‘สุดารัตน์’ ไม่หวั่นเลือดไหลกลับ ‘เพื่อไทย’ หลัง ‘พงศกร-ประภัสร์’ ซบบ้านเก่า ด้าน ‘ศิธา’ โพสต์เฟซบุ๊กเหตุย้ายกลับ เพราะประกาศิตนายใหญ่ ใครอยู่นอกพรรคจะไม่ส่งลง ส.ส.
ผูัสื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 9 กรกฎาคม 2565 จากกรณีที่นายพงศกร อรรณนพพร และนายประภัสร์ จงสงวน อดีตสมาชิกพรรคไทยสร้างไทย กลับเข้าร่วมเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 8 ก.ค. 2565 ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุด คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย พร้อมด้วยแกนนำพรรค ได้แถลงข่าวเดินหน้าสร้างเครือข่ายบำนาญประชาชนทั่วประเทศ โดยเปิดเผยว่า จนถึงตอนนี้มีประชาชนเข้าร่วมเป็นเครือข่ายบำนาญประชาชน เดือนละ3,000 บาท เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการผลักดันร่างพระราชบัญญัติบำนาญประชาชนให้ เกิดขึ้นตามที่ได้ประกาศเป็นนโยบายของพรรคไทยสร้างไทยไปแล้ว ปัจจุบันมีผู้เข้าร่วมเป็นเครือข่ายแล้ว กว่า 100,000 คนทั่วประเทศ และจะยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีสมาชิกของพรรคไทยสร้างไทย ลาออกไปว่าจะไม่กระทบต่อการทำงานของพรรคใช่ไหม คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า พรรคไทยสร้างไทยยืนยัน จะยังเดินหน้าเพื่อสร้างประเทศไทยที่ดีที่สุดส่งมอบให้กับลูกหลาน ตามอุดมการณ์ที่สร้างพรรคมา และยอมรับการตัดสินใจของเพื่อนสมาชิก ไม่มีปัญหาใดๆ ซึ่งพรรคมีความพร้อมในการเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง โดยเฉพาะการแถลงนโยบายต่างๆซึ่งวันนี้ได้เน้นย้ำ ถึงการสร้างเครือข่ายบำนาญประชาชน เพื่อนำไปสู่การพลิกฟื้นเศรษฐกิจให้กับพี่น้องคนตัวเล็ก ให้หายจน หมดหนี้ มีรายได้อย่างยั่งยืน และต่อไปก็จะมีการประกาศนโยบายที่สำคัญต่างๆตามมา
'ศิธา' เผยอาจมีออกอีก พร้อมเปิดเงื่อนไขเบื้องหลัง
ด้าน น.ต.ศิธา ทิวารี อดีตผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) และสมาชิกพรรคไทยสร้างไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ‘น.ต.ศิธา ทิวารี - Sita Divari’ ว่า จากการที่ผู้บริหารพรรคเพื่อไทยชุดปัจจุบัน ได้แถลงว่า หากมีคนในครอบครัวของ ส.ส.พรรคเพื่อไทย สังกัดพรรคการเมืองอื่น พรรคเพื่อไทยจะไม่ส่ง ส.ส.คนนั้น ลงเลือกตั้งครั้งหน้านั้น
ทำให้นายพงศกร อรรณนพพร ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคไทยสร้างไทย ซึ่งมีลูกสาวเป็น ส.ส.พรรคเพื่อไทย คือ นางสาวสรัสนันท์ อรรณนพพร ได้แจ้งทางพรรคว่า ขอย้ายกลับพรรคเพื่อไทย เนื่องจากเหตุผลดังกล่าว
ด้วยความเคารพรักต่อนายพงศกรและบุตรสาว และด้วยความเข้าใจความรักของพ่อที่มีต่อลูก รวมถึงการที่ได้เห็นความมุ่งมั่นทุ่มเท บุกเบิกสร้างพรรคไทยสร้างไทยมาด้วยกัน ก็เกิดเข้าใจและเคารพการตัดสินใจ
“ขอให้ท่านพงศกรและครอบครัว ประสบความสำเร็จทางการเมืองและทุกสิ่งที่มุ่งหวัง หากท่านยืนยันแน่วแน่ที่จะยืนหยัดอยู่กับพรรคการเมืองฝั่งประชาธิปไตย และมีอุดมการณ์ในการที่จะเอาชนะเผด็จการให้จงได้ ไม่ว่าท่านจะสังกัดพรรคการเมืองใด เราคือเพื่อนกัน” น.ต.ศิธากล่าวในโพสต์
ทั้งนี้ ในฐานะเป็นคนหนึ่งที่ได้ร่วมก่อตั้งพรรคไทยสร้างไทย มาตั้งแต่ช่วงแรก ขอยืนยันที่จะเดินหน้าต่อไปเพื่อช่วยคนตัวเล็ก และสร้างประเทศไทยให้ดีที่สุด เพื่อส่งมอบให้กับลูกหลานตามอุดมการณ์พรรคต่อไป
ถึงวันเลือกตั้ง ถ้าประชาชนให้ความไว้วางใจ และอยากให้เข้าไปทำงานให้ เราคงได้เป็นกองหน้าประชาธิปไตย และได้ร่วมงานกันอีกครั้งในสภา ถ้าสิ่งที่ไทยสร้างไทยตั้งใจทำ ยังไม่ถูกใจก็จะขอกลับไปเป็นกองหลัง คอยเชียร์พรรคพวกเพื่อนฝูงที่เป็นพรรคร่วมฝ่ายประชาธิปไตยทุกพรรค เชียร์กันต่อไปในฐานะประชาชนที่เป็นอดีตนายทหารที่ชื่นชอบระบอบประชาธิปไตย และไม่ยอมรับ ระบอบเผด็จการ
ทั้งนี้ น.ต.ศิธา ทิ้งท้ายว่า เพิ่งเห็นข่าวว่า มีสมาชิกพรรคอีกหลายคน ได้รับการทาบทามให้เข้าร่วมโครงการแลนด์สไลด์กับทางพรรคเพื่อไทย โดยแต่ละคนยังลังเลใจอยู่ ขอยืนยันในหลักการว่า ขอเพียงท่านอยู่ในฝั่งพรรคฝั่งประชาธิปไตย ไม่ว่าจะอยู่พรรคไหนเราคือเพื่อนกัน เคารพการตัดสินใจของทุกท่าน
ขอให้โชคดี