‘รวมไทยสร้างชาติ’ เปิดตัว ‘ประยุทธ์’ เป็นสมาชิกเต็มตัว ชี้ไม่ได้อยากลับมาใหญ่ แต่ต้องการมาสานงานต่อ ‘พีะรพันธุ์’ เผยสมาชิกพรรคทะลุ 30,000 ชื่อแล้ว
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 9 มกราคม 2566 ที่ Exhibition Hall 1 ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พรรครวมไทยสร้างชาติ จัดงาน “รวมใจ รวมไทยสร้างชาติ” เปิดตัวพรรครวมไทยสร้างชาติเข้าสู่สนามเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ นำโดย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค,นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค และผู้บริหารพรรค สมาชิกพรรคที่เดินทางมาจากทั่วประเทศร่วมแสดงความยินดีคับคั่ง โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก
ก่อนการเริ่มงานนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ในฐานะสมาชิกอาวุโสของพรรคได้ขึ้นเวทีเสวนาภายใต้หัวข้อ “เสวนาประสาไตรรงค์” โดยนายไตรรงค์กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยกำลังมีปัญหาโดยเฉพาะอย่างยิ่งการถูกธุรกิจสีเทา ธุรกิจเกี่ยวกับยาเสพติดเข้ามาทำให้ประเทศชาติตกต่ำโดยไม่คำนึงถึงศีลธรรมและศาสนา สิ่งเหล่านี้จะต้องรีบแก้ไข และการตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาสักพรรคหนึ่งไม่ใช่แค่ตั้งขึ้นมาแต่จะต้องมีอุดมการณ์และแนวทางที่ชัดเจนว่าจะให้ประเทศเดินไปทางไหน ซึ่งพรรครวมไทยสร้างชาติมุ่งมั่นอย่างชัดเจนหนักแน่นว่าจะปกป้องชาติ ศาสน์ กษัตริย์ พร้อมรักษาประเทศไทยให้ดำรงความเป็นชาติไทยที่มีอธิปไตยอย่างสมบูรณ์ เทียบเท่ากับประเทศอื่นๆ
@ต่างชาติล้างสมองเยาวชน - ทุจริตโกงกินเพียบ
ประเด็นสำคัญในตอนนี้ที่จะต้องให้ความสำคัญและพรรครวมไทยสร้างชาติเล็งเห็นคือประเด็นที่หนึ่งได้แก่เรื่องของการเข้ามาของประเทศมหาอำนาจบางประเทศที่เข้าล้างสมองเยาวชน ให้เกลียดชังประเทศ เผ่าพันธุ์ ประวัติศาสตร์ รวมถึงศาสนาของประเทศด้วย เป็นปัญหาสำคัญที่ประเทศไทยกำลังเผชิญและต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน
ประเด็นต่อมาคือเรื่องของความเสื่อมทางศีลธรรม การคอร์รัปชั่น โกงกินของระบบข้าราชการไทยที่ทำให้เกิดธุรกิจสีเทาเพราะมีข้าราชการและนักการเมืองไม่ดีให้การสนับสนุน
“ผมอยู่ในการเมืองมา 40 ปี รู้เรื่องนี้ดี ดังนั้นจึงเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องปราบปรามให้หมด ส่วนประเด็นสุดท้ายคือ การรักษาประเทศไทยให้อยู่ในระบอบการปกครองประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขตลอดไป เพราะประเทศที่ไม่มีระบบกษัตริย์เป็นศูนย์รวมก็จะทำให้เกิดความแตกแยกเพราะมีการแย่งชิงตำแหน่งประมุขของประเทศด้วยวิธีการต่างๆ ทำให้ประเทศย่ำแย่เหมือนประเทศอื่นที่เห็นกันมามากมาย” นายไตรรงค์กล่าวตอนหนึ่ง
ไตรรงค์ สุวรรณคีรี
ในตอนท้ายของการเสวนานายไตรรงค์ ได้ยกพระบรมราโชวาท ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชการที่ 9 เกี่ยวกับการส่งเสริมคนดี ให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจ ไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้ โดยขอให้ประชาชนได้เลือกคนดีเข้ามาเป็นผู้แทนเพื่อปกครองบ้านเมืองตามพระบรมราชโชวาท พร้อมระบุว่า ตนอยู่พรรคไหนก็จริงใจกับพรรคนั้น ไม่ใช่คนเหยียบเรือสองแคม ไม่ใช่ปากอย่างใจอย่าง และมาพรรครวมไทยสร้างชาติทั้งครอบครัว และยังเตรียมให้ลูกสาวลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้แทนด้วย
ขณะเดียวกันยืนยันว่าจะสนับสนุนให้ พลเอกประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปเพราะมั่นใจว่า พลเอกประยุทธ์ เป็นคนดี
@ชูสลายขั้ว รวมใจสร้างชาติ
ต่อมา นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ขึ้นเวที เปิดตัว ตัวแทนทีมสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ 2 กลุ่มด้วยกัน ได้แก่ “คนรุ่นใหญ่” และ “คนรุ่นใหม่” โดยนายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ตนไม่เคยเห็นมีคนมาประชุมงานการเมืองมากเท่าวันนี้มาก่อน ในวันนี้มีการประชุมใหญ่วิสามัญครั้งที่ 1/2566 เตรียมเลือกตั้งเพื่อจะมาเป็นพรรคหลักของประเทศต่อไป ครั้งแรกแค่เตรียมแผนเพื่อตั้งคณะกรรมการสรรหา แต่ปรากฏว่ามีบุคคลสำคัญที่ประเทศไทยทั้งประเทศจับตาว่าจะมาอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติหรือไม่ ครั้งแรกจะเตรียมที่ ม.กรุงเทพธนบุรี แต่ปฏิเสธคนที่อยากจะมาไม่ได้ เพราะทุกคนอยากจะมาร่วมให้กำลังใจ เมื่อต้านทานความต้องการไม่ได้จึงต้องย้ายพื้นที่ แต่ก็ไม่พอเพราะปรากฎว่ามีคนล้นพื้นที่ออกไป สำหรับสมาชิกของพรรคที่ยืนอยู่บนเวทีไม่ได้มีแค่นี้แต่ยังมีมากกว่านี้ ตนเคยบอกไว้ตั้งแต่วันเปิดพรรคเมื่อ 3 ส.ค.ว่าจะนำพาพรรคเป็นพรรคหลักของประเทศ ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้จากสมาชิก 7,000 กว่าคน จนตอนนี้มี 30,000 กว่าคนแล้ว
นายพีระพันธุ์ กล่าวต่อว่า ต่อไปนี้จะไม่มีสี ไม่มีฝ่าย พรรครวมไทยสร้างชาติจะทำให้คนไทยกลับมามีความรักสามัคคีเหมือนเดิม ทั้งพี่น้อง นปช. ชาติพันธุ์ กลุ่มเสื้อแดง ทุกคนรักชาติบ้านเมือง ไม่มีใครอยากจะทะเลาะกันอีกแล้ว วันนี้ประเทศไทยจะต้องเดินหน้า พรรครวมไทยสร้างชาติ ทำแบบนี้ไม่ได้ถ้าไม่ได้รับความร่วมมือร่วมใจจากคนทั้งประเทศ
“เมื่อก่อนประกาศว่าจะเป็นคนนำพาพรรคต่อสู้การเลือกตั้ง แต่วันนี้มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาเป็นผู้นำ ซึ่งที่ผ่านมาท่านไม่เคยคิดจะเป็นนักการเมืองแต่วันนี้สิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ต้องการนำความรักความสามัคคีกลับมาให้กับประเทศไทย” นายพีระพันธุ์ระบุ
@ประยุทธ์ เปิดตัวเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ
ต่อมาเวลา 18.00 น. ถือเป็นช่วงไฮไลท์สำคัญคือการเปิดตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติอย่างเป็นทางการ โดยมีการเปิดภาพวีดีทัศน์การลงนามเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติของ พล.อ.ประยุทธ์ ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ เดินขึ้นเวทีท่ามกลางเสียงปรบมือต้อนรับของสมาชิกพรรคที่มาร่วมงานและโบกธงโลโก้พรรคให้กำลังใจเต็มห้องประชุม
โดยพล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า รู้สึกขอบคุณ ทุกคนเป็นคนไทยหัวใจเดียวกัน วันนี้ได้มาเป็นวันแรก ครั้งแรกในชีวิตที่สมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมือง และพรรคที่เลือกสมัครคือพรรครวมไทยสร้างชาติ ตนอยู่กับคนไทยมาหลายปีแล้วทุกคนจะจำได้ อย่างไรก็ลบภาพทหารไม่ได้ ที่ผ่านมาก็ปรับตัวมาตลอด ที่ตนมีวันนี้ได้เพราะคนไทยทุกคน เพราะประเทศไทยคือประเทศที่ศักดิ์สิทธิ์
“วันนี้รู้สึกดีใจ ตื้นต้นใจ และตื่นเต้น ทั้งที่ไม่เคยกลัวหรือตื่นเต้นกับอะไรมาก่อน เพราะเป็นทหารกลัวไม่ได้ กลัวความรักที่ทุกคนให้มาจะเพียงพอกันหรือไม่ ตนรักทุกคน สิ่งสำคัญคือต้องยึดมั่นในชาติ ศาสน์ พระมหากษัตริย์ สำคัญที่สุด ตนเป็นทหาร ปฏิญาณตนมาคือ การซื่อสัตย์สุจริต” พล.อ.ประยุทธ์ระบุตอนหนึ่ง
@ไม่ได้อยากกลับมาใหญ่
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า วันนี้อยากจะมาบอกว่าทำไมตนต้องอยู่ต่อ ที่ต้องอยู่ต่อเพราะว่ามีหัวใจดวงเดียวกัน ต้องทำเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน ตนเป็นทหาร และทหารทุกคนต้องเป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกโอกาส หลายคนสงสัยว่าอยากเป็นใหญ่ต่อหรืออย่างไร ขอบอกว่าไม่ใช่ ที่ผ่านมามีอำนาจมาเยอะแล้วตลอดชีวิตราชการ แต่อำนาจต้องมาพร้อมความรับผิดชอบ และความเป็นธรรม ตนไม่ได้อยากเป็นผู้ยิ่งใหญ่ หรืออยากได้ผลประโยชน์อะไร และยืนยันว่าไม่เคยรับผลประโยชน์อะไรทั้งสิ้น
และที่มายืนตรงนี้เพราะเคารพในกระบวนการประชาธิปไตยของประเทศ ที่มาไม่ได้อยากมาอยู่เพื่อตำแหน่งอะไรต่อ แต่ประเทศไทยต้องไปต่อบนพื้นฐานความมีเสถียรภาพ ความมั่นคง ความรุ่งเรือง ที่ผ่านมาแก้ปัญหาประเทศมาอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหามีมาก ถ้ามีโอกาสก็อยากจะแก้ต่อไป
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า การพัฒนาประเทศมีหลายมิติที่ตนก็ได้พยายามทำมาตลอด และการที่ได้มาร่วมมือกับพรรคนี้หวังว่าจะสามารถทำได้เร็วขึ้นเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในเวทีโลก ต้องทำให้ประเทศไทยเข้มแข็งก่อน เพราะมีทุกอย่างอยู่แล้ว อย่าให้ใครมาทำลายความรักความสามัคคี คนไทยเป็นคนรักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด ยังมีงานที่ตนต้องทำต่อจึงจำเป็นต้องมายืนตรงนี้กับผู้บริหารพรรคทุกคน