กอนช.ออกประกาศเตือน กทม.-ปทุมธานี-นนทบุรี ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มสูงอีก 30-50 ซม. ช่วง 7-10 ต.ค.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 5 ก.ย.2564 กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) โพสต์ข้อมูลผ่านเฟซบุ๊ก กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ออกประกาศฉบับที่ 19 เตือน 3 จังหวัดริมแม่น้ำเจ้าพระยา เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มสูงอีก 30-50 เซนติเมตร ระบุว่า จากอิทธิพลของพายุโซนร้อน 'เตี้ยนหมู่' ส่งผลให้ในช่วงวันที่ 23 – 25 ก.ย. 2564 บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนตกเป็นบริเวณกว้างประกอบกับมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และหนักมากบางแห่ง ทำให้มีปริมาณน้ำท่าจากลุ่มน้ำปิง วัง ยม และน่าน ไหลลงสู่ลุ่มน้ำเจ้าพระยามากขึ้น ส่งผลกระทบให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่
กอนช.ติดตามสถานการณ์น้ำแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสักพบว่าเมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2564 ปริมาณน้ำหลากจากตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยาได้ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในอัตรา 2,775 – 2,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และเมื่อวันที่ 2 ต.ค. 2564 ปริมาณน้ำหลากสูงสุดจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ได้ไหลผ่านเขื่อนพระรามหกสูงสุดในอัตรา 762 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
คาดว่าในวันที่ 5 ต.ค. 2564 ปริมาณน้ำจะไหลหลากรวมกันผ่าน อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในเกณฑ์สูงสุด 3,050 - 3,150 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยจะไหลออกสู่อ่าวไทย ในช่วงวันที่ 7– 10 ต.ค. 2564 ประกอบกับในช่วงเวลาดังกล่าว เกิดสภาวะน้ำทะเลหนุนสูง คาดว่าจะส่งผลให้ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นจากเดิม 30 - 50 เซนติเมตร โดยพื้นที่ที่ควรเฝ้าระวังประกอบด้วย
1. จังหวัดปทุมธานี บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกแนวคันกั้นน้ำริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
2. จังหวัดนนทบุรี บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกแนวคันกั้นน้ำริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
3. กรุงเทพมหานคร บริเวณพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา โดยระดับน้ำที่เพิ่มขึ้นจะไม่ส่งผลกระทบให้ระดับน้ำล้นคันป้องกันน้ำริมแม่น้ำของกรุงเทพมหานคร ยกเว้นบริเวณที่ไม่มีระบบคันป้องกันริมแม่น้ำ
ในการนี้ กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโปรดดำเนินการ ดังนี้
1. ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด ตรวจสอบความมั่นคงอาคารป้องกันน้ำริมแม่น้ำ เสริมคันกั้นน้ำบริเวณจุดเสี่ยงที่มีระดับคันป้องกันน้ำต่ำ และบริเวณที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ
2. ประชาสัมพันธ์ข้อมูลและแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมน้ำทราบล่วงหน้า
3. เตรียมเครื่องจักรเครื่องมือเพื่อบูรณาการความพร้อม ในการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนได้ทันที
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่https://www.facebook.com/isranewsfanpage