นักศึกษานิติศาสตร์ มธ. ร้องสภาฯ ถูกเลือกปฏิบัติ หลังสำนักฝึกอบรมวิชาว่าความฯ ไม่อนุญาตให้แต่งกายในชุดผู้หญิงตามเพศสภาพ แม้จะศัลยกรรมหน้าอก-ผ่าตัดแปลงเพศแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 2564 นายชิษณ์ชาภา พานิช นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ ปริญญาโท มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พร้อมด้วย นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.พรรคก้าวไกล ยื่นหนังสือต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่านนายแทนคุณ จิตต์อิสระ เลขานุการคณะทำงานทางการเมืองของประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม กรณีการถูกเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งเพศ
นายชิษณ์ชาภา กล่าวว่า ตนกำลังศึกษาอยู่ในชั้นเนติบัญญัติ มีความประสงค์จะเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่ตัวเอง เป็นหญิงข้ามเพศ และเป็นผู้ได้รับความเสียหายจากการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ จากสำนักฝึกอบรมวิชาว่าความแห่งสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์
ขณะที่ยื่นเอกสารสมัคร เจ้าหน้าที่สำนักฝึกอบรมแจ้งว่า สำนักฝึกอบรมวิชาว่าความฯ ไม่อนุญาตให้แต่งกายในชุดผู้หญิงตามเพศสภาพ แม้จะได้ศัลยกรรมหน้าอกและผ่าตัดแปลงเพศแล้วก็ตาม เพราะตามระเบียบการสอบข้อเขียนของสำนักฝึกอบรมว่าความฯ กำหนดว่าให้อยู่ในดุลยพินิจของกรรมการควบคุมการสอบ
หากมีความประสงค์จะแต่งกายตามเพศสภาพจะต้องทำหนังสือขออนุญาตแต่งกายเป็นหญิงเพื่อเข้าสอบยื่นต่อผู้อำนวยการสำนักฝึกอบรมวิชาว่าความ โดยให้อธิบายความจำเป็นว่าเหตุใดจึงต้องการแต่งกายเป็นหญิง พร้อมแนบใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลที่แปลงเพศและติดรูปในปัจจุบันมาด้วย เพื่อจะนำเรื่องเข้าที่ประชุมและพิจารณาว่าจะอนุญาตหรือไม่ต่อไป มิฉะนั้น จะถูกตัดคะแนนจากข้อสอบข้อเขียนที่ทำได้ อันทำให้ได้รับหรือจะได้รับความเสียหาย
นายชิษณ์ชาภา กล่าวด้วยว่า จึงได้ทำการยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการวินิจฉัยการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ (วลพ.) โดยอาศัยอำนาจตาม พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 และสภาทนายความก็ได้ยื่นคำให้การปฏิเสธและขอให้คณะกรรมการ วลพ. ยกคำร้อง ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค. 64 แต่จวบจนปัจจุบัน คณะกรรมการ วลพ. ก็ยังไม่อาจทำคำวินิจฉัยเป็นเหตุให้ไม่อาจทราบได้แน่ชัดเลยว่าคำวินิจฉัยจะเสร็จสิ้นและประกาศให้ทราบได้เมื่อใด เพราะหากวินิจฉัยไม่ทันวันสอบวิชาว่าความที่สภาทนายความจะประกาศในเร็วๆ นี้ ก็ย่อมเดือดร้อน และได้รับความเสียหายยิ่งๆ ขึ้นไปอีก จึงหวังว่าประธานสภาฯ จะให้ความเป็นธรรมในเรื่องนี้ได้