‘ก้าวไกล-พีรพล กนกวลัย’ เฮ! หลังศาลปกครองยกคำร้อง กกต. ชี้ขาดปมขาดคุณสมบัติลงสมัคร ส.ก. เพราะถือหุ้นสื่อ ขณะที่เฟซบุ๊กพรรคไล่เรียงไทม์ไลน์เหตุการณ์ ก่อนอัก กกต. ใช้ดุลยพินิจมั่ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 27 กรกฎาคม 2565 เมื่อวันที่ 22 ก.ค. 2565 ศาลปกครองกลางอ่านคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ 825/2565 ระหว่าง นายพีรพล กนกวลัย ส.ก.พรรคก้าวไกล (ผู้ฟ้องคดี) กับ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และพวกรวม 4 คน (ผู้ถูกฟ้องคดี) จากกรณี ไม่รับสมัคร นายพีรพล เป็นผู้สมัครเลือกตั้ง ส.ก.เขตพญาไท โดยอ้างว่าผู้ฟ้องคดีเป็นเจ้าของหรือถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์ชื่อ ‘สื่อธรรมชาติ’ จึงมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 50 (3) แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 และต่อมาศาลปกครองกลางมีคำสั่งทุเลามติ กกต.ให้นายพีรพล ลงสมัครรับเลือกตั้งได้ โดยวันนี้ (22 ก.ค. 2565) ศาลปกครองมีคำพิพากษาว่าคำสั่งของ กกต.ดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย
นายพีรพล กล่าวว่า ขั้นตอนหลังจากนี้ต้องรอ กกต.จะยื่นอุทธรณ์คดีหรือไม่พร้อมยืนยันสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ได้รับความเสียหายเสียชื่อเสียงและต้องพิจารณาเรื่องเรียกค่าเสียหาย กกต.ต่อไป
‘ก้าวไกล’ เปิดไทม์ไลน์ - อัด กกต.ใช้ดุลยพินิจ ‘มั่ว’
ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก ‘พรรคก้าวไกล - Move Forward Party’ โพสต์ข้อความในหัวข้อ ‘ศาลฟัน กกต.ทำผิดกฎหมาย ก้าวไกลชนะคดี ‘เฮียเล้า’ ส.ก.พญาไท ได้ไปต่อ!’ ความว่า ศาลปกครองชี้ กกต. ไม่รับสมัคร นายพีรพล กนกวลัย หรือ ‘เฮียเล้า’ เป็นผู้สมัคร ส.ก. เหตุมีลักษณะต้องห้าม เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นสื่อ จากการดูแค่หลักฐานการเคยจดแจ้งเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์อย่างเดียวไม่ได้
แต่ กกต.ต้องตรวจดูข้อกฎหมายเรื่องความสิ้นสุดการเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ด้วย ฝ่ายกฎหมายพรรคก้าวไกล แสดงหลักฐานและข้อเท็จจริงยันต่อ กกต. และศาลปกครอง ชี้ชัด เฮียเล้า พีรพล กนกวลัย สิ้นสุดความเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ ตั้งแต่ปี 2539
ศาลปกครองจึงเห็นว่า กกต. ใช้ดุลพินิจมิชอบด้วยกฎหมาย จึงมีคำสั่งให้เพิกถอนประกาศการไม่รับสมัครที่ไม่เป็นธรรมต่อเฮียเล้าทั้งหมด
รายละเอียดของคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อมีกำหนดการเลือกตั้งผู้ว่าและสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ในวันที่ 22 พ.ค. 2565 โดยครั้งนี้ พรรคก้าวไกลส่งผู้สมัครลงแข่งขันเลือกตั้งในทุกที่นั่ง โดยนายพีรพล กนกวลัย ผู้สมัคร ส.ก. เขตพญาไท จากพรรคก้าวไกล ยื่นใบสมัครวันที่ 31 มี.ค. 2565 แต่เมื่อถึงวันที่ 11 เม.ย. 2565 กกต. กลับไม่รับใบสมัครของเฮียเล้า
โดย กกต. อ้างว่านายพีรพลมีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมาย จากการ ‘เป็นเจ้าของหรือเป็นผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ’ เนื่องจากพบว่านายพีรพลเคยจดแจ้งเป็นเจ้าของสิ่งพิมพ์ ‘ท่องธรรมชาติ’ ในปี 2537 และยังไม่ได้แจ้งขอยกเลิกการพิมพ์ แม้ว่าในวันรุ่งขึ้น 12 เม.ย. 2565 จะทำหนังสือคัดค้านไปแล้ว แต่ กกต. ก็ยกคำร้อง ไม่เปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม(20 เม.ย. 2565)
ต่อมาในวันที่ 29 เม.ย. 2565 นายพีรพลและทีมกฎหมายพรรคก้าวไกลได้ยื่นคำร้อง พร้อมแสดงหลักฐาน ต่อศาลปกครองให้ทุเลาและให้ศาลมีคำสั่งให้ กกต.เพิกถอนประกาศที่ไม่เป็นธรรมนี้ออกไป ถัดมาวันที่ 6 พ.ค. 2565 ศาลมีคำสั่งทุเลา ให้ กกต. เดินหน้าประกาศรายชื่อเฮียเล้าเป็นผู้สมัคร ส.ก. ต่อไป
ทั้งนี้ กกต. ยังไม่ออกประกาศและประกาศติดรายละเอียดนายพีรพลหน้าหน่วยเลือกตั้ง สุดท้าย ในการเลือกตั้งวันที่ 22 พ.ค. 2565 นายพีรพลได้รับคะแนนเสียงเป็นอันดับ 1 เป็นผู้ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ก. เขตพญาไท พร้อมกับ ส.ก. พรรคก้าวไกลรวมแล้ว 14 ที่นั่ง ในสภากรุงเทพ
จนถึงวันที่ 22 ก.ค. 2565 ล่าสุด ศาลปกครองมีคำพิพากษาออกมาแล้ว โดยศาลอธิบายว่า หากพิจารณาตามมาตรา 45 แห่ง พ.ร.บ.การพิมพ์ พ.ศ. 2484 ซึ่งเป็นกฎหมายที่บังคับใช้อยู่ ณ ขณะนั้น บัญญัติไว้ว่าถ้าหากไม่มีการพิมพ์ออกมา 4 คาบ หรือ 2 ปี ก็ถือว่าการเป็นเจ้าของ ผู้พิมพ์ หรือผู้โฆษณาสิ่งพิมพ์นั้นๆ สิ้นสุดลง โดยในกรณีของนายพีรพล มีการพิมพ์ ‘ท่องธรรมชาติ’ จำนวน 15 ฉบับ จนถึงเดือนสิงหาคม 2538 เท่ากับว่าสถานะเจ้าของสิ่งพิมพ์ของเฮียเล้าสิ้นสุดลงตั้งแต่เดือนมกราคม 2539 แล้ว นายพีรพลจึงไม่มีลักษณะต้องห้ามในการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ก.
ดังนั้น ศาลจึงเห็นว่า กกต. ใช้ดุลพินิจมิชอบด้วยกฎหมาย จึงมีคำสั่งให้เพิกถอนประกาศที่ไม่เป็นธรรมต่อนายพีรพลทั้งหมด
ในช่วงท้ายของโพสต์ พรรคก้าวไกลระบุว่า เป็นอีกคดีตัวอย่างที่ กกต. แพ้คดี จากการใช้อำนาจและดุลยพินิจไม่เป็นธรรม ไม่รอบคอบ และ ‘มั่ว’ ในการตีความกฎหมาย พรรคก้าวไกล ขอแสดงความยินดีกับนายพีรพลที่รอดพ้นการคุกคามทางกฎหมาย(Legal Harassment) ได้สำเร็จ และขอขอบคุณประชาชนที่ให้ความไว้วางใจและยืนเคียงข้างเราเสมอมา