กลุ่มอาชีพธุรกิจกลางคืน-บันเทิง พร้อมด้วยศิลปิน นักร้องหลายวง เดินทางยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน และพรรคร่วมรัฐบาลด้วย เรียกร้อง 8 ข้อ เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ จี้คลายล็อกเปิดบริการได้ 1 ส.ค.64
............................................
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 1 ก.ค.2564 สมาพันธ์ผู้ประกอบอาชีพธุรกิจกลางคืน และธุรกิจบันเทิงแห่งประเทศไทย นำโดย นายนนทเดช บูรณะสิทธิพร ตัวแทนชมรมผู้ประกอบการสถานบันเทิง ผับ บาร์ และนายธัญญ์นิธิ ปภัสสุรีย์โชติ ตัวแทนชมรมคนดนตรีแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยศิลปินนักร้องหลากหลายวง อาทิ Slot Machine, Tattoo colour, Cocktail, Safeplanet เดินทางไปยื่นหนังสือเปิดผนึกเพื่อทวงถามและพิจารณาร่วมกันหาทางออก กรณีการขอมาตรการผ่อนปรน และมาตรการเยียวยา ให้กับกลุ่มผู้ประกอบการอาชีพธุรกิจกลางคืนและธุรกิจบันเทิง ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด ต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ถึงการพิจารณาข้อเรียกร้องที่ได้ยื่นไปถึง 4 ครั้ง พร้อมทั้งได้ยื่นให้กับ ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน และพรรคร่วมรัฐบาล
โดย นายธัญญ์นิธิ กล่าวว่า จากประกาศของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) ในการควบคุมการระบาดของโรคโควิด ส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้ประกอบการธุรกิจกลางคืน และธุรกิจบันเทิงทั้งหมด ซึ่งไม่ได้กระทบเพียงเจ้าของกิจการ แต่ยังส่งผลถึงพนักงาน ลูกจ้าง และกลุ่มนักดนตรีอิสระ ที่รับค่าจ้างแบบรายวัน ซึ่งที่ผ่านมายังมีผู้ได้รับผลกระทบที่ไม่สามารถเข้าถึงการเยียวยาจากภาครัฐได้ครบถ้วน
ขณะที่ นายนนทเดช กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาเราเป็นกลุ่มคนที่ถูกทอดทิ้งในการขอความช่วยเหลือจากทุกที่ แต่ทางสมาพันธ์ผู้ประกอบอาชีพธุรกิจกลางคืนฯ พยายามทุกวิถีทาง เพื่อให้เราไม่ตายหมู่ กว่า 250 วัน ที่เราถูกให้ตกงานไม่มีรายได้ ไม่ได้รับการเยียวยา เราอยู่กับโควิด มานานมาก เราไม่อยากให้ใครฆ่าตัวตาย หรือทิ้งใครไว้ข้างหลังอีกแล้ว วันนี้เราพร้อมที่จะหารือ และหาทางออกร่วมกับผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายเพื่อแก้ปัญหา ซึ่งทางสมาพันธ์ผู้ประกอบอาชีพธุรกิจกลางคืนฯ ได้ยื่นข้อเรียกร้อง ดังนี้
1.ขอให้ยกเลิกคำสั่งปิดสถานบันเทิงแบบเหมารวม
2.ขอให้มีคำสั่งปลดล็อกให้ธุรกิจกลางคืน และธุรกิจบันเทิง ได้กลับมาเปิดบริการ และสามารถจัดกิจกรรมต่างๆได้ภายในวันที่ 1 ส.ค.2564 หรือกำหนดระยะเวลาที่ชัดเจนในการอนุญาตให้กลับมาประกอบกิจการ และอาชีพได้อีกครั้ง
3.ผ่อนปรนให้สามารถขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อบริโภคในร้านได้
4.ผ่อนปรนให้มีการจัดมหรสพ โดยให้คงการปฏิบัติตามมาตรการคำสั่งของ ศบค. เพื่อรักษามาตรฐานการควบคุมโรค
5.พิจารณาจัดสรรวัคซีนให้ผู้ประกอบการ ผู้ให้บริการ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับสถานประกอบการธุรกิจกลางคืน และธุรกิจบันเทิงโดยเร็วที่สุด
6.ให้มีนโยบายที่ชัดเจนเรื่องการเยียวยา การพักชำระหนี้ และการกู้ยืมดอกเบี้ยต่ำ ต่อผู้เดือดร้อนตั้งแต่การออกคำสั่งครั้งแรก เมื่อวันที่ 18 มี.ค.2563
7.เปิดโอกาสให้ภาคเอกชน หรือประชาชนในกลุ่มภาคธุรกิจที่ได้รับความเดือดร้อน เข้าร่วมรับฟัง และเสนอแนะ ในกระบวนการออกมาตรการต่างๆ
8.เปิดช่องทางการสื่อสาร เพื่อรับฟังความคิดเห็น และความต้องการของประชาชนที่เดือดร้อน
ด้าน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวหลังรับหนังสือด้วยว่า ผู้ประกอบการธุรกิจกลางคืน และธุรกิจบันเทิง เป็นกลุ่มคนที่ได้รับความเดือดร้อนจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิดในทุกรอบ และเป็นอาชีพที่ค่อนข้างหนักกว่าคนอื่น เพราะถูกปิดก่อนแต่เปิดทีหลัง และการประกอบอาชีพอิสระบางครั้งไม่ได้อยู่ในระบบ จึงเข้าไม่ถึงการเยียวยา ดังนั้น การที่เขากลั้นหายใจนานกว่าคนอื่น จึงเป็นสิ่งที่รัฐบาลควรให้ความสนใจ
ขณะเดียวกัน นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้ให้ความสำคัญกับความเดือดร้อนในช่วงวิกฤติโควิดของกลุ่มอาชีพอิสระ ผู้ประกอบการธุรกิจกลางคืน บันเทิง มาโดยตลอด โดยก่อนหน้านี้ได้พาตัวแทนสมาพันธ์ฯ เข้าพบนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศปก. ศบค.) และดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อยื่นจดหมายเปิดผนึกข้อเรียกร้องแล้ว
"ที่ผ่านมาทาง ศบค. กระทรวงคลัง และสํานักนายกฯ ยังไม่มีมาตรการที่เหมาะสมออกมา โดยมาตราการที่ได้ประกาศออกมาแล้วนั้น ไม่มากเพียงพอ และยังมีอีกหลายกลุ่มอาชีพอิสระตกหล่น ทำให้วันนี้ทางสมาพันธ์ฯ ต้องมายื่นจดหมายเปิดผนึกเพื่อทวงถามความคืบหน้าของมาตรการต่างๆ ผ่านพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ยินดีรับจดหมายดังกล่าวเอาไว้ และจะผลักดันให้เกิดมาตรการช่วยเหลือโดยเร็ว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน" นายปริญญ์ กล่าว
อ้างอิงข่าวจาก: ไทยโพสต์ และ เดลินิวส์
ภาพจาก: สมาพันธ์ผู้ประกอบอาชีพธุรกิจกลางคืน และธุรกิจบันเทิงแห่งประเทศไทย
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/