รัฐบาลเผยความคืบหน้าแอปพลิเคชัน'ทางรัฐ' ขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลดิจิทัล รวมศูนย์บริการภาครัฐไว้แหล่งเดียว ให้ประชาชนเข้าถึงสะดวก ปัจจุบันขยายขอบเขตให้บริการแล้วกว่า 45 รายการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.2564 น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าของการเปิดใช้งานแอปพลิเคชัน 'ทางรัฐ' ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มกลางที่รวบรวมการให้บริการของภาครัฐที่สำคัญไว้เป็นแหล่งเดียวผ่านสมาร์ทโฟน เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน ครอบคลุมการค้นหาข้อมูลและรับบริการภาครัฐ การยื่นคําขอ จองคิว ตรวจสอบสิทธิ ร้องเรียน ชําระเงิน ตลอดจนบริการข้อมูลและคําปรึกษา โดยปัจจุบันครอบคลุมการให้บริการกว่า 45 รายการแล้ว เช่น การตรวจสอบสิทธิประกันสังคม ทะเบียนราษฎร์ ข้อมูลเครดิตบูโร สิทธิหลักประกันสุขภาพ และบริการจ่ายค่าน้ำค่าไฟ
ทั้งนี้แอปพลิเคชันทางรัฐได้ดำเนินการภายใต้แผนแม่บทพอร์ทัลกลางเพื่อประชาชนระยะ 3 ปี (Citizen Portal Roadmap) ซึ่งขณะนี้อยู่ในระยะที่ 2 หรือระยะเติมเต็ม หมายถึง การขยายขอบเขตการให้บริการให้ครอบคลุมยิ่งขึ้นกว่าในระยะที่ 1 โดยจากด้านสิทธิและสวัสดิการจะขยายออกไปให้ครอบคลุมถึงด้านงานบริการยอดนิยม อาทิ ภาษีที่ดิน ภาษีรถยนต์ การขอป้ายทะเบียน และการขึ้นทะเบียนเกษตรกร
แผนแม่บทพอร์ทัลกลางเพื่อประชาชนระยะ 3 ปี (Citizen Portal Roadmap) แบ่งเป็น 3 ระยะ ได้แก่
-
ระยะเริ่มต้น (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564) การให้บริการจะครอบคลุมเกี่ยวกับสิทธิและสวัสดิการ เช่น เงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด สิทธิประกันสังคม เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ลงทะเบียนทาบัตรประจาตัวคนพิการ เงินเบี้ยความพิการ
-
ระยะเติมเต็ม (ปีงบประมาณ พ.ศ.2565) การให้บริการจะขยายขอบเขตมากยิ่งขึ้น ครอบคลุมถึงเรื่องงานบริการยอดนิยม รวมทั้งสิ้น 60 บริการ เช่น ภาษีท่ีดิน ภาษีรถยนต์ ขอป้ายทะเบียนรถ การขึ้นทะเบียนเกษตรกร
-
ระยะต่อยอด ( ปีงบประมาณ พ.ศ.2566) การให้บริการจะขยายขอบเขตมากยิ่งขึ้นอีก ครอบคลุมถึงเรื่องงานบริการเฉพาะทางได้แก่ การเงินและภาษี การเดินทาง ความมั่นคงปลอดภัย ที่อยู่อาศัยและที่ดิน การทำงาน การเกษตร การศึกษา สิทธิพลเมือง ทะเบียนราษฎร สิ่งแวดล้อม สิทธิและสวัสดิการขั้นพื้นฐาน รวมทั้งสิ้น 60 รายการ เช่น การแจ้งเกิด ข้อมูลทางด่วนแก้หนี้ การขอเงินทุนกู้ยืมเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนด้านการเกษตร การหางานสำหรับคนพิการ การจองเลขทะเบียนรถยนต์ และการขอความช่วยเหลือคนไทยในต่างแดน
น.ส.รัชดา กล่าวเพิ่มเติมว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมให้ความสำคัญกับการพัฒนาแอปพลิเคชันดังกล่าว และเน้นย้ำถึงการรับฟังเสียงของประชาชนในการรับบริการภาครัฐประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเรื่องการขาดการบูรณาทางข้อมูลระหว่างหน่วยงานรัฐ การต้องเตรียมหรือรวบรวมเอกสารจำนวนมาก และการไม่ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิหรือสวัสดิการที่ตนเองพึงได้รับ และเพื่อเป็นการพัฒนาการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนอย่างสูงสุดอย่างต่อเนื่อง สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล อยู่ระหว่างการจัดทำและรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับ ร่างแผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัล พ.ศ. 2566-2570 ซึ่งจะครอบคลุม 6 ด้าน ประกอบด้วย การศึกษา สุขภาพและการแพทย์ การเกษตร ความเหลื่อมล้ำทางสิทธิสวัสดิการประชาชน การมีส่วนร่วมและตรวจสอบได้โดยประชาชน และการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) เพื่อวางแผนการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลที่ตอบสนองความต้องการและประโยชน์ของประชาชนต่อไป