ที่มาจากทุกภาค เพราะทั้งหมดคือประเทศไทยของทุกคน ตนต้องการทำเรื่องนี้ให้เป็นจริงให้ได้ ที่ผ่านมาโควิดเป็นปัญหาของทั้งโลกแต่เราสามารถยืนหยัดอยู่ได้ เป็นตัวอย่างความร่วมมือของความเป็นคนไทยของทุกคน ที่แม้ว่าวันนี้หลายอย่างจะดีขึ้นแล้ว แต่ต้องอย่าประมาทวันหน้าอาจจะมีเกิดขึ้นอีกได้ ต้องเตรียมพร้อม อาจจะทำให้อึดอัด แต่ต้องพร้อม ต้องการเดินหน้าต่อให้ได้
@บุพเพสันนิวาสทำเข้าพรรค
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ที่ตนตัดสินใจมาอยู่ที่พรรครวมไทยสร้างชาติเพราะเห็นว่ามีอุดมการณ์เหมือนกัน คือรักสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์เหมือนกัน ที่ผ่านมานอนไม่หลับมาหลายคืนว่าจะทำอะไรต่อไปอย่างไรดี ก็ต้องเลือกแต่วันนี้เหมือนละครบุพเพสันนิวาส ตนก็นึกไม่ออกว่ามาลงเอยที่พรรครวมไทยสร้างชาติได้อย่างไรแต่ คำว่า “รวมไทยสร้างชาติ” เป็นคำที่ตนเคยพูดไว้เอง ซึ่งตนเชื่อมั่นในตัวของนายพีระพันธุ์ ตนเชื่อมั่นเพราะเป็นนักกฎหมายมาก่อน และทำงานการเมืองมาหลายปี รวมทั้งทำงานกับตนมาและเป็นที่ปรึกษาของตน ตนรู้จักมานานว่าเป็นนักการเมืองที่มีคุณภาพ และนักการเมืองทั้งคนรุ่นเก่ารุ่นใหม่ที่จะร่วมกันทำงาน เป็นการทำงานร่วมกันของคนทุกรุ่นเพื่อประเทศไทยของทุกคน
“นโยบายหลักของพรรครวมไทยสร้างชาติ คือ รื้อ ไม่ใช่รื้อทุกอย่าง ต้องดูว่าระเบียบกฎหมายอะไรที่ต้องแก้ไขบ้างที่เขาเรียกว่ากฎหมายกิโยติน บางอย่างไม่ดีก็ต้องเลิก เพื่อให้ทันสมัย เป็นสากลนั่นคือการรื้อ สองคือลดภาระต่างๆ ของประชาชนในการดำรงชีวิต สามคือปลดเปลื้องภาระค่าครองชีพและหนี้สินด้วยรูปแบบใหม่ๆ สร้างสังคมใหม่ของชาติเป็นการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ด้วยวิธีการที่เป็นธรรมที่ไม่ทำให้เกิดปัญหาในอนาคตด้วย โดยไม่ทิ้งภาระไว้ให้คนข้างหน้า” พล.อ.ประยุทธ กล่าว
ช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์ ได้นำผู้บริหารพรรคทั้งหมดร้องเพลงศรัทธา ของวงหินเหล็กไฟ ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ และนายพีระพันธุ์จะร่วมกันโบกธงไตรรงค์ และธงสัญลักษณ์พรรครวมไทยสร้างชาติพร้อมปักลงบนเวที จากนั้นจึงได้นำผู้บริหาร และสมาชิกทุกคนร่วมกันชูมือ และมีการเคลื่อนธงรวมไทยสร้างชาติ ขนาดใหญ่ผ่านสมาชิกพรรคสู่บริเวณหน้าเวที ในตอนท้ายทั้งหมดได้ถ่ายภาพและร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีร่วมกันอย่างกึกก้องห้องประชุม นับเป็นการเริ่มต้นการทำงานทางการเมืองอย่างเป็นทางการของ พล.อ.ประยุทธิ์ จันทร์โอชา ในฐานะสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ และยังถือเป็นการเริ่มต้นการเดินหน้าของพรรครวมไทยสร้างชาติในการเตรียมพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งที่จะถึงนี้อีกด้วย
ภาพ: พรรครวมไทยร้างชาติ