‘รถไฟ’ ชง ‘อนุอีอีซี’ แก้สัญญาไฮสปีด 3 สนามบิน 3 ประเด็น ‘ผ่อนผันจ่ายแอร์พอร์ตลิ้งค์-งบสร้างไทยจีนบาน-เพิ่มอีอีซีเป็นเจ้าภาพร่วม’ เร่งแผนงานต้องแก้ให้จบใน ต.ค. 65 พร้อมเริ่มก่อสร้าง วางกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จปี 70
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 31 กรกฎาคม 2565 แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผย ‘สำนักข่าวอิศรา (https://www.isranews.org/ )’ ว่า ในวันที่ 1 ส.ค. 2565 นี้ จะมีการประชุมคณะอนุกรรมการบริหารการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กบอ.) ครั้งที่ 3/2565 ที่มีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเป็นประธาน
โดยวาระพิจารณาสำคัญคือ การพิจารณาข้อเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง - สุวรรณภูมิ - อู่ตะเภา) ระยะทาง 220 กม. วงเงิน 224,544 ล้านบาท มีการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เป็นเจ้าของโครงการ และมี บจ.เอเชีย เอราวัณ (ซี.พี.) เป็นเอกชนผู้รับสัมปทาน 50 ปี สาระสำคัญอยู่ที่การแก้ไขสัญญาสัมปทานร่วมลงทุนใน 3 ประเด็น ได้แก่
1. การขอผ่อนผันจ่ายค่าใช้สิทธิ์โครงการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิ้งค์ช่วงพญาไท - สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งตามสัญญเดิม จะต้องรับมอบหลังลงนามในสัญญาแล้ว 2 ปี พร้อมจ่ายค่าใช้สิทธิ์ วงเงิน 10,671 ล้านบาท
2. การก่อสร้างช่วงโครงสร้างร่วมกับโครงการถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ช่วงบางซื่อ - ดอนเมือง ซึ่งจากการหารือกับทางการจีน มีข้อสรุปให้ ซี.พี. เป็นผู้ก่อสร้างงานโครงสร้างร่วมของทั้ง 2 โครงการ คิดเป็นค่างานที่ต้องลงทุนเพิ่ม 9,207 ล้านบาท ซึ่งเจรจากับรัฐแล้วได้ข้อสรุปว่า จะปรับวิธีชำระเงินร่วมลงทุน วงเงิน 118,000 ล้านบาท จากเดิมในสัญญาระบุว่า จะเริ่มจ่ายหลังจากเอกชนคู่สัญญาเริ่มต้นการให้บริการเดินรถและบำรุงรักษาโครงการเกี่ยวกับรถไฟแล้ว โดยจะทยอยจ่ายต่อเนื่อง 10 ปีจนครบ เป็นจะเริ่มชำระในระหว่างก่อสร้างทันที
และ 3. แก้ไขหลักการในสัญญาว่าด้วยการแก้ไขสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อสถานะทางการเงินของโครงการ โดยให้ดึงสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) เข้ามาเป็นเจ้าภาพร่วมกับ ร.ฟ.ท. เพอื่เพิ่มประสิทธิภาพของโครงการ
ทั้งหมด หากได้รับความเห็นชอบจาก กบอ. ก็จะเสนอให้คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน พิจารณา เมื่อผ่านแล้วก็จะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาและนำไปสู่การแก้สัญญาร่วมทุน โดยคาดว่าภายในเดือน ต.ค. 2565 กระบวนการแก้ไขสัญญาน่าจะแล้วเสร็จ และน่าจะเริ่มก่อสร้างได้ทันที โดยวางกำหนดแล้วเสร็จในปี 2570