ตำรวจสอบสวนกลาง ร่วม สบส.-อย. เปิดยุทธการ 'หยุดเถื่อน' หลังได้รับร้องเรียนมีบุคคลแอบอ้างตัวเป็นแพทย์หลอกเสริมความงาม จับผู้ต้องหา 8 ราย-ยึดของกลาง 836 รายการ
สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 2565 2565 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.,พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ., พ.ต.อ. ธรากร เลิศพรเจริญ, พ.ต.อ.สำเริง อำพรรทอง, พ.ต.อ.ณัฐวัฒน์ เกศะรักษ์, พ.ต.อ.สมเกียรติ ตันติกนกพร รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.4 บก.ปคบ., กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ โดย นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และนพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดย นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ภญอรัญญา เทพพิทักษ์ ผอ.ศูนย์จัดการเรื่องร้องเรียนและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ (ศรป.) ร่วมกันแถลงผลงานจับกุมกวาดล้างหมอเถื่อนและคลีนิกเสริมความงามเถื่อน เบื้องต้นมีการดำเนินคดีกับผู้ต้องหา 8 ราย พร้อมตรวจยึดของกลางที่เกี่ยวข้อง 836 รายการ
เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ได้รับเรื่องร้องเรียนจาก อย.และ สบส. ให้สืบสวนกรณีมีบุคคลแอบอ้างตัวเป็นแพทย์หลอกเสริมความงามให้ประชาชนในหลายพื้นที่ ระหว่างวันที่ 23-29 พฤศจิกายน 2565 จึงทำการสืบสวนและร่วมกับ อย., สบส. และ สสจ. ประจำแต่ละจังหวัด ลงพื้นที่ตรวจค้นพื้นที่กรุงเทพมหานคร,ชลบุรี, จ.สมุทรสงคราม และ จ.ปทุมธานี รวมทั้งหมด 8 จุด ผู้ต้องหา 8 ราย ตรวจยึดของกลาง 836 รายการ รายละเอียดดังนี้
-
บ้าน ต.แม่กลอง อ.เมืองสมุทรสงคราม จ.สมุทรสงคราม จับกุม น.ส.ธนัศร (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี ในความผิดฐาน "ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไมได้รับอนุญาต, ดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต, ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต และขายยาที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา โดยจบการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 และอาศัยประสบการณ์ที่เคยเป็นผู้ช่วยพยาบาลมาก่อน ซึ่งทำมาแล้วประมาณ 1 ปี
-
คลินิกเวชกรรม ซอยรามอินทรา 5 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร จับกุม น.ส.ศรีษุณี (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี (ทำการรักษานอกเวลาที่ขออนุญาต) ในความผิดฐาน "ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต, ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต และขายยาที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา" โดยจบการศึกษาระดับชั้น ปวส. และทำมาแล้วประมาณ 6 ปี
-
คลินิกเวชกรรม แขวงบางกะปิ เชตห้วยขวาง กทม จับกุม น.ส.ณปาภัทร (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี ในความผิดฐาน "ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไมใด้รับอนุญาต, ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต, ขายยาที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา และขายเครื่องมือแพทย์โดยไม่ได้ร้อนุญาต" จบการศึกษาระดับปริญญาตรีคณะพยาบาลศาสตร์ โดยทำมาแล้วประมาณ 5 ปี
-
คลินิกเวชกรรม ช.สันติสุข แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานครจับกุม นายจิรัฏฐ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี ในความผิดฐาน "ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต,ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต และขายยาที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา" จบการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยทำมาแล้วประมาณ 1 ปี
-
อาคาร ช.รัชดา 20 แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวา กรุงเทพมหานคร นางสาวศศิพัชร์( สงวนนามสกุล) ในความผิดฐาน "ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาตและขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต " จบการศึกษาระดับปริญญาตรีคณะพยาบาลศาสตร์ โดยทำมาแล้วประมาณ 1 ปี
-
คลินิกเวชกรรม ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี นายกรกรต (สงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี ในความผิดฐาน "ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต,ดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต และขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต" จบการศึกษาระดับปริญญาตรี โดยเคยมีประสบการณ์การทำงานในคลินิกมาก่อน จากในมาเปิดคลินิกและตรวจรักษาเอง
-
ร้านซาลอน ซอยนาเกลือ 19 ถ.พัทยา-นาเกลือ ต.นาเกลือ อ.บางละมุงจ.ชลบุรี น.ส.บุญพา (สงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี ในความผิดฐาน "ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต, ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต และขายยาที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา" จบการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยศึกษาวิธีการฉีดเสริมความงามด้วยตนเองจากช่องทาง YouTube จากนั้นสั่งยาต่างๆจากช่องทางออนไลน์และทดลองฉีดหน้าตนเองก่อนในช่วงแรก
-
ร้านต่อขนตา ต.ดอนหัวฬอ อ.เมืองชลบุรี จว.ชลบุรี น.ส.อังคนาง (สงวนนามสกุล) ในความผิดฐาน "ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต, ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต และขายยาที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา" จบการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยมีประสบการเคยเป็นผู้ช่วยแพทย์มาก่อน และทำมาแล้วประมาณ 3 เดือน
รวมตรวจคัน 8 จุด โดยเป็นคลินิกที่ไม่ได้รับอนุญาต 4 แห่ง ตรวจยึดของกลาง 836 รายการ เป็นยาและเวชภัณฑ์ 109 รายการ, เครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ในการตรวจคนตรวจรักษา 57 รายการ, เวชระเบียน 670 รายการ ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาที่ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต 8 ราย โดยผู้ต้องหา 8 รายให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาและไม่มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมแต่อยู่ ระดับปริญญาตรีคณะพยาบาลศาสตร์ 2 ราย, ปริญญาตรี 1 ราย, มัธยมศึกษาปีที่ 6 จำ ประกาศณียบัตรวิชาชีพชั้นสูง 1 ราย และประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 1 ราย
เบื้องต้นการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม1. พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 ฐาน "ประกอบกิจการสถานพยาบาโดยไมได้รับอนุญาต และดำเนินกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต " ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับอาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ฐาน "ประกอบวิชาชีพเวชกรรม โดยไม่ได้รับอนุญาต"จำคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับพ.ร.บ.ยา พ.ศ. 2510 ฐาน "ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต" ระวางโทษจำคุกไม่เกินปรับไม่เกิน 10,000 บาท และ "ขายยาที่ไมได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา" ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 4. พระราชบัญญัติเครื่องมือแพทย์ พ.ศ. 2551 ฐาน "ขายเครื่องมือแพทย์โดยไม่ได้รับอนุญาต " ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า การฉีดสารเสริมความงามไม่ว่าจะเป็นฟิลเลอร์ หรือโบท็อกซ์ นั้น ถือว่าเป็นการประกอบวิชาชีพเวชกรรม จะต้องให้บริการโดยแพทย์ที่มีใบประกอบวิชาชีพ และกระทำในสถานพยาบาลที่ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น ไม่มีการเดินสายให้บริการนอกสถานพยาบาลแต่อย่างใด หากพบเห็นการให้บริการฉีดสรเสริมความงามนอกสถานที่ขอให้ตั้งข้อหมอเถื่อน หมอกระเป๋า ซึ่งการฉีดสารเสริมความงามด้วยบุคคลที่มิใช่แพทย์นั้น ย่อมส่งผลกระทบต่อร่างกายซึ่งอาจมีความรุนแรงถึงขั้นพิการ หรือเสียชีวิต จากการที่สารเสริมความงามรั่วไหลเข้าไปอุดตันในเส้นเลือดหรือเกิดการติดเชื้อ
