‘แบงก์ชาติ’ เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อลงทุน FOREX ชี้มักเป็นการหลวงลวง-มีลักษณะคล้ายแชร์ลูกโซ่ ขณะที่ 'ก.ล.ต.' เตือนระวังลงทุน 'สินทรัพย์ดิจิทัล' กับผู้ประกอบธุรกิจฯที่ไม่ได้รับอนุญาต ไม่ได้รับความคุ้มครองตามกม.-เสี่ยงถูกลวงข้อมูล
..............................
เมื่อวันที่ 15 ต.ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวัง อย่าหลงเชื่อการชักชวนให้ลงทุนซื้อขายเงินตราต่างประเทศ หรือเก็งกำไรอัตราแลกเปลี่ยน (FOREX) โดยอ้างว่าจะได้ผลตอบแทนที่ดี เพราะการชักชนให้ลงทุนดังกล่าวมักเป็นการหลอกลวง และมีลักษณะคล้ายแชร์ลูกโซ่ที่ไม่มีการทำธุรกรรมเงินตราต่างประเทศจริง ซึ่งนอกจากธุรกิจดังกล่าวจะผิดกฎหมายแล้ว ประชาชนยังมีความเสี่ยงที่จะไม่ได้รับเงินคืนด้วย
นางอลิศรา มหาสันทนะ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธปท. กล่าวว่า ตาม พ.ร.บ.ควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน การทำธุรกรรมเงินตราต่างประเทศ ประชาชนจะต้องทำกับธุรกิจที่ได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเท่านั้น และปัจจุบันยังไม่เคยให้ใบอนุญาตแก่บุคคลหรือ นิติบุคคลที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์หรือบริษัทหลักทรัพย์ ในการซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเพื่อการลงทุนแต่อย่างใด
“การประกอบธุรกิจหรือมีส่วนร่วมกับการประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ FOREX ในประเทศไทย โดยไม่ได้รับอนุญาต เช่น การให้บริการรับ-ส่งเงินเพื่อให้ประชาชนทำธุรกรรมหรือเพื่อชำระเงินในธุรกรรม FOREX บนเว็บไซต์ ทั้งในและต่างประเทศ มีความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน ขณะที่บุคคลที่โฆษณาหรือเชิญชวนให้ประชาชนเข้ามาซื้อขายเงินตราต่างประเทศ หรือ FOREX กับตน โดยไม่ได้รับอนุญาต อาจมีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนด้วย” นางอลิศรากล่าว
ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัย โปรดสอบถาม ฝ่ายนโยบายและกำกับการแลกเปลี่ยนเงิน ธปท. โทร 02-3567799 หรือ ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธปท. โทร 1213
ด้าน น.ส.รื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า ก.ล.ต. ขอเตือนประชาชนและผู้ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลให้ระมัดระวังการซื้อขาย แลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล รับฝาก โอน ถอนเงิน หรือทำธุรกรรมที่เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลกับผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัลฯ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลจากต่างประเทศ เนื่องจากจะไม่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงที่จะถูกหลอกลวง (scam) อีกด้วย
“ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นธุรกิจที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลตามพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 (พ.ร.ก. สินทรัพย์ดิจิทัลฯ) ผู้ที่ให้บริการซื้อขาย แลกเปลี่ยน รับฝาก โอน ถอนเงิน หรือทำธุรกรรมที่เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลในไทย ต้องเป็นบุคคลที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายดังกล่าว โดยผู้ที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามอาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย” น.ส.รื่นวดี ระบุ
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 2 ก.ค.2564 ก.ล.ต. ได้กล่าวโทษ Binance ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลจากต่างประเทศ กรณีให้บริการที่เข้าข่ายเป็นการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลโดยไม่ได้รับใบอนุญาต อันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 26 แห่ง พ.ร.ก. ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลฯ
สำหรับผู้สนใจสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับใบอนุญาตได้ที่ www.sec.or.th หัวข้อ สินทรัพย์ดิจิทัล หรือทางแอปพลิเคชัน “SEC Check First” และหากมีข้อสอบถามหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับการดำเนินการที่น่าสงสัย โปรดแจ้งที่ “ศูนย์บริการประชาชน ก.ล.ต.” โทร. 1207 หรือผ่านช่องทางเฟซบุ๊กเพจ “สำนักงาน กลต.” หรือ SEC Live Chat ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต. เพื่อการตรวจสอบในเชิงลึก
ในกรณีที่ตรวจพบว่ามีการกระทำอันเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.ก. สินทรัพย์ดิจิทัลฯ อาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งมีโทษทั้งจำคุกและปรับ และหากเข้าข่ายการกระทำที่อาจผิดกฎหมายอื่น ก.ล.ต. มีกระบวนการในการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการต่อไป
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage