‘มิ่งขวัญ’ ลุยอีกรอบ ตั้งพรรค ‘โอกาสไทย’ เสนอตัวเองเป็นแคนดิเดตนายกฯ เน้นแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ขณะที่ ‘พงศกร’ ลูกชาย ‘อัศวิน’ โผล่ฟังแถลงข่าวด้วย เผยยังไม่ตัดสินใจร่วมพรรคไหน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.2565 นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ว่า หลังจากลาออกจากส.ส. หายไป 2-3 เดือน ยังทำงานการเมืองอยู่ เพื่อเตรียมการเลือกตั้งต่อไป โดยจะตั้งพรรคการเมืองที่มีชื่อว่า ‘โอกาสไทย’ หมายถึงโอกาสของคนไทยทุกคน โดยใช้สีเขียวสะท้อนแสง หมายถึงเมืองเกษตรกรรม สีชมพูคือ ความทันสมัยและคนรุ่นใหม่ โดยพรรคยังอยู่ในกระบวนการจดจัดตั้งพรรคกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอประกาศว่า ถ้าสนใจในความคิด และอุดมการณ์ ในภาวะที่ประเทศไทยมีวิกฤตเศรษฐกิจ ขอเชิญชวนผู้ใหญ่ คนหนุ่มคนสาวหรือคนรุ่นใหม่ที่สนใจที่จะร่วมอุดมการณ์ ขอให้สแกนคิวอาร์โค้ดเข้ามาเป็นเพื่อนกันในเฟซบุ๊ก เพื่อช่วยกันคิดเรื่องต่างๆในการแก้ปัญหา
นายมิ่งขวัญ ยังกล่าวถึงกระแสข่าวที่จะไปร่วมงานกับพรรคเศรษฐกิจไทยว่า ได้พูดคุยกับนักการเมืองต่างๆ เราพูดคุยกันอยู่แล้ว ได้บอกว่าจะทำพรรคการเมือง แต่ไม่ได้บอกว่าชื่ออะไร วันนี้เป็นคำตอบได้ตั้งพรรคการเมืองที่มีชื่อว่า โอกาสไทย
เมื่อถามถึงจุดยืนของพรรค จะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ หรือไม่ นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า ไม่รู้ แต่เดินตรงไปตามที่เคยเดิน จุดยืนคือประชาธิปไตย ตอนนี้ยังไม่ร่วมกับพรรคไหน จะขอเปิดเผยในการแถลงข่าวในครั้งหน้า ตอนนี้ยังไม่รู้จะได้ส.ส.เท่าไร แต่คนที่จะเข้าร่วมกับพรรคต้องเป็นคนที่สนใจแก้ปัญหาปากท้องประชาชน ถ้าไม่สนใจก็ทำงานร่วมกันไม่ได้ เตรียมตัวเต็มที่มาอย่างดี มีคนสนใจเข้าร่วมกับพรรคระดับหนึ่ง มีความหลากหลายมีทั้งผู้ใหญ่และคนอายุน้อย จากสายวิชาการ การศึกษา เกษตร อาจจะเป็นคนหน้าใหม่ แต่ขอยังไม่บอกว่าเป็นใครบ้าง และขออย่าให้ตนไปทะเลาะกับใครเลย ไม่อยากทะเลาะกับใคร
นายมิ่งขวัญ กล่าวอีกว่า จะเป็นหัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเอง เหตุผลที่ไม่เข้าร่วมกับพรรคอื่น เพราะจุดโฟกัสจะทำเรื่องเศรษฐกิจเป็นหลัก ส่วนจะเชิญชวน ส.ส.พรรคเศรษฐกิจใหม่มาเข้าร่วมหรือไม่ ขออย่าให้พูดอะไรถึงคนพรรคนั้นเลย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการแถลงข่าวของ นายมิ่งขวัญ ปรากฏว่า ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง อดีตโฆษกกรุงเทพ บุตรชาย พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เข้าร่วมรับฟังการแถลง พร้อมกับเปิดเผยว่า ขอเข้าร่วมฟังการแถลงข่าวด้วย สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเรื่องนโยบาย ที่จะต้องรับฟัง ตอนนี้ยังไม่ตัดสินใจ ขอเวลาตัดสินใจ 1 เดือน คงจะต้องพูดคุยกับนายมิ่งขวัญ เพราะในช่วงที่ทำงาน กทม.มา 2 ปีครึ่ง ประเด็นหลักที่คนพูดถึงคือเรื่องเศรษฐกิจ เป็นปัญหาใหญ่ของประเทศ จึงขอมาฟังนโยบายเรื่องเศรษฐกิจ นายมิ่งขวัญทำเรื่องเศรษฐกิจ และการมาในวันนี้เป็นการตัดสินใจมาส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับ พล.ต.อ.อัศวิน เพราะไม่เล่นการเมืองแล้ว ส่วนตัวอยากทำเรื่องเศรษฐกิจ วันนี้มาฟังพรรคแรก ยังไม่รู้ว่าจะมีพรรคไหนอีก เพราะติดตามนายมิ่งขวัญมานานแล้ว จึงมาฟังว่านโยบายเปลี่ยนไปจากเดิมหรือไม่