อ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร จ.นครราชสีมา ระบายน้ำฉุกเฉิน แจ้งประชาชน 8 อำเภออยู่ในภาวะเสี่ยงอันตรายสูง ติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิด ประสานท้องถิ่นติดตั้งเครื่องสูบน้ำจุดสำคัญทางเศรษฐกิจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 26 ก.ย.2564 เวลา 19.17 น. สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครราชสีมา แจ้งเตือนการระบายน้ำ อ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร (ตอนล่าง) ฉบับที่ 2 ระบุว่า ด้วยกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครราชสีมา ได้รับแจ้งจากโครงการชลประทานนครราชสีมาว่าเนื่องจากปริมาณน้ำจากลำเชียงไกร ตอนบน และลำน้ำสาขามีปริมาณเป็นจำนวนมาก และได้ระบายลง อ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร ตอนล่าง จึงมีความจำเป็นต้องเพิ่มการระบายน้ำเป็นจำนวนมาก โดยข้อมูล ณ เวลา 14.09 น. วันที่ 26 ก.ย.2564 ระบายน้ำลงลำน้ำเดิม 66.43 ลบ.ม. ระบายน้ำผ่านอาคาร ระบายน้ำฉุกเฉิน 101.72 ลบ.ม. รวมการระบายน้ำ 168.15 ลบ.ม. ส่งผลให้ระดับน้ำในลำเชียงไกร และลำน้ำสาขา มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น และจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำริมสองฝังลำน้ำ และพื้นที่ริมตลิ่ง
กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครราชสีมา พิจารณาแล้วขอให้ดำเนินการ ดังนี้
1.ให้อำเภอด้านท้ายอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร ได้แก่ อ.โนนไทย อ.พระทองคำ อ.เมืองนครราชสีมา อ.โนนสูง อ.พิมาย อ.ชุมพวง อ.ลำทะเมนชัย และอำเภอเมืองยาง แจ้งเตือนประชาชนให้ทราบถึงสถานการณ์อยู่ในภาวะเสี่ยงอันตรายสูง เจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการควบคุมสถานการณ์ให้อพยพไปยังสถานที่ปลอดภัย ในระดับสีส้ม โดยเฉพาะประชาชนที่อยู่ริมน้ำและที่ลุ่มต่ำให้เก็บทรัพย์สินสิ่งของจำเป็นขึ้นไว้ที่สูงกว่าที่เคย ระวังติดตามมวลน้ำไหลเชี่ยวแรง ดูแลเด็กเล็กและคนชรา ผู้ป่วยติดเตียง
2.ประสานท้องถิ่น ติดตั้งเครื่องสูบน้ำในจุดสำคัญทางเศรษฐกิจ จัดหาและสนับสนุนกระสอบทราย ให้กับประชาชนเพื่อปิดกั้นน้ำเข้าบ้านเรือนและพื้นที่สำคัญ จัดรถกระจายข่าวแจ้งเตือนประชาชนให้ทั่วถึง และจัดกำลังเจ้าหน้าที่ ประสานกำลังพลสนับสนุนการอพยพประชาชนไปยังศูนย์พักพิงที่เตรียมไว้ล่วงหน้า จัดตั้งโรงครัว หรือครัวพระราชทาน เพื่อดูแลผู้ได้รับผลกระทบและเจ้าหน้าที่
3.ให้ความสำคัญในการแจ้งให้พี่น้องประชาชนได้รับรู้อย่างทั่วถึง ขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสาร และปฏิบัติตามคำแนะนำของทางราชการอย่างใกล้ชิด
4.กรณีการอพยพประชาชน ขอให้ไม่ต้องห่วงทรัพย์สิน ควรให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในชีวิต และความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น
5.ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครอง จะมีการจัดชุดลาดตระเวนตรวจตรา ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันผู้ฉกฉวยโอกาสขโมยทรัพย์สิน
6. รายงานสถานการณ์ และผลการดำเนินการ ตามแบบรายงานเหตุด่วนสาธารณภัยพร้อมภาพถ่ายให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครราชสีมาทราบทันที จนกว่าสถานการณ์จะสิ้นสุด
ขณะที่ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำพระเพลิง ต.ตะขบ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา มีหนังสือแจ้งเตือนประชาชน เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำในคลองธรรมชาติลำพระเพลิง ลำสำลาย และลำซอ ซึ่งปัจจุบันมีระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ซ และใกล้ถึงระดับเก็บกักหรือ 90%
ทั้งนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำที่อาจจะไหลล้นผ่านอาคารระบายน้ำล้นเขื่อนลำพระเพลิงลงสู่คลองธรรมชาติ จึงขอแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมคลองธรรมชาติลำพระเพลิง ลำสำลาย ลำซอ ในเขตพื้นที่ ตำบลตะขบ, ลำนางแก้ว, บ่อปลาทอง, สุขเกษม, ตูม, งิ้ว, นกออก, เกษมทรัพย์, ดอน, โคกไทย, ตะคุ, เมืองปัก อำเภอปักธงชัย และตำบลพลับพลา, ท่าลาดขาว, กระโทก อำเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำในคลองธรรมชาติลำพระเพลิง ลำสำลาย ลำซอ อย่างใกล้ชิดต่อไป
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage