'อนุชา' เผยถึงการประชุมหารือแนวทางแก้ไขร่างประกาศสัญญาเช่าซื้อ หลังเอกชนยื่นหนังสือถึงนายกฯเหตุกฎหมายใหม่กระทบธุรกิจหนัก ล่าสุดยันยังไม่ประกาศใช้ กำชับทาง สคบ.นำข้อเสนอทุกภาคส่วนมาพิจารณาอย่างถี่ถ้วน เพื่อปรับปรุงให้สมดุลและเป็นธรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 26 พ.ย.2564 เวลา 13.30 น. นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม จากกรณีที่สมาคมธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ไทยมีหนังสือถึงรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อขอเข้าหารือแนวทางการแก้ไข ปรับปรุง เพิ่มเติมประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่องให้ธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์และจักรยานยนต์เป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา พ.ศ.2561 โดยมีนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดศรีสะเกษ นายอนุรุทธิ์ นาคาศัย ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศุภกิตต์ มะลิ ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านสัญญา ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ผู้แทนสมาคมธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ไทย ผู้แทนสมาคมผู้ประกอบการรถจักรยานยนต์ไทย ผู้แทนสมาคมธุรกิจเช่าซื้อไทย ผู้แทนสมาคมธนาคารไทย และผู้แทนสมาคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เข้าร่วม
สำหรับการประชุมหารือในครั้งนี้ เกิดจากข้อกังวลของทางสมาคมฯ ต่อ (ร่าง) ประกาศของคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่องให้ธุรกิจให้เช่าซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถแทรกเตอร์ และเครื่องจักรกลการเกษตร เป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา พ.ศ. ... ซึ่งออกโดยคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา สคบ. และได้จัดทำประชาพิจารณ์ (ร่าง) ประกาศดังกล่าว ระหว่างวันที่ 8 ต.ค. – 7 พ.ย. 2564 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยภาคเอกชนมีข้อกังวลเรื่องการกำหนดเพดานอัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อที่อัตรา 15% มาตรการคืนรถจบหนี้ มาตรการให้ส่วนลดไม่น้อยกว่า 50% ของมูลค่าหนี้ส่วนที่ขาด (ติ่งหนี้) และมาตรการให้ส่วนลดไม่น้อยกว่า 80% ของดอกเบี้ยที่ยังไม่ถึงกำหนดในกรณีปิดบัญชี ซึ่งมาตรการดังกล่าวอาจส่งผลกระทบรุนแรงต่อผู้ประกอบการ
นายอนุชา กล่าวอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีความห่วงใยทุกภาคส่วน รวมถึงภาคธุรกิจการค้าที่เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งนี้ (ร่าง) ประกาศดังกล่าวที่ภาคเอกชนมีข้อกังวล ยังคงอยู่ในส่วนของการรับฟังความคิดเห็นจากภาคประชาชน หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน ยังไม่มีการประกาศใช้ ซึ่งข้อเสนอแนะและแนวทางที่ได้หารือในวันนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณาจัดทำ (ร่าง) ประกาศ เพื่อให้เกิดความสมดุลทุกฝ่าย พร้อมกันนี้ได้กำชับทาง สคบ.ให้นำข้อเสนอแนะทุกภาคส่วนมาพิจารณาอย่างถี่ถ้วน เพื่อความเป็นธรรม
พร้อมกันนี้ นายอนุชา ได้ขอความร่วมมือให้ทางสมาคมฯ คำนึงถึงภาคการเกษตร ที่ซึ่งเป็นกำลังซื้อหลักของประเทศ หากภาคเกษตรไม่มีเงินทุน การค้าขายในภาพรวมก็จะฝืดเคือง และขอให้ภาคเอกชนคำนึงถึงความยากลำบากของประชาชนระดับรากหญ้า ขอให้เห็นใจซึ่งกันและกันในเชิงสังคมมากกว่าธุรกิจ เพื่อช่วยผ่อนคลายภาระหนี้ภาคครัวเรือนที่น่ากังวลในสถานการณ์เช่นนี้ ยืนยันทุกเรื่องที่มีผลกระทบต่อภาคธุรกิจ ต่อประชาชน รัฐบาลจะพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจดำเนินการ
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage