สมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศ หวั่นปลดล็อกกัญชา ส่งผลเสียต่อกลุ่มเปราะบางอย่าง จี้รัฐออกมาตรการ อย่างเป็นรูปธรรม ก่อนปลูกอย่างเสรี เหตุเด็ก-เยาวชน มีโอกาสเสพติดมากกว่าผู้ใหญ่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 2565 สมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย ได้เสนอคำแนะนำต่อการอนุญาตให้มีการใช้ ปลูก หรือผลิตกัญชาในประเทศไทย โดยระบุว่า ในขณะที่มีการประชาสัมพันธ์การปลดล็อกกัญชาออกจากยาเสพติดตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป โดยคาดหวังประโยชน์ 3 เรื่อง คือ 1. เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ 2. ให้เกิดเป็นประโยชน์ทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม และ 3. เพื่อให้ประชาชนมีทางเลือกในการดูแลสุขภาพของตนเอง ซึ่งมีผู้ให้ความสนใจอยากทดลองปลูกและทดลองใช้นั้น
การประชาสัมพันธ์ควรให้ข้อมูลเกี่ยวกับข้อควรระวัง หรือวิธีการที่จะใช้อย่างปลอดภัย อีกทั้งควรอธิบายมาตรการในการป้องกันกลุ่มเปราะบางอย่างเป็นรูปธรรม สมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทยจึงจัดทำข้อเสนอแนะและคำแนะนำต่อการอนุญาตให้มีการใช้ ปลูก หรือผลิตกัญชาในประเทศไทย ตามเอกสารแนบ เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องนำไปพิจารณาปรับปรุงเพื่อให้โครงการนี้เกิดประโยชน์โดยมีโทษหรือผลข้างเคียงน้อยที่สุด ดังนี้
-
กระทรวงสาธารณสุขควรมีคำแนะนำที่ชัดเจนว่าส่วนไหนของกัญชาควรและไม่ควรใช้
แม้ว่าการปลดเสรีการปลูกโดยมุ่งหวังเพื่อพัฒนาส่วนต่างๆ ของต้นกัญชามาใช้ในการแพทย์สำหรับบางโรค และเพื่อการเกษตรในเชิงพาณิชย์อาจเป็นประโยชน์แต่เพราะว่าช่อและดอกของต้นกัญชานั้นมีสาร Tetrahydrocannabinol หรือ THC ในระดับที่สูง ซึ่งสารนี้นอกจากมีฤทธิ์ที่ทำให้เสพติดได้ ยังสามารถก่อให้เกิดอาการทางจิต เช่น อาการหลอน ระแวง และแม้ว่าอาการเหล่านี้อาจจะเป็นอยู่ไม่นานในบางคน แต่ก็สามารถกระตุ้นให้บางคนมีอาการดังกล่าวต่อเนื่องไม่หายจนกลายเป็นโรคจิตและโรคจิตเภทได้ โดยเฉพาะในเด็ก เยาวชน และผู้ที่มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคทางจิต
-
การนำกัญชามาใช้ประโยชน์ควรเริ่มจากการใช้กัญชาในทางการแพทย์
โดยมีการวิจัยและพัฒนาไปเรื่อยๆ ควบคู่กับไปกับการดูแลการปลูกและการผลิตที่มีระบบควบคุมคุณภาพและควบคุมการเข้าถึงโดยมีการเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบถึงผลข้างเคียงของการใช้เพื่อให้ทราบถึงขนาดของปัญหาที่อาจจะพบได้ เช่น โอกาสการเกิดโรคทางจิตเวช การใช้บริการห้องฉุกเฉิน อุบัติเหตุทางถนน ดังเช่นในประเทศที่มีการอนุญาตให้ใช้ไปก่อนแล้ว ก่อนที่จะพัฒนาใช้ในด้านอื่นๆ ต่อไป
-
การส่งเสริมให้ปลูกกัญชาก่อนจึงให้ความรู้ตามหลังจะก่อให้เกิดปัญหาการใช้กัญชาที่เป็นอันตรายได้
ก่อนที่จะส่งเสริมให้มีการปลูกอย่างกว้างขวาง รัฐควรมีการให้ความรู้กับประชาชนทั่วไปอย่างรอบด้านแบบทั่วถึง ให้รู้จักถึงประโยชน์ โทษ และข้อควรระวัง เพื่อให้การปลูกได้ประโยชน์ตามเจตนารมณ์ของการปลดเสรีและลดโอกาสที่จะเกิดโทษหรือผลกระทบด้านลบต่อประชาชนและสังคมให้น้อยที่สุด
-
สมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทยมีความห่วงใยและอยากเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่ต้องสร้างการจำกัดการเข้าถึงกัญชาของกลุ่มเปราะบาง เช่น เด็ก เยาวชน สตรีมีครรภ์
ในฐานะที่จิตแพทย์เป็นผู้ให้บริการทางการแพทย์ที่ได้พบ ตรวจ และรักษาผู้ที่มีอาการทางจิตจากการใช้กัญชา ทั้งที่สามารถรักษาให้หายและไม่หายจากการใช้กัญชาเป็นประจำ เป็นจำนวนที่มากตั้งแต่กัญชายังอยู่ในบัญชียาเสพติดให้โทษและได้เห็นผลในด้านลบต่อสุขภาพ เศรษฐกิจ และสังคมจากการใช้กัญชาต่อผู้ที่ใช้และครอบครัว
-
สมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทยจึงเรียกร้องให้ทางรัฐบาลจัดทำมาตรการที่นอกเหนือไปจากที่มีในขณะนี้อย่างเป็นรูปธรรมก่อนการปลูกอย่างเสรี เพื่อป้องกันกลุ่มเปราะบาง เพราะ
-
-
เด็กและเยาวชนมีโอกาสเสพติดกัญชามากกว่าผู้ใหญ่
-
กัญชาส่งผลกระทบต่อพัฒนาการของสมอง ระดับสติปัญญา การคิดแบบมีเหตุผล และการยับยั้งชั่งใจทั้งขณะเสพ และหลังเสพ และต่อลูกในครรภ์ของมารดาที่ใช้
-
การเสพติดกัญชาส่งผลให้เกิดความรุนแรงในครอบครัวมากขึ้น
-
กัญชาเป็นเหตุที่สามารถทำให้เกิดโรคจิต และจิตเภทได้
-
และสมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทยพร้อมเสมอที่จะให้ข้อมูลในด้านวิชาการเมื่อมีการร้องขอ เพื่อส่งเสริมให้เกิดกลไกการควบคุมดังกล่าวขึ้นมา เพื่อประโยชน์ที่แท้จริงของประชาชนไทย