DSI รับสืบสวนค้นหาความจริง กรณีการเสียชีวิต 'แตงโม' เชิญคณะแพทย์-ผู้เกี่ยวข้องร่วมประชุม ก่อนเสนอกรรมการพิจารณาเป็นคดีพิเศษหรือไม่
เมื่อวันที่ 28 มี.ค. เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุม 1 อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ ถนนแจ้งวัฒนะ นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้เชิญคณะแพทย์จากสถาบัน นิติวิทยาศาสตร์ และคณะแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการชันสูตรการเสียชีวิตของนางสาวภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ (แตงโม) มาประชุมร่วมกันเพื่อขอทราบข้อเท็จจริงและความเห็นในประเด็นต่าง ๆ รวมทั้งรับข้อแนะนำในการสืบสวนกรณีดังกล่าว
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2565 มีภาคประชาชน เข้ายื่นเรื่องต่ออธิบดีกรมสอบสวน คดีพิเศษ ให้พิจารณาการเสียชีวิตของนางสาวภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ (แตงโม) เพื่อขอให้เสนอคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) มีมติรับเป็นคดีพิเศษ และประสงค์ให้นำกระบวนการสืบสวนและสอบสวนตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 มาใช้ในการดำเนินคดีดังกล่าว เพื่อพิสูจน์ความจริง เนื่องจากปรากฏเป็นที่สงสัยของประชาชนโดยทั่วไปเกี่ยวกับสาเหตุการตาย โดยอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พิจารณาแล้วเห็นว่าแม้เรื่องนี้ตัวผู้เสียหายโดยตรงจะมิได้มาร้องขอ แต่เนื่องจากเป็นเรื่องที่สาธารณชนมีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ประกอบกับเป็นความผิดอาญาเกี่ยวกับความผิดต่อชีวิต ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ ที่รัฐมีหน้าที่ต้องทำความจริงให้ปรากฏ จึงรับเรื่องดังกล่าวไว้ทำการสืบสวน เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเสนอต่อคณะกรรมการคดีพิเศษพิจารณาต่อไป โดยได้เชิญคณะแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และคณะแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการชันสูตรพลิกศพ มาประชุมร่วมกันในวันนี้
นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยถึง ผลการประชุมว่า จากการประชุมกับคณะแพทย์ผู้เกี่ยวข้อง ได้รับทราบผลการชันสูตรพลิกศพที่เกิดเหตุ ผลการผ่าพิสูจน์ศพครั้งที่ 1 โดยแพทย์นิติเวช สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และการชันสูตรพลิกศพ ครั้งที่ 2 โดยคณะกรรมการการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งมีรองผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เป็นประธานกรรมการ พบว่าผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์เป็นไปในทิศทางเดียวกันและทำให้เห็นถึงความต่อเนื่องของการตรวจชันสูตรพลิกศพ โดยได้รับฟังข้อเท็จจริงทางคดีและข้อแนะนำที่เป็นประโยชน์ หลังจากนี้ คณะพนักงานสืบสวนจะเร่งเดินหน้าแสวงหาหลักฐานทางคดีกับผู้เกี่ยวข้องต่อไป
“กรมสอบสวนคดีพิเศษ จะบูรณาการการทำงานและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน เพื่อสนับสนุนการค้นหาความจริงและทำความจริงในเรื่องนี้ให้ปรากฏ เพื่อให้สาธารณชนเกิดความเชื่อมั่น ต่อกระบวนการยุติธรรม”