พรรคเพื่อไทยเดินสายลงพื้นที่หาเสียงในภาคใต้ เปิดตัวส.ส.ภูเก็ต-จัดเวทีปราศรัยที่พังงา 'ชลน่าน' ขอคะแนนให้ 'ธะเนต-กฤษ' ด้านจาตุรนต์ลั่น ถ้าได้เป็นรัฐบาลมีสนามบินแน่นอน พร้อมจวกประชาธิปัตย์คิดนโยบายไม่เป็นพัฒนาประเทศไม่ได้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 5 ก.พ. 2566 พรรคเพื่อไทยจัดเวทีปราศัย เพื่อไทย เพื่อพลิกฟื้นอันดามัน ที่อุทยานพระนารายณ์ อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา เริ่มต้นการปราศัยด้วยการเชิญว่าที่ส.สจากพื้นที่ภาคใต้ขึ้นเวที
จากนั้นนายธะเนต นาวาล่อง ว่าที่ส.ส.พรรคเพื่อไทย จังหวัดพังงา เริ่มกล่าวปราศัยว่า ปัจจุบันราคาพืชผลการเกษตร ยางพารา ปาล์ม และพืชผลการเกษตรลดลง แต่ค่าครองชีพเพิ่มขึ้น เชื่อมั่นว่านโยบายพรรคเพื่อไทยสามารถแก้ปัญหาให้กับคนภาคใต้ได้
ต่อมานายพร้อมพงษ์ นพฤทธิ์ กล่าวว่า เลือกตั้งครั้งนี้พังงาจะเปลี่ยนหรือไม่ ถ้าจะเปลี่ยนต้องแลนด์สไลด์เลือกพรรคเพื่อไทยเท่านั้น พร้อมขอให้ ‘อุ๊งอิ๊งค์’ เป็นลูกสาวของคนพังงา
นายชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่านและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พังงาแลนด์สไลด์ เพื่อไทยเท่านั้น วันนี้ยกชุดใหญ่มาที่นี่เพื่อเปลี่ยนใจชาวพังงาให้เลือกเพื่อไทย อนาคตของชาวพังงา ชาวอันดามันถูกทำลายไปในช่วงเวลาที่ผ่านมา เพื่อไทยขอโอกาสเปลี่ยนพังงา เปลี่ยนอันดามันไปพร้อมกัน ขอชาวภาคใต้เทคะแนนให้พรรคเพื่อไทยให้ได้คะแนน 250 ที่นั่งขึ้นไป ต้องเอาชนะส.ว. 250 คน โดยการเลือกพรรคเพื่อไทยแบบถล่มทลาย ถ้าเลือกเพื่อไทยจะได้ส.ส.ที่มีคุณภาพ พร้อมช่วยเหลือประชาชน นโยบายที่พรรคเพื่อไทยทำสำเร็จมาแล้ว คือ กองทุนหมู่บ้าน, 30 บาทรักษาทุกโรค และนโยบายที่ประกาศไปแล้ว เช่น ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท เงินเดือนจบปริญญาตรีเริ่มต้น 25,000 บาท ทำได้แน่นอน
นายชลน่าน กล่าวต่อว่า อุ๊งอิ๊งค์จะเป็นนายกได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับปลายปากกาของชาวภาคใต้ โดยภาคใต้มี 58 เขต แต่ละไม่น้อยกว่า 20,000 คะแนน เพื่อไทยขอ 1 ล้านคะแนน ถ้าชนะมีนโยบายพิเศษเฉพาะในอันดามัน เช่น การท่องเที่ยว การเกษตร เป็นต้น และขอชาวพังงา ชาวภาคใต้สนับสนุนเลือกนายธะเนต นาวาล่อง และนายกฤษ ศรีฟ้า
นายจาตุรนต์ ฉายแสง กล่าวว่า มาเชิญชวนชาวพังงา ชาวภาคใต้ และประชาชนทั่วประเทศเดินหน้าสู่ประชาธิปไตย ทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่เสียของเหมือนการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา 30 กว่าปีที่ผ่านมาตนมาปราศัยที่ภาคใต้ มาโต้กับพรรคประชาธิปัตย์ทุกครั้ง แต่ครั้งนี้ตนจะไม่ถือว่าประชาธิปัตย์เป็นคู่แข่ง ไม่ได้ดูถูกพรรคประชาธิปัตย์แต่เพราะการเมืองเปลี่ยนไปแล้ว พรรคประชาธิปัตย์ใช้วาทกรรมว่าเป็นพรรคของคนใต้มาตลอด แต่พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่พูดได้ วิจารณ์ได้ แต่มีสิ่งที่ทำไม่ได้อยู่ 2 อย่าง คือ คิดนโยบายไม่ได้และทำเรื่องเกี่ยวกับการพัฒนาประเทศไม่ได้
"20 ปีมานี้พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยชนะการเลือกตั้ง เมื่อ 20 ปีไม่เคยชนะการเลือกตั้ง เขาเลยพัฒนาตัวเองไปสู่ความคิดที่ว่าจะเลือกตั้งไปทำไม เลือกตั้งก็แพ้ไทยรักไทยทุกที เลือกตั้งก็แพ้เพื่อไทยทุกที สุดท้ายพรรคประชาธิปัตย์จึงเป็นพรรคการเมืองที่เข้าร่วมการล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ขัดขวางการเลือกตั้ง เชิญรัฐบาลเผด็จการมาทำรัฐประหาร" นายจาตุรนต์กล่าว
นายจาตุรนต์ กล่าวถึงการสร้างสนามบินพังงาว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล สนามบินพังงาทำได้แน่นอน ส่วนเรื่องของแรงงานที่ขาดแคลนในประเทศโดยเฉพาะในพังงา ที่ระบบแรงงานข้ามชาติของไทยในรัฐบาลที่ผู้ประกอบการต้องจ่ายเงินค่าหัว 2-3 หมื่นบาทให้กับคนที่เอาเปรียบแรงงาน ต้องแก้ระบบที่เอาเปรียบแรงงาน เอาเปรียบผู้ประกอบการ แต่รัฐบาลไม่แก้เพราะต้องการเงินจากส่วนนี้ แต่พรรคเพื่อไทยพร้อมแก้ ขอชวนให้ชาวภาคใต้เลือกตั้งแล้วดูที่นโยบาย ดูที่เพื่อไทย
