ครม.อนุมัติ ‘ธอส.’ ปล่อยเดินหน้าโครงการ ‘สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแห่งรัฐ’ หรือ 'บ้านล้านหลัง' เฟส 2 วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท 4 ปีแรกคิดดอกเบี้ยคงที่ 1.99% ต่อปี เปิดยื่นกู้ 10 ก.ย.นี้
.......................
เมื่อวันที่ 7 ก.ย. ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบโครงการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแห่งรัฐ หรือโครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 2 ของธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) กรอบวงเงิน 20,000 ล้านบาท ซึ่งโครงการระยะดังกล่าวจะมีการผ่อนปรนเงื่อนไขในการปล่อยสินเชื่อ ทั้งในแง่เกณฑ์ของรายได้ของผู้กู้ และลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เหลือ 1.99% ในช่วง 4 ปีแรก จากโครงการบ้านล้านหลังระยะที่ 1 ที่กำหนดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปีแรกที่ 3%
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธอส. กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบโครงการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแห่งรัฐ หรือโครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 2 กรอบวงเงินรวม 20,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยที่ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อในระบบสถาบันการเงิน เพื่อให้ผู้ที่เริ่มต้นทำงานเพื่อสร้างครอบครัว และผู้สูงอายุ มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองได้ง่ายขึ้น
สำหรับโครงการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแห่งรัฐ เป็นการปล่อยสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำและผ่อนปรนเงื่อนไข สำหรับซื้อที่อยู่อาศัยในระดับราคาซื้อ-ขายไม่เกิน 1,200,000 บาท ทั้งบ้านใหม่ บ้านมือสอง และทรัพย์ NPA ของ ธอส. คิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 4 ปีแรกเท่ากับ 1.99% ต่อปี ปีที่ 5-7 เท่ากับ MRR -2% ต่อปี และปีที่ 8 ถึงตลอดอายุสัญญา กรณีลูกค้ารายย่อยทั่วไป เท่ากับ MRR -0.75% ต่อปี กรณีลูกค้าสวัสดิการ เท่ากับ MRR -1% ต่อปี และกรณีกู้เพื่อซื้ออุปกรณ์ฯ อัตราดอกเบี้ย MRR (ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR ของธนาคารอยู่ที่ 6.150% ต่อปี)
ทั้งนี้ สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแห่งรัฐดังกล่าวให้ผ่อนชำระได้นานสูงสุด 40 ปี โดยกรณีกู้ 1,200,000 บาท กำหนดผ่อนชำระคงที่งวดละ 5,000 บาท จำนวน 84 งวดแรก (7 ปี)
นอกจากนี้ ธอส.ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการมีบ้านให้กับลูกค้าด้วยการยกเว้นค่าธรรมเนียม 4 ประเภท ประกอบด้วย 1.ค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ (0.1% ของวงเงินกู้) 2.ค่าประเมินราคาหลักประกัน (1,900-2,300 บาท) 3.ค่าจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม (1,000 บาท ต่อราย) และ 4.ค่าจดทะเบียนนิติกรรมจำนอง (1% ของวงเงินจำนอง)
(ที่มา : โครงการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแห่งรัฐ มติครม.วันที่ 7 ก.ย.2564)
นายฉัตรชัย ระบุว่า เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสให้ผู้มีรายได้น้อยได้มีบ้านเป็นของตนเอง ธอส. จึงได้ผ่อนปรนเงื่อนไขสำหรับลูกค้า โดยธนาคารเปิดให้นำหลักฐานการชำระค่าเช่าบ้าน หรือผ่อนชำระเงินดาวน์บ้านไม่น้อยกว่า 12 เดือนมาใช้ประกอบการพิจารณาสินเชื่อ หากไม่สามารถแสดงหลักฐานที่มาของรายได้ให้ธนาคารพิจารณาได้ ให้ลูกค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ Financial Literacy และออมอย่างสม่ำเสมอไม่น้อยกว่าเงินงวดผ่อนชำระเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 9 เดือน เพื่อใช้เป็นหลักฐานการพิจารณาสินเชื่อกับธนาคารได้ต่อไป
สำหรับลูกค้าที่สนใจสามารถรับรหัสเข้าร่วมโครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 2 ได้พร้อมกันทั่วประเทศตั้งแต่ วันศุกร์ที่ 10 กันยายน 2564 เวลา 9.00 น. เป็นต้นไป เพียงดาวน์โหลด Mobile Application : GHB ALL และกดลงทะเบียนเพื่อรับรหัสเข้าร่วมโครงการ เมื่อทำตามขั้นตอนครบถ้วนแล้วลูกค้าจะได้รับรหัส 9 ตัวทาง GHB Buddy บน Application Line (ตัวอักษร 3 ตัว และตัวเลข 6 ตัว)เพื่อนำมาแสดงในการยื่นขอสินเชื่อตั้งแต่วันศุกร์ที่ 10 ก.ย.2564 เป็นต้นไป และทำนิติกรรมได้ภายในวันที่ 30 ธ.ค.2566 หรือ ก่อนเต็มกรอบวงเงินของโครงการ
ก่อนหน้านี้ ธอส.ได้ดำเนินโครงการบ้านล้านหลัง ตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค.2562 ภายใต้กรอบวงเงินสินเชื่อสำหรับลูกค้ารายย่อย (Post Finance) รวม 50,000 ล้านบาท ให้กู้ซื้อที่อยู่อาศัยราคาซื้อ-ขายไม่เกิน 1,000,000 บาท และเมื่อวันที่ 16 มิ.ย.2563 ครม. เห็นชอบให้ปรับราคาซื้อขายและวงเงินกู้เป็นไม่เกิน 1,200,000 บาท กรณีรายได้ไม่เกิน 25,000 บาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5 ปีแรก 3.00% ต่อปี กรณีรายได้เกิน 25,000 บาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปีแรก 3.00% ต่อปี
ล่าสุด ณ วันที่ 5 ก.ย.2564 มีลูกค้าได้รับอนุมัติสินเชื่อแล้ว 53,000 ราย วงเงินรวมกว่า 40,000 ล้านบาท ขณะที่สินเชื่อเพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย (Pre Finance) ของโครงการบ้านล้านหลัง ได้ทำให้มีที่อยู่อาศัยใหม่ในระดับราคาซื้อขายไม่เกิน 1,200,00 บาท ให้กับประชาชนได้เลือกซื้อเพิ่มขึ้นกว่า 3,500 หน่วย โดยมีผู้ประกอบการได้รับอนุมัติสินเชื่อแล้ว 9 โครงการ วงเงินสินเชื่อกว่า 946 ล้านบาท และอยู่ระหว่างพิจารณาอนุมัติ 3 โครงการ วงเงินสินเชื่อ 439 ล้านบาท
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage