'สำนักงาน ก.ล.ต.' ออกบทความโต้ ‘รมว.ดีอีเอส’ ระบุการกำกับดูแลธุรกิจ ‘ซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ-แชร์ลูกโซ่’ ไม่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต.
......................................
จากกรณีที่นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวถึงการหลอกหลวงประชาชนในคดี Forex-3D ว่า โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า ส่วนตัวเสียดายที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ไม่ทำหน้าที่ มีการปล่อยละเลยให้มีการจัดตั้งบริษัทมาลงทุน และทำให้ประชาชนเสียหายนับหมื่นล้านบาท โดยที่ไม่สนใจความเดือดร้อนของประชาชน แต่กลับไปจับผิดเรื่องเล็กๆน้อยๆ นั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 ก.ย. สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) เผยแพร่บทความเรื่อง “ก.ล.ต. กับ อำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย” โดยมีเนื้อหา ว่า ก.ล.ต.มีอำนาจหน้าที่ในการส่งเสริมและพัฒนา ตลอดจนกำกับดูแลตลาดทุนและตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล อาทิ การระดมทุนจากการเสนอขายหลักทรัพย์ เช่น หุ้นและหุ้นกู้ หรือการเสนอขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน ,ผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้อง และการกระทำอันไม่เป็นธรรม ตามขอบเขตอำนาจหน้าที่ที่กำหนดตามกฎหมาย ดังนี้
พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ,พระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ,พระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ,พระราชบัญญัติกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ,พระราชกำหนดนิติบุคคลเฉพาะกิจเพื่อการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ และพระราชบัญญัติทรัสต์เพื่อธุรกรรมในตลาดทุน
ผู้ประกอบธุรกิจที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. ตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ และ พ.ร.บ.สัญญาซื้อขายล่วงหน้า ได้แก่ ผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์และผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ซึ่งให้บริการ เช่น นายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ที่ปรึกษาการลงทุน จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ จัดการกองทุนรวม จัดการกองทุน
ส่วนบุคคล ผู้ประกอบธุรกิจที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. ตาม พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัลฯ ประกอบด้วย ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ผู้ประกอบนายหน้าสินทรัพย์ดิจิทัล ผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัล และที่ปรึกษาสินทรัพย์ดิจิทัล ที่ปรึกษาสินทรัพย์ดิจิทัล เป็นต้น
ขณะที่ธุรกิจการซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Forex หรือ FX หรือ Foreign Exchange) ไม่ถือเป็นธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล จึงไม่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต.
ทั้งนี้ ตามกฎหมายควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน การทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับเงินตราต่างประเทศต้องทำกับผู้ได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเท่านั้น เช่น ธนาคารพาณิชย์ หรือบริษัทหลักทรัพย์ ประชาชนสามารถตรวจสอบรายชื่อของผู้ได้รับใบอนุญาตได้ทางเว็บไซต์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) www.bot.or.th
ปัจจุบัน ยังไม่เคยมีการให้ใบอนุญาตแก่บุคคลหรือนิติบุคคลที่ไม่ใช่ธนาคารและบริษัทหลักทรัพย์ในการซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเพื่อการลงทุนทางอินเทอร์เน็ต หากผู้ใดให้บริการดังกล่าวในประเทศไทยจะมีความผิดตามกฎหมายควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน
ขณะที่ แชร์ลูกโซ่ มีกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น ประมวลกฎหมายอาญาความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน และ พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527
ในกรณีที่ ก.ล.ต. ได้รับการแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจของบุคคลหรือนิติบุคคลที่มิใช่ผู้ประกอบธุรกิจภายใต้การกำกับดูแล ก.ล.ต. จะนำรายชื่อขึ้นไว้ใน “Investor Alert” บนเว็บไซต์ ก.ล.ต. และแอปพลิเคชัน “SEC Check First” และประชาสัมพันธ์เพื่อเตือนประชาชนให้ใช้ความระมัดระวังในการลงทุนเป็นระยะ รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเชิงลึกในกรณีที่เป็นเรื่องที่อยู่ภายใต้การดูแลของ ก.ล.ต. และหากเข้าข่ายการกระทำที่อาจผิดกฎหมายอื่น ก.ล.ต. พร้อมให้ความร่วมมือกับหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ต่อไป
ทั้งนี้ ผู้ลงทุนสามารถติดต่อสอบถามข้อมูล แจ้งเรื่องร้องเรียน หรือชี้เบาะแส มาที่ “ศูนย์บริการประชาชน ก.ล.ต.” ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1207 หรือ เฟซบุ๊กเพจ “สำนักงาน กลต.” หรือ SEC Live Chat ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต. www.sec.or.th รวมทั้งสามารถศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนตลาดทุนและการซื้อขายตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลได้ที่ www.smarttoinvest.com
อ่านประกอบ :
'ดีอีเอส'ซัด ก.ล.ต.ไม่สอบเชิงลึก Forex-3d ปล่อยหลอกลวงประชาชนเสียหายหมื่นล้าน