น.ส.แพรทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทยกล่าวว่า ภาคใต้เป็นสถานที่สวยงามมาก และชาวภาคใต้เป็นมิตรกับพรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อไทยพร้อมพัฒนาเศรษฐกิจของพังงาให้ดีเหมือนภูเก็ต พรรคเพื่อไทยสร้างนโยบายเพื่อให้ประชาชนมีกินมีใช้ ไม่ใช่สร้างเพื่อหาเสียง ถ้าเพื่อไทยเป็นรัฐบาลราคายางจะดีขึ้นอย่างแน่นอน และสิ่งที่พรรคเพื่อไทยจะทำทั่วประเทศ คือ การเลือกคน 1 คนต่อ 1 ครอบครัว หา 1 ศักยภาพ เช่น ทำอาหารเก่ง ร้องเพลงเก่ง เป็นต้น นำคนเหล่านั้นมารวมกันแล้วอบรมพัฒนาทักษะให้เก่งขึ้นจนสามารถหารายได้เลี้ยงครอบครัวได้ มีรายได้ 200,000 บาท/ปี พรรคเพื่อไทยมีความตั้งใจที่จะทำให้ชาวภาคใต้กลับมามีความกินดีอยู่ดี ดังนั้นขอส.ส.จากพรรคเพื่อไทยเข้าไปทำงานให้ชาวใต้
สุดท้ายนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย กล่าวปราศัยด้วยสำเนียงภาคใต้ใจความว่า ชาวใต้อยู่กับประยุทธ์มา 8 ปี ก็อยู่อย่างยากลำบาก ถ้าอยากเปลี่ยนแปลงต้องเลือกกฤษ ศรีฟ้าและธะเนต นาวาล่อง ส.ส.เพื่อไทย ลองเดินหน้ากับพรรคเพื่อไทยอีกสักครั้ง เพราะผลงานก็มีมาแล้ว
ขณะเดียวกันก่อนที่จะเริ่มเวทีปราศัยที่อุทยานพระนารายณ์ อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัว และคณะกรรมการบริหารพรรค สมาชิกพรรค พร้อมด้วยว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.ภูเก็ตทั้ง 3 เขต ประกอบด้วย นายวัชรพงษ์ อนันตกูล อดีตรองนายกเทศมนตรีเทศบาลนครภูเก็ต นายสรธรรม จินดา อดีตรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต และนายอาวุธ หนูเชต เลขาธิการมูลนิธิพัฒนาป่าตอง ได้เข้าสักการะฮ่ายเหล็งอ๋องพญามังกรทะเลใต้ ที่บริเวณสวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษามหาราชินี (ลานมังกร) ถ.ถลาง ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นสัตว์มงคลที่จะช่วยปกป้องรักษาชาวภูเก็ตและผู้มาเยือน
จากนั้นได้เดินพบปะพ่อค้าแม่ค้าย่านเมืองเก่าภูเก็ตตลอดถนนถลาง เพื่อพูดคุยสอบถามสภาวะเศรษฐกิจ การค้าขายและสถานการณ์การท่องเที่ยว หลังการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 โดยมีพี่น้องประชาชนและพ่อค้าแม่ค้าต่างขอถ่ายภาพพร้อมกับมอบดอกกุหลาบสีแดงแก่ น.ส.แพทองธาร นพ.ชลน่าน นายณัฐวุฒิเป็นเพื่อเป็นกำลังใจท่ามกลางแสงแดดที่ร้อนระอุ โดยใช้เวลาราว 30 นาที จากนั้นได้เดินทางไปยังบริเวณสะพานสารสิน ต.ไม้ขาว อ.ถลาง เพื่อพบปะกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวและพี่น้องประชาชน จ.ภูเก็ต พังงาและกระบี่
โดยเฉพาะประเด็นการพัฒนาและยกระดับ จ.ภูเก็ต พังงาและกระบี่ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก ต่อจากนั้นทางนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้เปิดตัวผู้สมัครส.ส.ทั้ง3เขตและทางน.ส.แพทองธาร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยได้ขึ้นเวทีเพื่อขอให้พี่น้องชาวภูเก็ตเลือกผู้สมัครของพรรคทั้ง3เขต หลังจากนั้นนาย ณัฐวุฒิ ใสเกื้อได้ขึ้นปราศัยโดยขอให้ประชาชนได้สนับสนุนพรรคเพื่อไทยเพื่อที่จะได้มาพัฒนาจังหวัดต่างในอันดามันโดยจะมีผลักดันและส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ให้มีรายได้จาก1.9ล้านๆบาทให้มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการท่องเที่ยวเป็น3ล้านๆบาทภายใน4ปี ซึ่งหลังจากปราศรัยที่สะพานสารสินเสร็จทางคณะได้เดินทางไปปราศรัยต่อที่ อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงาเพื่อช่วยผู้สมัครของพรรคในพื้นที่