ครม.อนุมัติ ‘กรมทางหลวง’ สร้างมอเตอร์เวย์หมายเลข 7 ส่วนต่อขยายเชื่อมต่อ ‘สนามบินอู่ตะเภา’ ระยะทาง 1.92 กิโลเมตร วงเงินรวม 4.5 พันล้าน
เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติอนุมัติให้กรมทางหลวงดำเนินงานก่อสร้างโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 7 ส่วนต่อขยายเชื่อมต่อสนามบินอู่ตะเภา ระยะทางรวม 1.92 กิโลเมตร วงเงินรวม 4,508 ล้านบาท โดยให้กระทรวงการคลังจัดหาเงินกู้สำหรับค่าก่อสร้างและค่าควบคุมงานตามแผนบริหารหนี้สาธารณะ
พร้อมทั้งให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณ สำหรับค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน วงเงิน 108 ล้านบาท รวมถึงแหล่งเงินงบประมาณเพื่อสมทบกับแหล่งเงินกู้ และให้อัตราส่วนของแหล่งเงินกู้และเงินงบประมาณสมทบเป็นไปตามที่กระทรวงการคลังทำความตกลงกับแหล่งเงินกู้
สำหรับโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 ส่วนต่อขยายเชื่อมต่อสนามบินอู่ตะเภาดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อรองรับการจราจรที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคตบริเวณสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ซึ่งสนามบินอู่ตะเภาจะเปิดให้บริการเป็นสนามบินนานาชาติเชิงพาณิชย์หลักแห่งที่ 3 ในปี 2568
โดยเป็นการก่อสร้างทางยกระดับเชื่อมต่อจากทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 ช่วงพัทยา-มาบตาพุด ถัดจากด่านเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางอู่ตะเภาเข้าสู่อาคารผู้โดยสารหลังที่ 3 ของสนามบินอู่ตะเภาโดยตรง ซึ่งจะช่วยลดระยะทางสู่สนามบินอู่ตะเภาจากเดิม 5 กิโลเมตร เหลือ 1.92 กิโลเมตร โดยไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางเพิ่ม รวมถึงทางเลี้ยวและทางแยกต่างระดับบริเวณจุดตัดกับถนนสุขุมวิท ทั้งนี้ คาดว่าเมื่อเปิดให้บริการในปี 2568 จะมีปริมาณจราจรประมาณ 22,000 คันต่อวัน และเพิ่มเป็น 41,300 คันต่อวันในปี 2597 หรือปีที่ 30 ของโครงการ
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ในส่วนเงินลงทุนโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 ส่วนต่อขยายเชื่อมต่อสนามบินอู่ตะเภารวม 4,508 ล้านบาท ประกอบด้วย ค่าก่อสร้าง ค่าจ้างที่ปรึกษาควบคุมงาน และเงินเผื่อเหลือเผื่อขาดรวม 4,400 ล้านบาท โดยใช้จ่ายจากเงินกู้ตามแผนบริหารหนี้สาธารณะปีงบประมาณ 2565 และค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินจำนวน 108 ล้านบาท ใช้จ่ายจากเงินงบประมาณระยะเวลาก่อสร้างระหว่างปี 2565-2567
“โครงการนี้ แม้จะไม่มีผลตอบแทนทางการเงิน เพราะไม่มีรายได้จากการเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางในบริเวณส่วนต่อขยาย แต่เมื่อวิเคราะห์อัตราผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ(EIRR) ของโครงการพบว่า มีค่าร้อยละ 14.79 ซึ่งสูงกว่าค่ามาตรฐานที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) กำหนดที่ร้อยละ 12 แสดงว่าโครงการฯมีความเหมาะสมที่จะลงทุน” น.ส.ไตรศุลี กล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อพิจารณาค่าก่อสร้าง ค่าจ้างที่ปรึกษาควบคุมงาน และเงินเผื่อเหลือเผื่อขาดในการก่อสร้างโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 7 ส่วนต่อขยายเชื่อมต่อสนามบินอู่ตะเภา ระยะทางรวม 1.92 กิโลเมตร ซึ่งใช้วงเงินรวม 4,400 ล้านบาทแล้ว พบว่าค่าใช้จ่ายในดำเนินการจะอยู่ที่เฉลี่ย 2,291.6 ล้านบาทต่อกิโลเมตร