‘มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค’ เปิดผลวิจัยปี 64 พบมี ‘ทีวีดิจิทัล’ 4 ช่อง โฆษณาเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด-เข้าข่ายเอาเปรียบผู้บริโภค จี้ ‘กสทช.’ ลงโทษเช่นเดียวกับ ‘ช่อง 3’
...........................
จากกรณีศาลปกครองสูงสุดพิพากษากลับเป็น ‘ยกฟ้อง’ ในคดีที่บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด ฟ้องขอเพิกถอนมติและคำสั่งคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่ให้ระงับการโฆษณาเอาเปรียบผู้บริโภคช่วงปี 2557 เนื่องจากโฆษณาเกินเวลากว่าที่กฎหมายกำหนดให้การออกอากาศรายการมีเวลาโฆษณาไม่เกินชั่วโมงละ 12 นาทีครึ่ง ซึ่งการกระทำของสถานีโทรทัศน์ที่เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค นั้น
เมื่อวันที่ 15 ม.ค. มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ระบุว่า จากรายงานวิจัยเรื่อง ‘งานศึกษาโฆษณาแฝงและการโฆษณาเกินเวลาทางช่องรายการโทรทัศน์ระบบดิจิทัล (2564)’ ซึ่งเผยแพร่ในนิตยสารฉลาดซื้อ พบว่า มีโทรทัศน์ระบบดิจิทัล 4 ช่องที่โฆษณาเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด
ทั้งนี้ จากการศึกษาโฆษณาที่ปรากฏทางช่องรายการโทรทัศน์ระบบดิจิทัลที่ออกอากาศตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค.-30 เม.ย.2564 โดยคัดเลือกกลุ่มตัวอย่าง 34 กลุ่มตัวอย่าง โดยการนับเวลารายการ 1 ชั่วโมง หรือ 60 นาที พบว่า ค่าเฉลี่ยโดยรวมของเนื้อหารายการในกรณีหักลบโฆษณาจะอยู่ที่ 52 นาที 36 วินาที ซึ่งไม่เกินเกณฑ์ที่ กสทช. กำหนด
แต่เมื่อพิจารณารายกลุ่มตัวอย่างพบว่า กลุ่มตัวอย่างที่มีเนื้อหารายการน้อยกว่า 47 นาที 30 วินาที หรือมีโฆษณาต่อชั่วโมงมากกว่า 12 นาทีครึ่ง มี 4 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ กลุ่มตัวอย่างที่ 22 (วันทอง) 38 นาที 35 วินาที รองลงมาคือ กลุ่มตัวอย่างที่ 28 (ทุบโต๊ะข่าว + ซุปตาร์พาตะลุย) 44 นาที 14 วินาที, กลุ่มตัวอย่างที่ 31 (ฟ้าหินดินทราย + ข่าวภาคค่ำ) 46 นาที 45 วินาที และกลุ่มตัวอย่างที่ 15 (แฉ) 47 นาที ตามลำดับ
ขณะที่ผลการสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคด้วยแบบสอบถามออนไลน์ 350 ชุด เก็บข้อมูลตั้งแต่วันที่ 24 พ.ค.-15 ก.ค.2564 กับผู้ที่เปิดรับรายการโทรทัศน์ระบบดิจิทัล พบว่า ผู้บริโภคส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยต่อการมี ‘โฆษณาแฝง’ และ ‘รายการแนะนำสินค้า’ ในรายการโทรทัศน์ เนื่องจากเป็นการรบกวนการรับชมรายการโทรทัศน์ (3.13, 3.19 ตามลำดับ)
ผู้บริโภคยังเห็นว่ารายการที่นำเสนอข้อเท็จจริง เช่น รายการข่าว สาระความรู้ สารคดี ไม่ควรมีโฆษณาแฝงหรือรายการแนะนำสินค้า (3.25) และพบว่าหากมี ‘โฆษณา’ และ ‘โฆษณาแฝง’ ของสินค้าหรือบริการใดที่รบกวนการรับชม ผู้บริโภคจะไม่ซื้อหรือสนับสนุนสินค้าเหล่านั้นโดยเด็ดขาด (3.03, 3.07 ตามลำดับ)
นายเฉลิมพงษ์ กลับดี หัวหน้าศูนย์ทนายความเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า ปัจจุบันผู้บริโภคยังพบปัญหาการโฆษณามากกว่าที่กฎหมายกำหนด กสทช.จึงต้องตรวจสอบและออกคำสั่งกับสถานีโทรทัศน์ทุกช่องให้เหมือนกันหมด และต้องไม่มีการเลือกปฏิบัติ ขณะที่ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำวินิจฉัยแนวทางการออกคำสั่งโดยชอบของ กสทช.ในการดำเนินการกรณีที่มีการโฆษณาเกินเวลาที่กำหนดแล้ว
นางนฤมล เมฆบริสุทธิ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายพิทักษ์สิทธิ์ผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า จากผลวิจัยของมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคพบว่า มีทีวิดิจิทัลช่องอื่นๆที่มีปัญหาการโฆษณาเกินเวลาที่กฎหมายกำหนดเช่นกัน ทั้งนี้ การที่กฎหมายได้กำหนดให้การประกอบกิจการทางธุรกิจสามารถหารายได้โดยการโฆษณา การบริการธุรกิจ การจัดเก็บค่าสมาชิก หรือวิธีอื่นได้ แต่ผู้ประกอบการต้องใช้เวลาในการโฆษณาตามที่กฎหมายกำหนดไว้
“กรณีของช่อง 3 ที่มีผลการพิพากษาแล้วนั้น ถือว่าแนวการพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดเป็นที่สุดแล้ว จึงเป็นมาตรการที่ให้หน่วยงานที่กำกับและดูแลมีอำนาจหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมายอย่างชอบธรรม ที่สั่งให้ผู้ประกอบการแก้ไขปัญหาแล้วก็ปรับปรุงกิจการให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด และเป็นการเตือนผู้ประกอบการไม่ให้โฆษณาเกินเวลาหรือเอาเปรียบผู้บริโภคแบบนี้” นางนฤมล กล่าว
นางนฤมล กล่าวว่า มูลนิธิฯ ขอเสนอให้กสทช.ใช้มาตรการนี้ตรวจสอบผู้ประกอบธุรกิจโทรทัศน์ทุกช่อง รวมถึงทีวีดิจิทัลที่สมัครเป็นสมาชิก เช่น ทรูวิชั่น ให้มีมาตรการในการโฆษณาตามเวลาไม่เกินที่กฎหมายกำหนด และไม่เอาเปรียบผู้บริโภค ดังเช่นที่ออกคำสั่งกับช่อง 3 เพื่อให้ผู้ประกอบการแก้ไข และเป็นการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค ภาครัฐควรทำงานเชิงรุกในการเข้าไปจัดการปัญหาแทนผู้บริโภค โดยไม่ต้องมีการร้องเรียนจากผู้บริโภคก่อน
นอกจากนี้ มูลนิธิฯ ขอชวนผู้บริโภคให้เฝ้าระวังโฆษณาเกินเวลา หากเห็นว่าเกิดปัญหาจริงตามตัวอย่างคดี แจ้งเรื่องมาที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค โทรศัพท์ : 02-2483734-7 Line id : @ConsumerThai ช่องทาง inbox FB เพจ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค หรือร้องทุกข์ออนไลน์ที่ https://www.consumerthai.com/
อ่านประกอบ :
นัดอ่านคำพิพากษาศาลปค.สูงสุด คดี ‘ช่อง 3’ ฟ้องเพิกถอนมติ ‘กสทช.’ กรณีโฆษณาเกินเวลา
แพร่ประกาศตั้ง 'มูลนิธิครอบครัวช่องส่องผี' 3 พิธีกรดัง 'เจมส์-บ๊วย-เรนนี่' เป็นกรรมการ
เนื้อหาบิดเบือนรุนแรง! บิ๊กอัยการ รุมจวกละคร 'ให้รักพิพากษา' จี้ช่อง 3 แก้ไขด่วน
Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา 