"...สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่มีบุตรหลานในวัยเรียนต่อกรณี “การฉีดวัคซีนให้กับเยาวชนอายุ 12-17 ปี” พบว่า ประชาชนที่มีบุตรหลานพร้อมให้บุตรหลานไปฉีดวัคซีน ร้อยละ 61.43 เรื่องที่เป็นห่วงคืออาการข้างเคียงหลังฉีด ร้อยละ 77.59..."
..........................
สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่มีบุตรหลานในวัยเรียนต่อกรณี “การฉีดวัคซีนให้กับเยาวชนอายุ 12-17 ปี” จำนวนทั้งสิ้น 1,089 คน ระหว่างวันที่ 27-30 กันยายน 2564 พบว่า ประชาชนที่มีบุตรหลานพร้อมให้บุตรหลานไปฉีดวัคซีน ร้อยละ 61.43 ขอรอดูก่อน ร้อยละ 26.17 และไม่พร้อม ร้อยละ 12.40 โดยเชื่อมั่นต่อประสิทธิภาพของวัคซีน ร้อยละ 64.72 คิดว่าการฉีดวัคซีนมีผลดีมากกว่าผลเสีย ร้อยละ 46.74 มีทั้งผลดีและผลเสียพอ ๆ กัน ร้อยละ 40.96 เรื่องที่เป็นห่วงคืออาการข้างเคียงหลังฉีด ร้อยละ 77.59 ทั้งนี้อยากให้จัดการฉีดวัคซีนให้ ที่โรงเรียน ร้อยละ 64.13 และเห็นด้วยกับการฉีดวัคซีนเพื่อให้เปิดเรียนได้ตามปกติ ร้อยละ 75.44
ผู้ปกครองพร้อมให้บุตรหลานเข้ารับการฉีดวัคซีนถึงแม้ยังกังวลเรื่องผลข้างเคียง โดยคาดว่าจะช่วยให้บุตรหลานสามารถไปโรงเรียนได้อย่างปลอดภัย อีกทั้งยังช่วยลดระดับความเครียดของผู้ปกครองในการดูแลบุตรหลานที่บ้านอีกด้วย แต่เมื่อเปรียบเทียบกับผลโพลในต่างประเทศ พบว่าผู้ปกครองยังไม่พร้อมมากนักเพราะยังกังวลผลในระยะยาว วัคซีนสำหรับเด็กอาจเป็นตัวเปลี่ยนสถานการณ์โควิด-19 ได้ และเด็กทุกคนรวมถึงเด็กที่หลุดจากระบบการศึกษาไปแล้วก็ควรได้รับสิทธิในการฉีดวัคซีน ซึ่งการฉีดวัคซีนที่ป้องกันสายพันธุ์เดลต้าได้จะเป็นกุญแจสำคัญสำหรับการฟื้นฟูด้านการศึกษาและเศรษฐกิจของประเทศ
จากผลการสำรวจพบว่าประชาชนมีความพร้อมที่จะให้บุตรหลานเข้ารับวัคซีน อาจเนื่องจากความเชื่อมั่นในการป้องกันอาการรุนแรงจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ประกอบกับข้อมูลที่พบว่าหลายประเทศได้เริ่มมีการฉีดให้กับเด็กในวัยนี้ จึงทำให้เห็นว่ามีผลดีมากกว่าผลเสีย โดยเฉพาะเรื่องการเปิดโรงเรียนเพื่อเรียนได้ตามปกติ แต่อย่างไรก็ตามจากผลการสำรวจพบว่า ประชาชนยังกังวลเกี่ยวกับอาการข้างเคียงของการได้รับวัคซีน เนื่องจากข้อมูลเกี่ยวกับผลข้างเคียงที่จะเกิดในเด็กที่ได้รับวัคซีนแล้ว อาจยังมีค่อนข้างน้อย และสำหรับประเทศไทยเพิ่งเริ่มต้นในการฉีดวัคซีนให้กับเด็กกลุ่มนี้ ข้อมูลยังไม่เพียงพอที่จะทำให้ประชาชนมั่นใจหรือลดความเป็นห่วง ทั้งนี้การสร้างการรับรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับประโยชน์ของการฉีดวัคซีน รวมถึงวิธีการปฏิบัติตัวก่อนและหลังรับวัคซีน และข้อมูลเกี่ยวกับอาการข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นหลังจากได้รับวัคซีน จากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ เช่น กระทรวงสาธารณสุข กรมควบคุมโรค เป็นต้น จะช่วยลดความกังวลลงได้