‘สร้างอนาคตไทย’ เปิด 3 ภารกิจปักธงอีสาน ‘ตั้งกระทรวงน้ำ-แก้หนี้-แก้ราคาข้าว’ อ้อนอำนาจการกากบาทอยู่ในมือประชาชน อย่าเลือกเพราะซื้อเสียง ก่อนอัดรัฐบาลไม่ใยดี ‘สมคิด’ เอาการเมืองนำจนอยู่ไม่ได้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 5 พฤศจิกายน 2565 นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย กล่าวระหว่างเปิดตัวว่าที่ผู้แสดงเจตจำนงเป็นผู้สมัคร ส.ส. ภาคอีสาน 32 คน โดยมีประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมกว่า 3,500 คน ที่ที่หอประชุมอาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานีว่า วันนี้เป็นวันยิ่งใหญ่ของพรรคสร้างอนาคตไทย และพี่น้องชาวอีสานที่มีมาจากทุกอำเภอ เป็นความภูมิใจที่ยิ่งใหญ่เพื่อสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้ประเทศไทย
ต้องภูมิใจว่าพรรคสร้างอนาคตไทย และดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ มาที่นี่เป็นที่แรกของอีสานอย่างยิ่งใหญ่ การตัดสินใจมาที่นี่ ไม่ได้มาแบบเล่นๆ แต่มาครบทีมใหญ่ เพราะจะบอกว่า พรรคสร้างอนาคตไทย พร้อมแล้วที่จะปักหลักสร้างอนาคตไทยในอีสาน และจ.อุบลราชธานี คนอีสานรักใครรักจริง แห้งแล้งก็อดทน น้ำท่วมก็อดทน ไม่มีจะกินก็อดทน เรียกว่ามนุษย์พันธุ์อดทน ข้างในร้องไห้แต่ยังยิ้มอยู่ได้ ตนรู้ว่าพี่น้องเจ็บปวดใจเหลือเกิน ปลูกข้าวปลูกมัน น้ำท่วมตายหมด จะเอาถุงยังชีพมาแจกมันซับน้ำตาไม่ได้ เพราะกินได้แค่ 2 วัน เราจะยอมอยู่อย่างนี้ไม่ได้
ลั่นหนึ่งกากบาท คืออำนาจของพี่น้องประชาชน
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ตนมาวันนี้เพื่อจะมาชวนพี่น้องว่า ถ้าจะออกจากความลำบากต้องสนับสนุนพรรคสร้างอนาคตไทย อนาคตและชีวิตของพี่น้องอยู่ที่พี่น้องจะจับมือกับพวกเราเพื่อยึดอีสานไปด้วยกัน เวลาเลือกผู้แทนราษฎรแล้วเขาเอาเงิน 300 บาทมาให้ ถือเป็นการเอาชีวิตของลูก พ่อ และแม่เราฝากไว้กับเงิน 300 บาทนั้น ใครให้มากกว่าแล้วไปเลือกเขา เขาให้ 1,000 บาท ก็ไปกาให้เขาเพราะเกรงใจ แต่เขาเข้าไปแล้วและไปอยู่เป็นรัฐบาล เขาช่วยพี่น้องไม่ได้ เพราะไม่เอาจริงจัง เขามาแค่ขอเสียง และหายไปเลย พี่น้องจึงต้องยังอยู่กับความยากจน หนึ่งกากบาท คืออำนาจของพี่น้องแล้ว ถ้าไม่กาให้เขา มันก็ไม่มีความหมาย แต่ถ้าพี่น้องจะยกให้ใครก็ได้ และกลับบ้าน พี่น้องได้ทิ้งสิ่งที่จะยิ่งใหญ่ ในการเลือกคนมาดูแลพี่น้อง
ถ้าเลือกคนที่ไม่ใช่ก็จะได้รัฐบาลที่ไม่ใส่ใจ น้ำท่วมก็ท่วมไป ขายข้าวไม่ได้ ไฟฟ้าแพง ก็ปล่อยไป แต่วันนี้พี่น้องที่มาที่นี้กำลังไปเลือกคนบริหารประเทศ จึงต้องดูว่าเขาจะทำอะไรให้กับพี่น้อง เวลาไปขอลูกสาวใคร หรือรับลูกเขยเข้าบ้าน เราต้องดูว่า เขาเป็นคนเก่ง เป็นคนดีหรือไม่ ถ้ารู้ว่าเป็นคนใช้ไม่ได้เราจะเอาเข้ามาบ้าน และเลือกหรือไม่ เราต้องเลือกคนที่จะทำงานจริง และมีนโยบายที่จะแก้จนให้กับพี่น้อง
งานด่วน ตั้งกระทรวงน้ำ-แก้หนี้-แก้ราคาข้าว
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า สิ่งแรกที่พรรคสร้างอนาคตไทยจะทำคือแก้ปัญหาน้ำแล้ง น้ำท่วม จะทำให้จ.อุบลราชธานี ออกจากความยากจน เราจึงประกาศตั้งกระทรวงน้ำ ที่ผ่านมาอยู่ได้อย่างไร น้ำไม่มีทำมาหากินไม่ได้ พอน้ำมีก็ท่วม รัฐบาลใช้เงินเป็นแสนล้านบาท แต่น้ำก็ท่วมทุกปี ต่อจากนี้ น้ำจะไม่ท่วมจ.อุบลราชธานี ถ้าจะท่วม รอ 3-7 วันก็จะหมด สิ่งที่สอง คือแก้ปัญหาหนี้สิน เราเตรียมเงินไว้ 3 แสนล้านบาทเอาไว้แก้หนี้ แก้ความยากจนให้พี่น้อง เดี๋ยวนายสมคิด ว่าที่นายกฯ จะมาเล่าให้ว่าจะแก้หนี้อย่างไร สิ่งที่สามคือ แก้ปัญหาราคาข้าว ราคามันตกต่ำ เราจะเอาราคาข้าวหอมมะลิเกิน 15,000 บาท และจะกดราคาปุ๋ยให้เหลือครึ่งเดียว ถ้ากดสองอย่างนี้ไม่ได้ จะยากจนทั้งชีวิต และสิ่งที่สี่คือ แก้ปัญหาค่าไฟฟ้าแพง ที่เห็นบิลแต่ละเดือนเห็นแล้วจะขาดใจตาย
ย้ำ ‘สมคิด’ มาเพราะต้องแก้ปัญหา ไม่ใช่อยากเป็นนายกฯ
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ลูกพี่ตนชื่อสมคิด ไม่ได้อยากจะมาเป็นนายกฯ เพราะคนมาเป็นจะลำบาก บ้านพัง บันไดพัง หลังคาก็พัง คนไปซ่อมก็ยาก ประเทศไทยพังไปหมดแล้ว แต่ดร.สมคิด ต้องมาเพราะเป็นห่วงพี่น้อง ถ้าผมอายุ 70 ปี ก็คงไม่มา และที่ผ่านมาก็ทำงานมาเยอะมากตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย ทั้งโอทอป จนถึงบัตรคนจน คนอย่างนี้ไม่ได้มาเพราะตำแหน่ง หรือเล่นการเมืองเพราะอยากเป็นนายกฯ แต่วันนี้ต้องมาด้วยหน้าที่ วันนี้ พรรคสร้างอนาคตไทยมาที่นี่เพราะรู้ว่าพี่น้องลำบาก
แฉ รัฐบาล บีบ ‘สมคิด’ ออกปี 62
“รัฐบาล คสช. ตอนเป็นรัฐบาลไม่มีมือเศรษฐกิจ จึงมาเชิญนายสมคิดไปเป็นมือเศรษฐกิจให้ จนทุกอย่างเริ่มดีขึ้น ก็เกิดเลือกตั้งปี 2562 พวกเราจึงตั้งพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เพื่อให้ประเทศเดินต่อ และไม่อยากให้ทะเลาะกันเอง แต่รัฐบาลทำอยู่ได้ปีเดียว เขาก็ลืมสัญญาว่าจะอยู่อีกไม่นาน เขาเอาการเมืองเป็นตัวตั้ง และไม่คิดจะให้พี่น้องมีคนทำงาน จึงบีบพวกตนออก โดยโทรไปหาดร.สมคิด บอกว่าพวกตนไม่ใช่นักการเมือง แต่วันนี้ พวกเราต้องมาเพราะน้ำตาของพี่น้อง และไม่อยากเห็นลูกหลานไม่มีอนาคตกับประเทศไทย เราจะสำเร็จหรือไม่ อนาคตของพี่น้องและประเทศอยู่ในสองมือของพี่น้องว่าจะจับมือไปด้วยกันหรือไม่ เพื่อสร้างอนาคตไทยไปด้วยกัน” นายสนธิรัตน์ระบุช่วงท้าย