหนึ่ง
@8 ปี ทำมาหมดแล้ว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า โจทย์สำคัญคือ จะทำอย่างไรให้ประเทศเดินไปข้างหน้า และไม่ทอดทิ้งคนทั้งระดับบน-กลาง-ล่าง เพราะทั้งหมดต้องเผื่อแผ่ถึงกัน ซึ่งรัฐบาลที่ผ่านมาก็สร้างมาพอสมควรแล้ว เรื่องดิจิทัล แพลตฟอร์มต่างๆ ก็ทำมาหมดแล้ว ทั้งหมดนี้ รัฐบาลทำมาหมดแล้ว เพียงแต่มีบางโครงการไปได้มาก ไปได้น้อย ถ้าได้รับความไว้ใจไปต่อ ก็คิดว่าสิ่งเหล่านี้จะสานต่อไปในวันข้างหน้า
อย่างไรก็ตาม หลายสิ่งทำคนเดียวไม่ได้ ต้องอาศัยความร่วมมือกัน ประเทศชาติไม่มีพระเอก แต่มี ‘คณะพระเอก’ ซึ่งก็คือ มีคนเก่งๆเป็นพระเอกอยู่รอบๆ แล้วตนก็มีหน้าที่บริหารพระเอกเหล่านี้ ที่ผ่านมาก็ไม่ง่าย แต่ไม่ยากเกินไปที่จะร่วมมือกัน แต่สิ่งสำคัญต้องขอความไว้วางใจก่อน ขอแค่นี้ ถ้าไว้วางใจกัน ก็เดินไปข้างหน้ากันได้
“ผมไม่อยากหาเสียงแบบที่หาๆกัน เพราะผมเป็นคนแบบนี้และอยู่ในการบริหารราชการทั้งในส่วนกองทัพและตรงนี้มาด้วย ก็ขออย่าระแวงผม สิ่งสำคัญต้องคิดถึงความมั่นคง เศรษฐกิจสังคม สุขภาพ ทุกอย่างเป็นก้อนเดียวกันที่จะพัฒนาไปข้างหน้า และต้องดูว่าประเทศเรามีคนเท่าไหร่ รายได้การประกอบอาชีพมีเท่าไหร่ และแก้ไขปัญหาให้อย่างไร ซึ่งทุกอย่างเราเตรียมไว้แล้ว และมีเป้าหมายที่จะยกระดับรายได้พ้นเส้นความยากจนจาก 30,000 บาท ไปเป็น 100,000 บาทโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะไปถึงได้ก็ด้วยทีมงานที่มีประสบการณ์และมีความรอบรู้ บวกความระมัดระวัง” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
@ไม่ตอบ ‘อนุทิน’ ถกลับ ‘ประวิตร’ รอหลังเลือกตั้ง
ภายหลังการแถลง ผู้สื่อข่าวสอบถามกรณีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท ) พร้อมแกนนำไปร่วมรับประทานอาหารกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) อีกครั้ง หลังจากที่นายอนุทินได้ไปพบกับ พล.อ.ประยุทธ์ ด้วยเช่นกัน
พล.อ.ประยุทธ์ย้อนถามว่า แล้วเป็นอย่างไรล่ะ
เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวว่ามีการพูดถึงเงื่อนไขในการจัดตั้งรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า มันไม่ใช่เวลาอะไรในตอนนี้ มันยังไม่ได้เลือกตั้งเลย
เมื่อถามอีกว่า ที่มีการระบุว่าต้องให้ เฉพาะพล.อ.ประยุทธ์และพล.อ.ประวิตร เท่านั้นพรรคได้อันดับ 1 ก็จะให้เป็นนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ถ้าพูดอย่างนั้นก็อย่างนั้น แต่เราต้องดูวันหน้าก็แล้วกัน
พอถามว่าเห็นว่า ได้มีการพูดกับพล.อ.ประวิตร แล้วจริงหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็คุยกันว่าจะทำอย่างไรให้บ้านเมืองสงบและปลอดภัย แต่ก็ต้องดูที่ผลการเลือกตั้งอีกครั้งหนึ่ง ก็พูดแค่นั้น อย่าไปตีความกันเอาเอง
จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ ปฏิเสธตอบคำถามและให้ไปถามกับบรรดาแกนนำพรรคแทน
อย่างไรก็ตามเมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าเมื่อถึงเวลาแล้วค่อยมาพูดกันใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ถึงเวลาก็ให้มีการเลือกตั้งก่อนสิ ถ้ามันพูดตอนนี้แล้วมันจะได้อย่างไร ก็ยังไม่รู้ว่าใครจะได้มากได้น้อย ยังไม่รู้เลยตามกลไกของการเลือกตั้ง เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่สำคัญในอนาคต
@ไม่หวั่นไหว ภาพกินข้าวหลุดบ่อย
ผู้สื่อข่าวถามว่า แค่ภาพกินข้าวแค่นี้ไม่หวั่นใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ปัดโธ่ ถ้าอย่างนั้นผมก็ต้องหวั่นเวลาที่เขาไปกินข้าวกินน้ำ กินอะไรต่างๆ แล้วผมจะไปหวั่นอะไรล่ะ" ก่อนจะเอามือทุบไปที่หน้าอกด้านซ้าย พร้อมกล่าวอีกว่า "ผมเจอยิ่งกว่านี้มาแล้ว ยืนยันว่าวันนี้ไม่มีฝั่งอะไร ยังไม่มีฝั่งอะไรทั้งนั้น"
เมื่อถามย้ำว่า ในส่วนของ 2 ลุง พรรคไหนได้เสียงอันดับ 1 พรรคนั้นได้เป็นนายกรัฐมนตรีใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องเป็นเรื่องการพิจารณาร่วมกันสิ
ถามว่า มองหรือไม่ว่าภาพอะไรที่จะออกมาในขณะนี้ ทั้งภาพการรับประทานอาหารร่วมกันแค่เกมอย่างหนึ่งที่จะนำไปสู่บรรยากาศหลังการเลือกตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ หัวเราะพร้อมกล่าวว่า "ก็เขาไปกินข้าว และก่อนนายอนุทินไปกินข้าวท่านก็มาหาผม มาอวยพรวันเกิดให้ผม ก็เป็นเรื่องของท่าน ก็ยินดีที่มาอวยพรให้และนึกถึงผม ก็ว่ากันไป แต่หลังจากที่อวยพรผมแล้วจะไปกินข้าวที่ไหนก็ไปเลย ผมไม่ได้ว่าอะไรนี่"
@ไม่กลัวถูกโดดเดียว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในการจัดตั้งรัฐบาลหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติจะไม่โดนทิ้งใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ผมไม่กลัวตรงนั้น ผมขออย่างเดียวเพียงประชาชนอย่าทอดทิ้งผม" ทั้งนี้เมื่อพูดจบบรรดาแกนนำพรรคและทีมเศรษฐกิจพรรค ส่งเสียงเฮพร้อมปรบมือให้ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หวังแลนด์สไลด์หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอให้เลือกตั้งก่อนสิ ก่อนที่พล.อ.ประยุทธ์ จะเดินขึ้นไปประชุมคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคฯทันที