"...สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อกรณี “สมุนไพรไทย” ในสายตาคนไทย พบว่า ร้อยละ 45.39 พอเชื่อบ้างว่าฟ้าทะลายโจรใช้รักษาโรคโควิด-19 ได้..."
........................
สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อกรณี “สมุนไพรไทย” ในสายตาคนไทย กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,428 คน สำรวจระหว่างวันที่ 13-16 กันยายน 2564 พบว่า สมุนไพรที่ส่วนใหญ่รู้จัก คือ กระเทียม ร้อยละ 92.96 รองลงมาคือ ตะไคร้ ร้อยละ 92.89 และฟ้าทะลายโจร ร้อยละ 92.61 โดยประชาชนพอจะมีความรู้เรื่องสมุนไพรไทยบ้าง ร้อยะ 82.22 จากการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้มีความรู้เรื่องสมุนไพรเพิ่มขึ้น ร้อยละ 86.24 และเชื่อว่าสมุนไพรสร้างภูมิคุ้มกันต้านโรคได้ ร้อยละ 59.48 ทั้งนี้ร้อยละ 45.39 พอเชื่อบ้างว่าฟ้าทะลายโจรใช้รักษาโรค โควิด-19 ได้ สิ่งที่อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ คือ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับประโยชน์และโทษ ร้อยละ 83.35 และบอกสรรพคุณที่ชัดเจนของสมุนไพร ร้อยละ 80.82
สมุนไพรไทยเป็นที่ต้องการทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศใช้ในอุตสาหกรรมยา อาหารเสริม เครื่องสำอาง และธุรกิจสปา เป็นต้น โดยผลโพลพบว่ากลุ่มคนอายุ 40 ปีขึ้นไปนั้นมีความสนใจเรื่องสมุนไพรมากกว่ากลุ่มอื่น ๆ อีกด้วย จึงนับเป็นโอกาสทองของอุตสาหกรรมสมุนไพรไทยที่จะส่งเสริมและเร่งพัฒนาให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคให้มากยิ่งขึ้น
สมุนไพรไทยมีหลากหลายชนิด นำมาใช้ประกอบอาหารทำให้มีรสชาติและกลิ่นที่น่ารับประทาน เช่น กระเทียม ตะไคร้ หอมแดง กระเพรา ขิง ขมิ้น และอื่นๆ ซึ่งคนไทยบริโภคเป็นประจำ แต่ไม่รู้สรรพคุณทางยาของสมุนไพร การระบาดของโรคโควิด-19 ครั้งนี้ ช่วยทำให้คนไทยหันมาสนใจสมุนไพรมากขึ้น เห็นได้จากผลสำรวจของสวนดุสิตโพล การระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้คนไทยมีความรู้เรื่องสมุนไพรเพิ่มขึ้น และมีความต้องการใช้สมุนไพรเพิ่มอย่างมาก จนทำให้ ฟ้าทะลายโจรขาดตลาดในช่วงที่ผ่านมา การระบาดของโรคโควิด-19 เกิดขึ้นทั่วโลก จึงมีทั้งคนไทยและคนต่างชาติ ที่ต้องการยารักษาโรคได้ สมุนไพรเป็นทางเลือกในการค้นหายาตัวใหม่ที่ใช้รักษาโรค ดังนั้น ภาครัฐและเอกชนควรเร่ง ในการส่งเสริมการพัฒนายาจากสมุนไพรอย่างครบวงจร นอกจากนี้สมุนไพรยังสามารถถูกแปรรูปเป็นอาหารเสริมผลิตประเภทเครื่องดื่ม และผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางหรือเวชสำอาง ซึ่งเป็นการต่อยอดเชิงพาณิชย์ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