"...เป็นที่น่าสนใจว่า คณะกรรมการบริหารพรรคที่ได้รับคะแนนมากที่สุดคือ ‘พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ’ รองนายกรัฐมนตรี ได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรค 582 คะแนน ส่วนคณะกรรมการบริหารพรรคที่ได้รับคะแนนน้อยที่สุด คือ ‘สุชาติ ชมกลิ่น’ รมว.แรงงาน จำนวน 491 คะแนน..."
------------------------------------------------------
เป็นไปตามคาด! สำหรับการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ครั้งที่ 1/2564 ของพรรคพลังประชารัฐ ที่มีวาระสำคัญจากการเปลี่ยนแปลงรายชื่อกรรมการบริหารพรรค โดยเฉพาะ ‘เลขาธิการพรรค คนที่ 3’
รายชื่อในตำแหน่งสำคัญ ยังเป็นคนหน้าเดิม ยกเว้น ‘เลขาธิการพรรค’ ที่เป็นของ ‘ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า’ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ตามที่มีกระแสข่าวก่อนหน้านี้
สำหรับโครงสร้างใหม่ที่มีการปรับลดจำนวนกรรมการบริหารพรรค จาก 27 คน เหลือ 26 คน ปรากฏชื่อผู้ดำรงตำแหน่ง ดังต่อไปนี้
นอกจากนั้น ก่อนที่จะมีการลงมติเลือกคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ บรรยากาศการประชุมครั้งนี้ยังปรากฏให้เห็นความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจหลายประการด้วยกัน
@ ‘บิ๊กป้อม’ลาออก เปิดทางเลือก กก.บห.ชุดใหม่
นอกเหนือจากวาระปกติ เกี่ยวกับการรายงานผลการดำเนินการประจำปี และงบดุลพรรค ‘บุญสิงห์ วรินทร์รักษ์’ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะนายทะเบียนพรรค ได้แจ้งที่ประชุมว่า ‘พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ’ รองนายกรัฐมนตรี ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 18 มิ.ย.2564 เป็นต้นไป และตามข้อบังคับพรรคข้อที่ 15 ส่งผลให้คณะกรรมการบริหารพรรคต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งหมด ทำให้ต้องมีการลงมติ
ทั้งนี้ ‘ไพบูลย์ นิติตะวัน’ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค ได้เป็นผู้เสนอให้ปรับลดจำนวนกรรมการบริหารพรรคจาก 27 คนเหลือ 26 คน พร้อมเป็นผู้เสนอชื่อ 4 ตำแหน่งสำคัญด้วยตนเอง คือ หัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค เหรัญญิกพรรค และนายทะเบียนพรรค
ส่วนกรรมการบริหารพรรคอีก 22 คน ถูกเสนอชื่อโดย ‘เอกราช ช่างเหลา’ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ผู้เป็นเจ้าถิ่น-เจ้าภาพจัดการประชุมที่ จ.ขอนแก่น
@ ชงชื่อ 'อนุชา' ชิงเลขาฯ ก่อนถอนตัว
สำหรับตำแหน่ง ‘เลขาธิการพรรคคนที่ 3’ มีผู้เสนอชื่อชิงตำแหน่ง 2 คน ดังนี้
‘ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า’ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ถูกเสนอชื่อโดย ‘ไพบูลย์ นิติตะวัน’ ส.ส.บัญชีรายชื่อ
‘อนุชา นาคาศัย’ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ถูกเสนอชื่อ ‘ชูศักดิ์ คีรีมาศทอง’ ส.ส.สุโขทัย
อย่างไรก็ตาม ‘อนุชา’ ได้ลุกขึ้นแจ้งต่อที่ประชุม เพื่อขอถอนตัวการชิงตำแหน่งครั้งนี้ พร้อมบอกว่า "ผมทำหน้าที่เลขาธิการพรรคมาแล้ว 1 ปีกว่า จากนี้ขอถอนตัว และเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้เข้ามาทำงาน"
@ กก.บห.ชุดใหม่ ‘สุชาติ’ ได้รับความไว้วางใจน้อยสุด
สำหรับการลงคะแนนเลือกกรรมการบริหารพรรคครั้งนี้ ใช้วิธีหย่อนบัตรลงคะแนน โดยมีเสียงจาก ส.ส. ตัวแทนภาค และสมาชิกพรรคที่เดินทางมาจาก จ.ขอนแก่น และ จ.นครราชสีมา
เป็นที่น่าสนใจว่า คณะกรรมการบริหารพรรคที่ได้รับคะแนนมากที่สุดคือ ‘พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ’ รองนายกรัฐมนตรี ได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรค 582 คะแนน
ส่วนคณะกรรมการบริหารพรรคที่ได้รับคะแนนน้อยที่สุด คือ ‘สุชาติ ชมกลิ่น’ รมว.แรงงาน จำนวน 491 คะแนน
@ ‘สันติ-วิรัช-สุริยะ-ไพบูลย์’ นั่งรองหัวหน้าพรรค
ในช่วงท้ายของการประชุม ‘วิรัช รัตนเศรษฐ’ แจ้งว่า ‘พล.อ.ประวิตร’ ใช้อำนาจหัวหน้าพรรคในการเลือกรองหัวหน้าพรรค 4 ตำแหน่ง เพื่อให้รายชื่อที่ถูกแต่งตั้ง ถูกบันทึกไว้ในรายงานการประชุมทันที
สำหรับรองหัวหน้าพรรค 4 คน ประกอบด้วย นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง , นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ , นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม และ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ
@กรรมการสรรหา ส.ส. ไร้ชื่อ 'กลุ่มสามมิตร'
วันเดียวกันนี้ ที่ประชุมยังลงมติเลือกคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง 11 คน โดยมีสัดส่วนจากคณะกรรมการบริหารพรรค 4 คน และผู้ที่มาจากสมาชิกพรรค 7 คน โดยมีรายชื่อ ดังนี้
ผู้ที่มาจากคณะกรรมการบริหารพรรค 4 คน ได้แก่ 1.ร.อ.ธรรมนัส พหรมเผ่า ได้รับเลือก 438 คะแนน 2.นายยงยุทธ สุวรรณบุตร ได้รับเลือก 419 คะแนน 3.นายจักรพันธ์ พรนิมิต ได้รับเลือก 424 คะแนน 4.นายรงค์ บุญสวยขวัญ ได้รับเลือก 424 คะแนน
ผู้ที่มาจากสมาชิกพรรค 7 คน ได้แก่ 1.น.ส.ตรีนุช เทียนทอง ได้รับเลือก 434 คะแนน 2.นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ ได้รับเลือก 437 คะแนน 3.นายจีรเดช ศรีวิราช ได้รับเลือก 424 คะแนน 4.นายสิระ เจนจาคะ ได้รับเลือก 418 คะแนน 5.นายสมศักดิ์ คุณเงิน ได้รับเลือก 431 คะแนน 6.พล.อ.สมชาย วิษณุวงศ์ ได้รับเลือก 430 คะแนน 7.นายวันชัย ปริญญาศิริ ได้รับเลือก 423 คะแนน
จากนั้นนายวิรัช รัตนเศรษฐ ได้แจ้งในที่ประชุม ว่า เพื่อให้การแต่งตั้งรองหัวหน้าพรรคทั้งหมดอยู่ในบันทึกการประชุมครั้งนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ใช้อำนาจหัวหน้าพรรคในการแต่งตั้ง นายสันติ พร้อมพัฒน์ ,นายวิรัช รัตนเศรษฐ ,นายไพบูลย์ นิติตะวัน และ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ให้เป็นรองหัวหน้าพรรคและจากนั้นนายวิรัชได้กล่าวปิดประชุม
@ ‘สามมิตร’ ปัดเสียดุลอำนาจ เหน็บหัวหน้า-เลขาฯเข้าขากันดี
หลังจากที่มีการเสนอชื่อและให้ผู้เข้าร่วมประชุมได้ออกเสียงลงคะแนนโหวตเลือกคณะกรรมการบริหารพรรค ทั้ง 26 ตำแหน่ง
เป็นที่น่าสนใจว่า ระหว่างการนับคะแนน ‘กลุ่มสามมิตร’ นำโดย ‘สมศักดิ์ – สุริยะ – อนุชา’ พร้อมด้วย ส.ส.จำนวนหนึ่ง ได้เดินทางกลับในทันที
นายสมศักดิ์ ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางกลับว่า ขอแสดงความยินดี กับคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ที่มี พล.อ.ประวิตร เป็นหัวหน้าพรรค และมี ร.อ.ธรรมนัส เป็นเลขาธิการพรรค ตนขอแสดงความรู้สึกว่า การทำงานพรรคการเมือง หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคต้องเข้าขากันและไปในทิศทางเดียวกัน และเชื่อว่าพรรคพลังประชารัฐจะเป็นเช่นนั้น
"ผมเชื่อว่าการที่หัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรคสนิทสนมกันมากๆ ก็จะทำให้งานบางส่วนที่อยากจะทำเดินไปได้ด้วยดี ก็ไม่มีอะไรมากมาย ซึ่งผมก็จะให้ความร่วมมือและทำงานตามแนวทางของพรรค" นายสมศักดิ์ กล่าว
เมื่อถามว่า ร.อ.ธรรมนัส จะทำงานขับเคลื่อนการเลือกตั้งได้ดีกว่านายอนุชา หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ก็เป็นความหวังของพรรคที่จะต้องได้รับความนิยมจากพี่น้องประชาชน จะไปพูดถึงอนาคตอันไกลคงไม่ได้ ซึ่งในส่วนงานของพรรคที่รับผิดชอบอยู่ในแต่ละกระทรวง ก็ต้องทำให้ดีที่สุด เพราะเราเหลือเวลาอีก 1 ปี กับอีก 9 เดือน ที่จะหมดเวลาของรัฐบาล
เมื่อถามว่าหน้าฉากมีภาพของความยินดีแต่เบื้องหลังภายในพรรคเองก็มีกลุ่มก้อนกันอยู่หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนั้นเป็นเรื่องที่อยู่เบื้องหลัง ตนไม่ทราบ แต่สำหรับตนนั้นทำงานเต็มที่ไม่มีวันหยุด ทำงานตามที่ได้รับมอบหมายในกระทรวง ทั้งเรื่องเรือนจำความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกฎหมายที่จะออกมาใหม่ๆ และเรื่องการปราบปรามยาเสพติด
เมื่อถามว่าจะมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า คงยังไม่ปรับ ครม. เร็ว ๆ นี้ หากดูจากสถานการณ์ ทั้งนี้รัฐมนตรีเองก็มีหน้าที่ทำงานให้เต็มที่ ส่วนกระแสข่าวว่าจะมีการยุบโควต้ากลุ่มสามมิตรนั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า "ก็ไม่เป็นไรเป็นเรื่องของอนาคต ก็ว่ากันไป"
เมื่อถามว่ารู้สึกอย่างไรที่ต้องเสียดุลอำนาจในพรรค พปชร.หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า "ยังไม่ได้เสียดุลอำนาจอะไรไป เราก็มีปากมีเสียงมีแนวทางในการวิพากษ์วิจารณ์ เพราะหัวหน้าพรรคฟังทุกคนและรักอยู่แล้ว หัวหน้าพรรคตัดสินใจปรับเปลี่ยนแล้ว ก็ขึ้นอยู่กับหัวหน้าพรรค เพราะเราให้ความไว้วางใจกับหัวหน้าพรรค หัวหน้าพรรคก็ต้องขับเคลื่อนไปด้วยความตั้งใจ ซึ่งเรายอมรับและยินดีที่จะทำให้หัวหน้าพรรคประสบความสำเร็จ"
@ 'ธรรมนัส'พร้อมหนุน'บิ๊กป้อม'นำ พปชร.ขึ้นพรรคอันดับหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม การประชุมครั้งนี้ แม้ว่า พล.อ.ประวิตร จะเดินทางมาที่ จ.ขอนแก่น เพื่อหารือกับแกนนำพรรคเป็นการภายใน แต่ก็ไม่ได้เข้าร่วมประชุมใหญ่ร่วมกับสมาชิกพรรคแต่อย่างใด
