รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาความไม่เท่าเทียมระหว่างเพศ หนุนส่งเสริมให้สังคมปรับหลักคิด-ความเข้าใจ เผยรับร้องเรียนแล้ว 61 เรื่อง ส่วนใหญ่เกี่ยวกับการจำกัดสิทธิการแต่งกาย-ไว้ทรงผมตามเพศสภาพ
--------------------------------------------
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 26 ส.ค.2564 น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ (สทพ.) ซึ่งมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ที่ประชุมมีมติเห็นชอบแผนปฏิบัติการและการใช้จ่ายงบประมาณของกองทุนส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ ประจำปีงบประมาณ 2565 จำนวน 7.3 ล้านบาท ประกอบด้วยสี่แผนงาน คือ 1) การขจัดการเลือกปฏิบัติและความไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ 2) การสร้างความตระหนักเรื่องความเท่าเทียมระหว่างเพศในสังคม 3) การสนับสนุนโครงการเพื่อส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศการบริหาร และ 4) กองทุนส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ
นายจุรินทร์ ยังได้ติดตามเรื่องการดำเนินการวินิจฉัยเรื่องร้องเรียนที่เกียวกับการเลือกปฏิบัติ/ความไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ ซึ่งขณะนี้ ระเบียบใหม่ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการในการยื่นคำร้อง การพิจารณาและการวินิจฉัยการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ ได้มีผลบังคับใช้แล้ว โดยคณะกรรมการวินิจฉัยการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ (วลพ.) ต้องดำเนินการวินิจฉัยเรื่องร้องเรียนให้แล้วเสร็จภายใน 96 วัน นับแต่วันรับเรื่อง จากเดิมที่ไม่มีกำหนดระยะเวลา ทำให้ผู้เสียหายได้รับการเยียวยาที่ล่าช้าจึงเกิดความไม่เป็นธรรม
ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมา มีเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมการ วลพ. จำนวน 61 เรื่อง โดยมาก เกี่ยวข้องกับ การจำกัดสิทธิการแต่งกายและไว้ทรงผมตามเพศสภาพ ในการเข้าเรียน การสอบวัดผล การฝึกปฏิบัติงาน การเข้าอบรมวิชาชีพ การแต่งกายชุดครุยวิทยฐานะเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร
น.ส.รัชดา กล่าวด้วยว่า คณะกรรมการฯ ส่งเสริมให้สังคมปรับหลักคิด มีความเข้าใจ และตระหนักในความสำคัญของความเท่าเทียมระหว่างเพศ เพราะจะเป็นการสร้างความเท่าเทียมในสังคมให้เกิดขึ้นได้อย่างแท้จริง และได้ดำเนินการผลักดันนโยบายให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในองค์กร ส่งเสริมให้องค์กรมีนโยบาย กฏระเบียบ และกลไกต่างๆที่เอื้อต่อการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage