บช.น.รายงานผลการจับกุมผู้ต้องหาม็อบปลดแอก-แนวร่วมกลุ่มราษฎร 18 ก.ค. รวม 16 ราย โดน 4 คดี สร้างความปั่นป่วนกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน-ทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน-ทำกิจกรรมเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค พบปาประทัดยักษ์ใส่ ตร. ยึดมีด-หัวน๊อต ด้วย 'พล.ต.ต.ปิยะ' ยันทำตามขั้นตอน ประกาศเตือนผู้ชุมนุมตลอดเวลา
...................................................................
เมื่อวันที่ 19 ก.ค. 2564 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. เปิดเผยว่า การสลายการชุมนุมเมื่อวานนี้ (18 ก.ค. 2564) ตำรวจทำตามยุทธวิธีทุกขั้นตอน โดยมี ผบช.น. เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจลุกลามและขยายตัวมากขึ้น โดยตลอดการชุมนุมตำรวจได้แจ้งประกาศเตือนผู้ชุมนุมตลอดเวลา ส่วนแก๊สน้ำตาที่ใช้วานนี้นั้น เป็นไปตามมาตรฐานสากล แต่ที่หลายคนรู้สึกแสบตามผิวหนังและตามจุดต่าง ๆ นั้น คาดว่าพื้นที่บริเวณแยกพาณิชยการเป็นจุดอับลม เมื่อใช้แก๊สน้ำตาจึงมีประสิทธิภาพมากขึ้น ขณะที่การจับกุมแกนนำและผู้เข้าร่วมชุมนุมนั้น สามารถจับกุมได้ทั้งหมด 16 คน เป็นการ์ด 14 ราย และ อีก 2 ราย เป็นผู้จุดเพลิงเผาหุ่นฟาง อีกทั้งตำรวจยังสามารถจับกุมนายธนเดช ศรีสงคราม หรือม่อน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี กรณีก่อความวุ่นวายที่หน้ากระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 16 ก.ค. 2564 ที่ผ่านมาด้วย
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวด้วยว่า สำหรับการชุมนุมครั้งนี้มีผู้กระทำความผิดอีกหลายราย จะถูกออกหมายจับ ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานและพิสูจน์ตัวบุคคลที่กระทำความผิด โดยเชื่อว่ามีจำนวนมากกว่า 10 ราย เหตุการณ์นี้ทำให้มีตำรวจได้รับบาดเจ็บ 8 นาย ยังรักษาตัวที่โรงพยาบาล 6 นาย คาดว่ามีอาการกระดูกข้อเท้าแตก ส่วนอีก 2 นาย รักษาตัวต่อที่บ้าน ส่วนผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บกี่รายนั้นยังไม่ได้รับรายงาน
บช.น. ยังเผยแพร่รายงานการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับและกลุ่มผู้ชุมนุมเมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2564 จำนวน 4 คดี ผู้ต้องหารวม 16 คน ดังนี้ คดีที่ 1 เวลาประมาณ 20.30 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน กก.สส.2 บก.สส.บช.น. พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.คฝ.2 บก.อคฝ.บช.น. เเละเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน กก.สส.ภ.จว.นนทบุรี ได้ร่วมกันจับกุม ผู้ต้องหา จำนวน 1 ราย คือ นายธนเดช หรือม่อน อายุ 36 ปี ตามหมายจับ ศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 336/2564 ลงวันที่ 18 ก.ค.64 ในข้อหา “ร่วมกันกระทำให้ปรากฏเเก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใด อันมิใช่เป็นการกระทำในความมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อเเสดงความเห็นหรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายเเผ่นดิน, ร่วมกันทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายสาหัส, มั่วสุมตั้งแต่ 10 คน ขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ยว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองโดยมีอาวุธ, ฝ่าฝืนข้อกำหนดออกตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน, ร่วมกันต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้าย”
พฤติการณ์ เจ้าหน้าชุดจับกุมสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าว จะมาร่วมการชุมนุมในวันที่ 18 ก.ค.64 ที่อนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย (ท้องที่ สน.สำราญราษฎร์) จึงได้ทำการติดตามตัวผู้ต้องหา โดยพบว่าผู้ต้องหาเดินทางมาพร้อมกับกลุ่มเพื่อน โดยใช้รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ ฟอร์ด สีเทาดำ ทะเบียน 1 ฒว 3479 กรุงเทพฯ มาจากอนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย ร่วมเดินขบวนกับผู้ชุมนุมมายังเเยกนางเลิ้ง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ออกติดตามเรื่อยมา จนภายหลังมาถึงถนนพหลโยธิน ใกล้ สน.บางเขน ผู้ต้องหาได้หยุดรถ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เข้าทำการจับกุมผู้ต้องหา ควบคุมตัวมายัง สน.บางเขน เพื่อทำบันทึกจับกุม นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย และได้ควบคุมตัวไปยัง ตชด.ภาค 1 ซึ่งเป็นที่ทำการสอบสวน ทำการสอบสวนต่อไป
คดีที่ 2 เวลาประมาณ 20.30 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน กก.สส.2 บก.สส.บช.น. พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.คฝ.2 บก.อคฝ.บช.น. ได้ร่วมกันจับกุมนายชัยยุทธ อายุ 27 ปี พร้อมพวกรวม 11 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นเยาวชน อายุ 15-18 ปี โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันชุมนุมหรือทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค ในพื้นที่ที่มีการประกาศหรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด อันเป็นการฝ่าฝืนข้อกำหนออกตามความใน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ” พร้อมด้วยของกลางของกลางที่ทำการตรวจยึด ตรวจยึดทรัพย์สินจาก นายชัยยุทธ อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาเป็น รถยนต์กระบะ ยี่ห้อฟอร์ด สีเทาดำ หมายเลขทะเบียน 1ฒว-3479 กรุงเทพมหานคร พร้อมกุญแจรถ และได้ทำการตรวจยึดทรัพย์สินภายในรถคันดังกล่าว คือหนังสติ๊ก จำนวน 14 อัน ลูกแก้ว จำนวน 70 ลูก มีดยาวประมาณ 1 ฟุต จำนวน 1 เล่ม มีดพับจำนวน 1 เล่ม หมวกกันน๊อคจำนวน 4 ใบ หน้ากากกันแก๊สจำนวน 4 แว่นตานิรภัยจำนวน 4 อัน
พฤติการณ์ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบสวนติดตามจับกุม นายธนเดช หรือม่อน ศรีสงคราม ตามหมายจับของศาลจังหวัดนนทบุรีที่ 336/2564 ลงวันที่ 18 ก.ค. 64 ต่อมาทราบว่าผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าว จะมาร่วมการชุมนุมในวันที่ 18 ก.ค.64 ที่อนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย (ท้องที่ สน.สำราญราษฎร์) จึงได้ทำการติดตามตัวผู้ต้องหา โดยพบว่านายธนเดชฯ เดินทางมาพร้อมกับผู้ต้องหาทั้ง 11 คน โดยใช้รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ ฟอร์ด สีเทาดำ ทะเบียน 1 ฒว 3479 กรุงเทพฯ มาจากอนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย และร่วมเดินขบวนกับผู้ชุมนุมมายังเเยกนางเลิ้ง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ออกติดตามเรื่อยมา จนภายหลังมาถึงถนนพหลโยธิน ใกล้ สน.บางเขน รถยนต์คันดังกล่าวของผู้ต้องหาได้หยุดรถ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เข้าทำการจับกุมผู้ต้องหา ควบคุมตัวมายัง สน.บางเขน เพื่อทำบันทึกจับกุม โดยผู้ต้องหาทั้ง 11 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมพบพฤติการณ์การกระทำความผิดซึ่งหน้า กรณีเข้าร่วมชุมนุมโดยผิดกฎหมายจึงได้ทำการจับกุม เพื่อนำส่งพนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎ์ ซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่เนื่องจากได้รับแจ้งจากพนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎ์ ว่า กลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วน เดินทางเข้าไปยังที่ สน.สำราญราษฎ์ เกรงว่าจะมีการปิดล้อม และกดดัน ให้ปล่อยตัวผู้ต้องหา และอาจมีการก่อเหตุร้ายขึ้น จึงขอให้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปส่ง ที่ บก.ตชด.ภาค 1 ซึ่งได้ขอไว้เป็นที่ทำการของพนักงานสอบสวน
คดีที่ 3 เวลาประมาณ 20.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สปพ. ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 2 ราย คือ นายนิเวศ หรือเล็ก อายุ 47 ปี และน.ส.กชมน หรือแฮปปี้ อายุ 21 ปี โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันชุมนุมหรือทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค ในพื้นที่ที่มีการประกาศหรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด อันเป็นการฝ่าฝืนข้อกำหนออกตามความใน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ” และเพิ่มเติมผู้ต้องหาที่ 1 ในข้อหา “พาอาวุธ(มีด)ไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร” อีกข้อหาหนึ่ง ของกลางที่ทำการตรวจยึด อาวุธมีด ขนาดยาว 1 ฟุต จำนวน 2 เล่ม หัวน๊อต จำนวน 26 อัน รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีเทา ติดแผ่นป้ายทะเบียน ผค-1043 เพชรบูรณ์
พฤติการณ์ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับในการชุมนุมวันนี้ว่า ผู้ต้องหาทั้งสองเดินทางออกจากที่พักเพื่อมาร่วมทำการชุมนุมกับ นายธนเดช หรือม่อน จึงได้ทำการติดตามตัวจนกระทั่งเวลาประมาณ 16.30 น. พบนายนิเวศ หรือเล็ก และ น.ส.กชมน หรือแฮปปี้ ลงจากแท๊กซี่ บริเวณหน้าโรงเรียนสตรีวิทยา ซึ่งใกล้กับอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยจุดที่มีการชุมนุม และมีการรวมกลุ่มกับนายธนเดช หรือม่อน ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนนทบุรีที่ 336/2564 ลงวันที่ 18 ก.ค.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมที่เฝ้าติดตามอย่างกระชั้นชิดตลอดเวลา จนเวลาประมาณ 18.50 น. ผู้ต้องหาทั้งสองคนเดินมาที่รถยนต์ของนายธนเดช หรือม่อน ที่จอดทิ้งไว้ใกล้บริเวณวัดบวรนิเวศ และขับออกไป เจ้าหน้าที่ได้ทำการติดตามจนกระทั่งมาจับกุมได้ที่บริเวณหน้าวัดอัมพวัน ต.บางเมือง อ.บางใหญ่ จว.นนทบุรี และได้ทำการตรวจค้นรถยนต์คันดังกล่าวของที่ผู้ต้องหาทั้งสองขับขี่มา ผลการตรวจค้นพบของกลางรายการดังกล่าวข้างต้น จึงทำการตรวจยึดไว้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมตรวจยึดของกลาง เพื่อนำส่ง บก.ตชด.ภาค 1 ซึ่งได้ขอไว้เป็นที่ทำการของพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
คดีที่ 4 เวลาประมาณ 20.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ร้อย คฝ.บก.น.2 ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 2 ราย คือ นายทนงศักดิ์ อายุ 28 ปีนายสุพล อายุ อายุ 51 ปี โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันชุมนุมหรือทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค ในพื้นที่ที่มีการประกาศหรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด อันเป็นการฝ่าฝืนข้อกำหนออกตามความใน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ” จับกุมตัวที่บริเวณแยกยมราช เนื่องจากเป็นผู้จุดพลุดอกไม้ไฟ และประทัดยักษ์ใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ นำตัวส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมาย
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/