หลังเสร็จสิ้นการประชุม ร.อ.ธรรมนัส นำคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ แถลงข่าวกับสื่อมวลชนครั้งแรกในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ คนที่ 3 โดย ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า หลังจากวันนี้จะนัดประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อกำหนดทิศทางเตรียมการสู่การเลือกตั้งในครั้งต่อไป ซึ่งที่อาจจะเป็น 1-2 ปีขึ้นอยู่กับสถานการณ์ จากนั้น พล.อ.ประวิตร พร้อมรองหัวหน้าพรรคทั้ง 4 คน จะร่วมกันทำงานเพื่อกำหนดนโยบายของพรรค ซึ่งมีประเด็นสำคัญคือจะทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองและประชาชน โดยเฉพาะในสถานการณ์บ้านเมืองที่ไม่ปกติ ต้องกำหนดทิศทางให้ชัดเจน ที่ผ่านมาพรรคเราถูกมองว่าแตกแยกแต่หลังจากนี้จะไม่มี เราจะไปด้วยกันทำงานเพื่อประชาชน ชาติบ้านเมือง รักษาไว้ซึ่งสถาบัน
"ที่ผ่านมา 2 ปี นโยบายพรรคเราดีอยู่แล้ว แต่ด้วยสถานการณ์ที่วุ่นวายหลายเรื่องโดยเฉพาะแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้การขับเคลื่อนนโยบายพรรคไม่ต่อเนื่อง จากนี้เราจะกำหนดให้ชัดเจนเพื่อเดินไปข้างหน้า ส่วนที่มีข้อสงสัยว่ากรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งไม่มีตัวแทนจากกลุ่มสามมิตรต้องชี้แจงว่าคณะกรรมการดังกล่าวจัดทัพจากโควต้าภาคเป็นหลัก" ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
เมื่อถามว่าหลังจากนี้จะไม่มีการเคลื่อนไหวเรื่องตำแหน่งในพรรคและในคณะรัฐมนตรีใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า การจะเดินไปข้างหน้าจะต้องปรึกษาหัวหน้าพรรคและเดินไปด้วยกัน ฉะนั้นเรื่องที่จะเกิดปัญหาเหมือนที่ในอดีต ตนมั่นใจว่าคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ จะไม่มีอีกต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่าหลายคนมองว่าเลขาธิการพรรค ส่วนใหญ่จะไม่เป็นแค่รัฐมนตรีช่วยว่าการ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า "เรื่องการบริหารพรรคกับตำแหน่งทางการเมืองคนละเรื่องกัน ผมอยู่ตรงนี้พร้อมทำงานในฐานะเลขาฯพรรค เพื่อนำพาพรรคและสมาชิกพรรค ส่วนตำแหน่งทางการเมืองเป็นคนละเรื่องกัน"
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาในการเลือกตั้งซ่อม เราไม่เคยแพ้ และคิดว่าการเลือกตั้งซ่อมหรือการเลือกตั้งในอนาคตมั่นใจว่าหัวหน้าพรรคและสมาชิกสามารถเดินไปข้างหน้าและจะเป็นพรรคใหญ่ที่มั่นคง จะเป็นพรรคอันดับหนึ่งได้ ส่วนหน้าที่ของเลขาธิการพรรค ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ผลักดันหัวหน้าพรรคให้เป็นนายกรัฐมนตรี ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า "เราเป็นพรรคใหญ่ มั่นใจว่าจะได้ ส.ส.มากกว่านี้ และจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้ต่อไป"
เมื่อถามว่าพล.อ.ประวิตร ได้มอบนโยบายอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร ได้ปฎิบัติภารกิจที่จังหวัดขอนแก่นและหารือกับแกนนำพรรคโดยมอบนโยบายเน้นให้เป็นหนึ่งเดียวกันและเดินไปข้างหน้า
อ่านประกอบ:
พี่น้องเหมือนเดิม! 'ธรรมนัส'จ่อลบภาพพรรคเฉพาะกิจ'อนุชา'ยันไร้ขัดแย้ง ปมเลขาฯคนใหม่
ปรับโครงสร้าง พปชร. 'บิ๊กป้อม' นั่งหัวหน้าตามเดิม เคาะ 'ธรรมนัส' นั่งเลขาฯ
'อนุชา'ปัดลาออกเลขาฯ พปชร.-'ธรรมนัส'ลั่นพร้อมรับตำแหน่ง หากพรรคไว้วางใจ
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่https://www.facebook.com/isranewsfanpage