หลายเครือข่ายใน 34 จังหวัด นัดชุมนุม 'คาร์ม็อบ' จัดกิจกรรมไล่ 'บิ๊กตู่' เฉพาะพื้นที่ กทม.นัดหมายเคลื่อนขบวนไปหน้าบ้านนายกฯ ก่อนเจ้าหน้าที่ใช้แก๊สน้ำตา-กระสุนยาง กระชับพื้นที่ ตำรวจสั่งรวบรวมพยานหลักฐาน เบื้องต้นพบผิดอย่างน้อย 6 ข้อหา
-----------------------------------------------------
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 1 ส.ค.2564 เวลา 13.10 น. เครือข่ายประชาชนในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ นัดจัดกิจกรรมคาร์ม็อบ (Car Mob) เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในการขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม
โดยนอกจากพื้นที่ กทม. แล้ว เฟซบุ๊ก iLaw รวบรวมการนัดหมายจัดกิจกรรมคาร์ม็อบ 1 ส.ค. ที่มีการชุมนุมรวม 34 จังหวัด ดังนี้ กทม. ปทุมธานี นครปฐม สมุทรสงคราม สมุทรสาคร ชลบุรี ระยอง นครนายก พระนครศรีอยุะยา ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี นครสวรรค์ พิจิตร กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ ลำปาง ลำพูน แพร่ เชียงราย เชียงใหม่ กาญจนบุรี ตาก ชัยภูมิ นครราชสีมา ขอนแก่น สกลนคร อุดรธานี อุบลราชธานี สุรินทร์ สุราษฎร์ธานี ตรัง นครศรีธรรมราช ยะลา
สำหรับเฉพาะพื้นที่ กทม. มีการนัดจัดกิจกรรมจากหลากหลายกลุ่ม ก่อนที่จะพร้อมใจกันเดินทางมาที่ถนนวิภาวดีรังสิต บริเวณ กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ (ร.1 ทม.รอ.) ซึ่งเป็นบ้านพักของนายกรัฐมนตรี ประกอบด้วย กลุ่มราษฎรทะลุฟ้า และแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ตั้งขบวนที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย , กลุ่มนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เดินทางมาจากแยกราชประสงค์ , กลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอก เดินทางจากถนนสีลมซอย 2 , กลุ่มไทยไม่ททน เดินทางจากหน้าปั๊มน้ำมัน ปตท.เลียบด่วนรามอินทรา , กลุ่มนายสมบัติ บุญงามอนงค์ เดินทางจากประตู 6 สนามบินดอนเมือง รวมไปถึงกลุ่มเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี ที่เดินทางมาร่วมสมทบที่ถนนวิภาวดีรังสิตด้วยเช่นกัน
เมื่อเวลา 16.00 น. ผู้ชุมนุมคาร์ม็อบได้เคลื่อนขบวนมาถึงบริเวณถนนวิภาวดีรังสิต ฝั่งขาออก โดยตำรวจได้นำแผงเหล็ก กรวยจราจร และแบริเออร์ มาปิดช่องทางการจราจรไว้บางส่วน ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ปิดการเจรจาบางส่วน บริเวณหน้าโรงพยาบาลทหารผ่านศึกไปจนถึงหน้า ร.1 ทม.รอ. นอกจากนี้ยังมีติดตั้งตู้คอนเทนเนอร์พร้อมลวดหนามไว้บางส่วน ส่งผลให้การจราจรบริเวณดังกล่าวติดขัด สามารถเคลื่อนตัวได้อย่างช้าๆ
ต่อมา ขบวนรถแกนนำเริ่มเคลื่อนที่เข้าใกล้บ้านพักนายกรัฐมนตรี โดย นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน แกนนำกลุ่มราษฎร เรียกร้องให้ร่วมกันบีบแตรไล่นายกรัฐมนตรี พร้อมแจ้งมวลชนให้ห้ามส่งเสียงดังและงดบีบแตรบริเวณหน้าโรงพยาบาลทหารผ่านศึกด้วย
กระทั่งเวลา 17.30 น. ตำรวจควบคุมฝูงชน นำกำลังประมาณ 1 กองร้อย พร้อมด้วยรถฉีดน้ำแรงดันสูง 3 คัน รถน้ำ 2 คัน รถบรรทุกควบคุมผู้ต้องหา 2 คัน เข้ากระชับพื้นที่ ขณะที่ผู้ชุมนุมข้ามฝั่งไปหลบบริเวณถนนวิภาวดีฝั่งขาเข้ามุ่งหน้าแยกดินแดง พร้อมขว้างปาสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่ ก่อนมีเสียงดังคล้ายวัตถุระเบิดดังขึ้นหลายครั้ง เจ้าหน้าที่ฉีดจึงยิงแก๊สน้ำตา พร้อมยิงกระสุนยางตอบโต้ผู้ชุมนุม
ต่อมาเวลา 17.45 น.ผู้ปราศรัยกลุ่มไทยไม่ทน ประกาศว่า การชุมนุมวันนี้ต้องการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ไม่ต้องการใช้ความรุนแรง ขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ยุติการใช้ความรุนแรง โดยขอให้เจ้าหน้าที่หยุดใช้แก๊สน้ำตา แล้วจะประกาศสลายการชุมนุมทันที อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะยุติการชุมนุมแล้ว แต่ยังมีมวลชนบางส่วนปักหลักอยู่ในพื้นที่ จนเกิดเหตุปะทะกับเจ้าหน้าที่อีกครั้ง
เมื่อเวลา 20.30 น. พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) แถลงสรุปสถานการณ์ ว่า กลุ่มหมู่บ้านทะลุฟ้า, กลุ่มประชาชนคนไทย, เครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี, กลุ่มคนไทยไม่ทน สามัคคีประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ได้นัดหมายชุมนุมตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา พร้อมเคลื่อนขบวนมาที่บริเวณ ร.1 ทม.รอ. จนขบวนกลุ่มผู้ชุมนุมมาถึงบริเวณถนนวิภาวดีรังสิต ฝั่งขาออก ทำให้เกิดการจราจรติดขัด ใช้เครื่องขยายเสียง บีบแตร ทำให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญ ตำรวจได้ประชาสัมพันธ์ ประกาศเตือนให้หยุดการกระทำที่ผิดกฎหมายดังกล่าว โดยให้เลิกและยุติกิจกรรม แต่กลุ่มผู้ชุมนุมไม่หยุดการกระทำ ยังมีการใช้ลูกแก้ว ลูกหิน ปะทัด ระเบิดเพลิง ระเบิดควัน ยิ่งใส่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่บริเวณดังกล่าว เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย ตำรวจจึงจำเป็นต้องใช้มาตรการผลักดันกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อเปิดการจราจรได้สำเร็จเมื่อเวลา 20.00 น.
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวด้วยว่า ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล สั่งการให้สถานีตำรวจที่เกี่ยวข้องรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกลุ่มผู้กระทำผิด โดยให้ดำเนินคดีตามความผิดที่เกิดขึ้นทุกราย โดยเบื้องต้นการกระทำดังกล่าว มีส่วนที่จะมีการกระทำผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน , พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ , พ.ร.บ.จราจรทางบก , พ.ร.บ.การใช้เครื่องขยายเสียง ตลอดจนประมวลกฎหมายอาญามาตรา 215 และมาตรา 216 กรณีที่สมคบกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปก่อความไม่สงบเรียบร้อยในบ้านเมือง และเจ้าหน้าที่สั่งให้ยุติกลับไม่ดำเนินการตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ ซึ่งการดำเนินการสอบสวนดำเนินคดี คงจะต้องดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวอีกว่า เบื้องต้นตำรวจควบคุมตัวผู้กระทำผิด นำตัวส่งพนักงานสอบสวน 3 ราย เพื่อดำเนินคดีต่อไป
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/