'ประยุทธ์' เตือน ปลดล็อคกัญชา 9 มิ.ย. ไม่ใช่เสรี 100% พร้อมลงนามตั้งคณะกรรมการบูรณาการนโยบาย 30 ราย สร้างการรับรู้ให้ประชาชน มีรองนายกฯ เป็นประธาน และ รมว.ยุติธรรม-สธ.เป็นรอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แถลงหลังเป็นประธานประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ในที่ประชุมมีการหารือถึงการปฏิบัติตัวของประชาชนและบังคับใช้กฎหมายกรณีกัญชา กัญชง ถูกถอดออกจากบัญชียาเสพติดประเภทที่ 5 ตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย.นี้ เป็นต้นไป
โดยเฉพาะการปลูก เสพ สูบ บริโภค สามารถทำได้ถูกกฎหมาย แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะทำได้อย่างเสรีร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะพิษภัยของกัญชายังคงมีอยู่ มีพฤติกรรมการใช้บางเรื่องที่รัฐจำเป็นต้องควบคุม อาทิ การสูบต้องไม่ก่อความรำคาญกับผู้อื่น การสูบแล้วขับรถอาจผิดกฎหมายเหมือนกับดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้วไม่ขับ หรือเมาแล้วไม่ขับ การใช้ช่อ ดอก ซึ่งมีสารเสพติดต้องระมัดระวัง ห้ามจำหน่ายแก่เด็ก การผลิตจำหน่ายต้องมีการเสียภาษี
อย่างไรก็ตาม จะมีกฎหมายใหม่เพื่อกำหนดรายละเอียดต่อไป ปัจจุบันเราอยุ่ระหว่างการเสนอร่างพ.ร.บ.กัญชาต่อสภา ยังคงต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน จนนึงวันที่กฎหมายมีผลบังคับใช้ รัฐบาลได้ตั้งคณะทำงานจากหน่วยงานต่างๆและภาคประชาชน บูรณาการนโยบายพืชกัญชา และกัญชง เพื่อกำกับดูแลในช่วงรอยต่อนี้ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เราต้องสร้างการรับรู้ให้กับประชาชน ตลอดจนการรับเรื่องร้องเรียนต่างๆที่อาจจะเป็นปัญหาจากความไม่เข้าใจกัน
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ลงนามในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 120/2565 เรื่อง การแต่งตั้งคณะกรรมการบูรณาการนโยบายพืชกัญชาและกัญชง จำนวน 30 ราย
ในเอกสารการแต่งตั้งดังกล่าว มีรองนายกรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายเป็นประธาน มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นรองประธานคนที่ 1 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นรองประธานคนที่ 2 และมีเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เป็นกรรมการและเลขาธิการ
โดยมีหน้าที่และอำนาจ รวม 10 ด้าน ได้แก่
-
เสนอแนะนโยบายและมาตรการส่งเสริมการศึกษา วิจัยและพัฒนาการใช้พืชกัญชา และกัญชง ทั้งในด้านการแพทย์ ด้านอุตสาหกรรม และประโยชน์อื่น ๆ ต่อคณะรัฐมนตรี
-
กําหนดมาตรการ แนวทางปฏิบัติ และกํากับดูแลการดําเนินงานร่วมกันของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม เพื่อบูรณาการขับเคลื่อนนโยบายพืชกัญชาและกัญชง เพื่อการส่งเสริมเศรษฐกิจและนวัตกรรมอย่างมีประสิทธิภาพ
-
ติดตามและประเมินสถานการณ์ ศึกษาผลกระทบที่เกิดขึ้นเพื่อการทบทวน เสนอแนะ และจัดทํามาตรการคุ้มครองบุคคลซึ่งอาจได้รับอันตรายจากการใช้หรือบริโภคกัญชาและกัญชง และการป้องกัน การใช้ในทางที่ผิด รวมทั้งการโฆษณาในทางการค้าเกี่ยวกับกัญชาและกัญชง
-
เผยแพร่ ประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้และความเข้าใจของประชาชนเกี่ยวกับ การปลูกและใช้พืชกัญชาและกัญชงในทางที่ถูกต้องเหมาะสม รวมทั้งสร้างความตระหนักรู้ถึงผลร้ายของการนํา พืชกัญชาและกัญชงไปใช้ในทางที่ผิด
-
ชี้แจง ประสานงาน เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องกับนานาประเทศ องค์กร หรือ หน่วยงานระหว่างประเทศ เกี่ยวกับการดําเนินนโยบายพืชกัญชาและกัญชง
-
ประสานงานและติดตามความคืบหน้าของร่างกฎหมายว่าด้วยกัญชา กัญชงที่อยู่ระหว่าง การพิจารณาของรัฐสภาในขั้นตอนต่าง ๆ
-
ประมวลปัญหาและข้อร้องเรียนจากประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการดําเนินนโยบาย พืชกัญชาและกัญชง โดยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดําเนินการแก้ไขปัญหาต่อไป
-
เชิญหน่วยงานหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง ให้ข้อมูล ข้อเท็จจริงและความเห็น รวมทั้ง ส่งเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการพิจารณาดําเนินงานของคณะกรรมการ
-
แต่งตั้งคณะอนุกรรมการหรือคณะทํางานเพื่อช่วยปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการได้ตามความจําเป็นและเหมาะสม
-
รายงานผลการดําเนินงานให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีทราบเป็นระยะ
ให้มีผลตั้งแต่วันที่ลงนามในคำสั่ง ณ วันที่ 7 มิ.ย. 2565 เป็นต้นไป