ครม. เห็นชอบแผนพัฒนาสนามบินดอนเมืองระยะที่ 3 วงเงิน 3.6 หมื่นล้านแล้ว คาดถมเต็มเฟสครบในปี 2572
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 29 พฤศจิกายน 2565 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติ โครงการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมือง ระยะที่ 3 ของบมจ. ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) วงเงินลงทุน 36,829.499 ล้านบาท เพื่อขยายขีดความสามารถในการรองรับปริมาณผู้โดยสาร พัฒนาคุณภาพการให้บริการ ทั้งระบบขนถ่ายผู้โดยสารทางอากาศและทางภาคพื้น มีประสิทธิภาพและลดความแออัดระบบจราจรภายใน ท่าอากาศยาน รองรับปริมาณจราจรทางอากาศและผู้โดยสาร รวมทั้งกิจกรรมทางด้านการบินรวมท้ังสามารถเช่ือมต่อระบบขนส่ง ทางราง ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยแนวทางดำเนินการ ประกอบด้วย 6 กลุ่มงาน ดังนี้
กลุ่มงานที่ 1 : งานพัฒนาด้านทิศใต้ เช่น งานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารอาคาร 3 พร้อมอาคารเทียบเครื่องบินหมายเลข 6 และงานปรับปรุงอาคารจอดรถยนต์ 7 ชั้น เป็นชานชาลาจอด รับ - ส่งผู้โดยสาร
กลุ่มงานที่ 2 งานพัฒนาพื้นที่ด้านทิศเหนือ เช่น งานปรับปรุงหลุมจอดอากาศยานด้านทิศเหนือ และงาน ก่อสร้างขยายอาคารเทียบเครื่องบินด้านทิศเหนือ / อาคาร สานักงานสายการบิน / อาคารรับรองพิเศษ VVIP
กลุ่มงานที่ 3 : งานก่อสร้างในพื้นที่เขตปฏิบัติการการบิน เช่น งานก่อสร้างลานจอดอากาศยานด้านทิศเหนือพร้อมทางขับเชื่อม
กลุ่มงานที่ 4 : งานปรับปรุงอาคารผู้โดยสาร อาคาร 1 อาคารเทียบเครื่องบินด้านทิศเหนือ เช่น งานปรับปรุง อาคารผู้โดยสาร อาคาร 1 อาคารเทียบเครื่องบิน หมายเลข 2 - 4
กลุ่มงานที่ 5 : งานสนับสนุนโครงการพัฒนา ได้แก่ งานก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค
กลุ่มงานที่ 6 : งานสิ่งแวดล้อม ได้แก่ งานจ้างติดตาม ตรวจสอบและเฝ้าระวังคุณภาพสิ่งแวดล้อมในระยะ การปรับปรุงและฟื้นฟูสิ่งอำนวยความสะดวกโครงการฯ
วงเงินลงทุน 36,829.499 ล้านบาท โดยใช้แหล่งเงินทุนจากภายใน คือ เงินรายได้ของ ทอท. เป็นอันดับแรก และหากสภาพคล่องจากการดำเนินงานไม่เพียงพอสำหรับโครงการลงทุนต่างๆ จึงจะจัดหาแหล่งเงินทุนจากภายนอกมาชดเชย
แผนการดำเนินการ แบ่งออกเป็น (1) งานออกแบบ ปีงบฯ 64 - 66 (2) งานก่อสร้าง ปีงบฯ 66-72
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันท่าอากาศยานดอนเมืองมีอาคารผู้โดยสารจำนวน 2 อาคาร และมี ขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารรวม 30 ล้านคนต่อปี ซึ่ง ทอท. มองว่า โครงการ ฯ จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถเดิมของท่าอากาศยานดอนเมืองและพัฒนาให้เต็มศักยภาพของพื้นที่เพื่อให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 40 ล้านคนต่อปี ซึ่งเป็นระดับจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศและภายในประเทศท่ีท่าอากาศยานดอนเมืองให้บริการอยู่ในปี 2562 ก่อนเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 รองรับปริมาณจราจรทางอากาศและผู้โดยสาร
ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ภาพจาก Facebook Don Mueang International Airport-DMK
@ผ่า 3 ภารกิจถม ‘ดอนเมืองเฟส 3’ เสร็จปี 72
ด้านนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า โครงการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมือง ระยะที่ 3 ประกอบด้วย
1.การสร้างอาคารผู้โดยสาร 3 ซึ่งจะเป็นอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศหลังใหม่ มีพื้นที่อาคารรวมทั้งสิ้น 166,000 ตารางเมตรเพิ่มจำนวนเคาน์เตอร์เช็กอิน ช่องตรวจค้น จุดตรวจหนังสือเดินทาง รวมถึง พื้นที่โถง พักคอยผู้โดยสาร และเพิ่มความสะดวกสบายในการให้บริการด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น ระบบ Self Check in, Self Bag drop และ Early Baggage รองรับผู้โดยสารระหว่างประเทศได้ถึง 18 ล้านคน ต่อปี สร้างศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางการเดินทางของสายการบินต้นทุนต่ำระหว่างประเทศ
2. การปรับปรุงอาคารผู้โดยสาร 1 โดยจะทำการปรับปรุงภายในอาคารใหม่ทั้งหมด และรวมพื้นที่การให้บริหารเข้ากับอาคารผู้โดยสาร 2 ให้เป็นอาคารผู้โดยสารในประเทศมี พื้นที่ให้บริการรวม 240,000 ตารางเมตร เพิ่มพื้นที่การให้บริการผู้โดยสารในประเทศถึง 2.25 เท่า เพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ทั้ง Counter Check in จุดตรวจค้น สะพานเทียบอากาศยาน สามารถรองรับรองรับผู้โดยสารในประเทศได้ถึง 22 ล้านคน ต่อปี คืนศักยภาพการเป็นศูนย์กลางการบินในประเทศ
3. การปรับปรุงระบบการจราจรเข้าและออกสู่สนามบินดอนเมือง โดยการก่อสร้างสะพานเชื่อมทางยกระดับดอนเมืองโทลเวย์กับถนนภายในสนามบินดอนเมือง ทั้งขาเข้า และขาออก เพิ่มเติม 2 จุด และ ปรับปรุงขยายช่องทางจราจร หน้าอาคารผู้โดยสาร เป็น 6 ช่องทาง พร้อมปรับปรุงช่องทางออกด้านทิศใต้ เพื่อลดการติดขัดของระบบจราจรภายในสนามบินดอนเมือง
4. การขยายพื้นที่ลานจอดอากาศยาน ปรับปรุงอาคารสินค้า อาคารสำนักงาน และระบบสาธารณูปโภคที่เกี่ยวข้อง เพื่อรองรับกิจกรรมทางการบินและการขนส่งทางอากาศ
นอกจากนี้ ทอท. กำลังดำเนินการให้เอกชนร่วมลงทุนก่อสร้างอาคาร Junction Building และอาคารจอดรถยนต์อัจฉริยะเพิ่มเติมในจุดต่าง ๆ อีก 5 จุด เพื่อเพิ่มพื้นที่จอดรถยนต์ให้แก่ผู้โดยสารได้มากถึง 10,000 คัน และ ดำเนินการสร้าง ทางเชื่อมต่อการเดินทางเข้าเมืองด้วยรถไฟฟ้าสายสีแดง
โดยมีจุดเชื่อมต่อสู่ สถานีรถไฟฟ้า 3 จุด ได้แก่ อาคาร Junction Building อาคารผู้โดยสารอาคาร 3 และอาคารจอดรถยนต์ด้านทิศใต้ทำให้ให้ผู้โดยสาร และประชาชนทั่วไป สามารถเดินทางสู่ท่าอากาศยานดอนเมืองได้อย่างรวดเร็ว และสะดวกสบาย
โครงการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมืองระยะที่ 3 มีวงเงินลงทุนรวม 36,829 ล้านบาท มีกำหนดการดำเนินการก่อสร้างในระหว่างปี 2567-2572 โดยอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศแห่งใหม่จะแล้วเสร็จในปี 2570 และการปรับปรุงอาคารผู้โดยสาร 1 และ 2 จะแล้วเสร็จในปี 2572
เมื่อโครงการแล้วเสร็จทั้งหมด และเปิดให้บริการ จะทำให้ท่าอากาศยานดอนเมือง มีบทบาททางยุทธศาสตร์เป็น “ท่าอากาศยานที่รวดเร็วและสะดวกสบาย” หรือ “Fast and Hassle-free Airport” เพื่อเป็นศูนย์กลางของสาย การบินต้นทุนต่ำในภูมิภาค ก่อให้เกิดผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ เป็นมูลค่าปัจจุบันสุทธิ สูงถึง 240,465 ล้านบาท โดยมีผลตอบแทนทางเศรษฐศาสตร์ร้อยละ 50.71คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติได้มีมติเห็นชอบรายงาน EIA ของโครงการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมืองระยะที่
3 แล้ว ในการประชุมครั้งที่ 5/2565 เมื่อวันที่ 28 ต.ค. 65
ผังการพัฒนาสนามบินดอนเมือง ระยะที่ 3 ภาพจากกระทรวงคมนาคม