กรม สบส.จึงขอเน้นย้ำให้เลือกรับบริการเสริมความงามกับสถานพยาบาลที่ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น โดยก่อนรับบริการก็ควรตรวจสอบหลักฐาน 5 ประการ ซึ่งสถานพยาบาลจะต้องแสดง ได้แก่ 1. ป้ายชื่อคลินิกต้องแสดงเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก 2. มีการแสดงใบอนุญาตเปิดกิจการคลินิก เลขใบอนุญาตต้องตรงกับเลขที่ที่ติดที่ป้ายชื่อคลินิก 3. มีการแสดงใบอนุญาตให้ดำเนินการสถานพยาบาล 4. มีการแสดงหลักฐานการชำระค่าธรรมเนียมคลินิกที่เป็นปีปัจจุบัน และ 5. มีการแสดงหลักฐานของแพทย์ที่ให้บริการในคลินิก โดยมี ชื่อ-นามสกุล และภาพถ่ายติดที่หน้าห้องตรวจ โดยสามารถตรวจสอบชื่อคลินิกได้ที่เว็บไซต์กองสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ (www.mrd-hss.moph.go.th)และตรวจสอบชื่อแพทย์ได้ที่เว็บไซต์แพทยสภา (w.w.tmc.or.th) หากไม่พบ หรือสถานพยาบาลแสดงหลักฐานไม่ครบถ้วน ไม่ควรเข้ารับบริการ และขอให้แจ้งเบาะแสมาที่สายด่วนกรม สบส. 1426 หรือทางหมายเลขโทรศัพท์ 02 193 7000 เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ภญ.อรัญญา เทพพิทักษ์ ผอ.ศรป.และผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยและประสิทธิผลของยาและการใช้ยากล่าวว่าในปัจจุบันคนส่วนใหญ่ต้องการดูแลภาพลักษณ์ตนเองให้ดูดีอยู่เสมอ ดังนั้นการฉีดฟิสเลอร์ โบท็อกซ์ หรือร้อยไหมจึงได้รับความนิยม เพื่อช่วยในการเติมเต็มรูปหน้า เช่น เสริมจมูก เสริมคาง เสริมแก้ม หรือเพื่อเติมเต็มริ้วรอยบนใบหน้า เติมเต็มร่องลึกต่าง ๆ เช่น ร่องใต้ตา ร่องแก้ม รอยย่นบนหน้าผาก รอยตีนกาหรือแม้แต่การบำรุงผิวให้กระชับ เมื่อความนิยมมีมากขึ้น ผนวกกับความต้องการเสริมความงามในราคาถูก จึงมีหมอเถื่อนมากมายที่ใช้สารฟิลเลอร์หรือโบท็อกซ์ปลอมหรือยาไม่ใด้รับอนุญาตฉีดเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งไม่มีทั้งในเรื่องคุณภาพและความปลอดภัย
จึงขอฝากผู้ที่ต้องการเสริมความงาม ควรเลือกรับบริการจากสถานพยาบาลที่มีใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย และมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ให้บริการ ก่อนการฉีดควรสอบถามและขอดูตัวสารที่ฉีดที่ว่าได้รับอนุญาตถูกต้องตามกฎหมายจาก อย. หรือไม่ เพราะผลที่เกิดขึ้นจากการใช้ฟิลเลอร์หรือโบท็อกซ์ปลอมฉีดเข้าร่างกายนั้นอาจเกิดอันตรายจนถึงแก่เสียชีวิตตามที่เคยปรากฎเป็นข่าวมาแล้ว ทั้งนี้ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ได้รับอนุญาตจาก อย. ได้ที่ ww.fda.moph.go.th หากพบผลิตภัณฑ์ที่ต้องสงสัยหรือไม่ได้รับอนุญาตสามารถแจ้งได้ที่สายด่วน อย.1556 หรือผ่าน Email:[email protected] Line@FDAThai, Facebook FDAThai หรือ ตู้ปณ.1556 ปณฝ. กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี 11004 หรือสำนักงาสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ
พล.ต.ต.อนันนต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ. กล่าวฝากความห่วงใยมางพี่น้องประชาชนว่า ข้อมูลคลินิก แพทย์และชั้นตอนการรักษาให้ดีก่อนที่จะเข้ารับบริการเสริมความงามเนื่องจากการเสริมความงานเป็นขั้นตอนและวิธีการที่จะต้องใช้ผู้มีความเชี่ยวชาญฉพาะทางและเกิดผลกระทบกับร่างกายโดยตรง และแจ้งเตือนไปยังผู้ที่ลักลอบกระทำความผิด ไม่ว่าจะเป็นบุคคลที่สวมรอยเป็นหมอ, หมอเถื่อน หรือคลินิกเถื่อนหยุดพฤติการณ์ดังกล่าวทันที เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการจับกุมอย่างต่อเนื่อง หาดำเนินคดีโดยเด็ดขาด พี่น้องประชาชนสามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ สายด่วน บก.ปคบ.1135 หรือเพจ ปคบ.เตือนภัยผู้บริโภค